ลงทุนหุ้นจีน jitta ranking China

ลงทุนหุ้นจีน jitta ranking China
โดยคุณเผ่า jitta พี่มี่ คนดีคนเดิม และคุณทีน่า

ขอบคุณที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=2965325933789409&set=a.1402781523377199

-------------------------

วันนี้ง่วงๆ นิดครับ แต่พอเจอจุด trigger ลุกมาจดยาวเลยจากฟังเพลินๆ อู้ๆ 555 พยามจด keynote สำคัญอะนะครับ อาจจะไม่ได้คำต่อคำ และมีตัวเลขทั้งหมด เอาให้พอเห็นภาพไอเดียนะครับ

- พี่มี่เล่าให้เราฟังว่า middle class จีน กำลังจะขึ้นไปแตะจำนวน 600 ล้านคน นั่นแปลว่ากำลังซื้อ กำลังลงทุนจะมาอีกมหาศาล

- ถ้าเลือกได้ พี่มี่จะเลือกหุ้น H-share (list ใน HK) มากกว่า A-share (list ใน Mainland : Shanghai Shenzhen) ถ้าเป็นของที่เหมือนกันเรียกว่าจะมี discount 15-30% หรืออีกมุมคือฝั่ง A-share โดนไล่ premium ต้องเรียกว่า cover ไป 60-70% ที่ dualist

- แต่ A-share บางตัวมันก็ไม่ได้ list ใน HK แต่ก็มีวิธีที่ซื้อได้ อาจจะยังไม่สะดวกมาก มี condition ต้องสั่งมาร์ให้ไปสั่งต่อ อย่างพี่มี่ใช้ของกสิกร หรือผ่านกองทุนบางกองที่เหมือนมี license

- คุณทีน่าแขร์ว่า A-share ดีๆ ที่ยังไม่เผยตัวก็ยังมีอีกเยอะ นึกภาพว่าเขาอาจจะ success แค่ในมณฑล ซึ่งเราพอประมาณได้ว่าประชากรอาจจะ 10 ล้านบวกลบ แต่ GDP เท่าไทย หรือครึ่งนึงของไทย หรือใหญ่หน่อยเศรษฐกิจเท่ายุโรปบางประเทศเหมือนเราเคยเห็นกัน เอาแค่เขาขยายไปมณฑลข้างๆ ก็มี runway ให้โตต่อแล้ว ไม่ต่างออก ตปท เลย culture อาจจะต่างกันบ้างตามภูมิภาค แต่อย่างน้อยก็ยังใช้ภาษาจีนเหมือนกัน ยังมีของดีซ่อนอยู่

- ยกตัวอย่าง Kweichow Moutai งี้ เคยเป็นรัฐวิสาหกิจแบบ local เลย แต่ transform จนยิ่งใหญ่อย่างที่เห็น >> อ่านเพิ่มได้ที่นี่ : https://www.facebook.com/100009360938125/posts/2834956356826368/?d=n

- คุณเผ่าให้ข้อมูลว่าอย่างในจีนแผ่นดินใหญ่จะมีรายย่อยราว 32% หรือคิดเป็น 200 ล้านคน คือก็ยังไม่ได้เยอะขนาดนั้นถ้าเทียบกับประชากร แต่คิดเป็นสัดส่วนการเทรดถึง 80% เทียบกับ H-share ที่ 20% เอง ฝั่ง HK จะนิ่งกว่า สวิงน้อยกว่า

- แต่อย่ามองว่าความผันผวนไม่ดี เพราะมันก็มีเสน่ห์ ก็คล้ายๆ ไทยในยุคนึง ปัจจุบันก็ยังมีความเปผ้นแบบนั่นแม้จะเบาลงจากกองทุนที่เยอะขึ้น เพราะรายย่อยไม่ได้สะท้อนแค่ความผันผวน ความ premium ของหุ้นที่เป็น market talk อีกด้านหนึงจะเจอหุ้น under value แต่คุณภาพดีจนน่าตกใจได้เช่นกัน แต่ถามว่าคนจีนเอามั้ย ไม่ จะซื้อปุ๊บกำไรปั๊บแบบนั่นอะ 555

- ตัวอย่างที่พี่มี่ยกของตลาดรายย่อยอันนึง คือ ที่ตุรกี พี่มี่เคยเจอ Coca Cola หรือ Coke เหนี่ยแหละของตุรกี เทรดอยู่ 0.2 P/BV ซึ่ง Coke ก็คือ Coke ไม่ต้องอธิบายเยอะ ????

- หรืออย่างคุณทีน่าเล่าว่าสวนสาธารณะกลางใหญ่กลางเซี่ยงไฮ้ people’s park งั้นอะ (คุณทีน่าพูดชื่อจีนจดไม่ทัน) เสาร์อาทิตย์จะมีคนมายืนมุงๆ ดูกราฟหุ้นกัน สอนกัน ชวนหาหุ้นเด็ด มีโบรกเกอร์ แต่มันเสาร์อาทิตย์อะเนอะ ไม่ได้ซื้อขาย แค่สะท้อนความอินของคนจีน

*** เสริมเอง ***

จริงๆ ผมเคยได้ยินคำว่า

คุยเรื่องการเมือง ให้คุยที่ปักกิ่ง
คุยเรื่องปากท้อง ให้คุยที่เซี่ยงไฮ้

น่าจะจริงนะฮะ ดูบ้าหุ้นบ้าค้าขายจริงๆ มีรูปเปิดกราฟกันที่สวนสาธารณะด้วยนะ เดี๋ยวแปะให้ดู ต้นปี 2019 ไปแล้วเดินผ่านพอดี ติดๆกับ Nanjing Road ที่เดินต่อไปถึง The Bund ได้

- ปีโควิด คนจีนเปิดบัญชีหุ้นเพิ่ม 18-19 ล้านบัญชีแหนะ คล้ายๆกันทั้งโลก

- ถามว่าทำไมเค้าถึงชอบการค้าการลงทุนกัน ก็อาจจะบอกว่าลักษณะของคนจีนนิยมเงินทอง ความร่ำรวย ความมั่งคั่ง ไหว้องค์ไฉ่ซิงเอี๊ยะ ประวัติศาสตร์การพนันก็เริ่มที่จีน การประดิษฐ์ลูกเต๋าไรแบบนี้ แล้วพี่มี่บอกเพื่อนๆคนจีนนี่จะกล้าได้กล้าเสีย มีอะไรก็ร่วมด้วย เอาด้วย ตังค์อาจจะยังไม่พอเลย ต่างกับเราคนไทยที่จะคิดเยอะๆกว่า กลัวนั่นกลัวนี่ dna ราชการ

- จะ A-share / H-share หรือ ADR (American DR) ก็ลงทุนได้ทั้งนั้นถ้าเราลงยาวและเข้าใจธุรกิจ

- อย่าง Meituan Dianping หลายคนก็เริ่มรู้จัก ไม่ได้รู้จักแค่ Alibaba / Tencent อาจจะพอนึกภาพ Wongnai + Food delivery ออก แต่การใช้งานจริง ยังไงก็ไม่เหมือน ประสบการณ์การใช้งานจริง อาจจะไม่ใช่สิ่งที่คนไทยคุ้น เพราะเราคุ้นแอพหรือ plaform จากฝั่งตะวันตกมากกว่า

- โอกาสยังมีอีกเยอะ เพราะจีนไม่ได้พัฒนาแค่ตึกรามบ้านช่องรถราหรืออะไรที่เป็น physical เพราะการบริโภคในด้านต่างๆ แทบจะอยู่บน smart phone ทั้งสิ้น

- การศึกษากิจการมันก็มีทั้งที่มี paper ภาษาอังกฤษและไม่มี แต่การดูผ่าน youtube ก็ช่วยได้เยอะ ไม่ใช่แค่การรีวิวหุ้น แต่การรีวิวแอพ หรือสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องดื่ม อาหาร นั้นๆ เลย

- พี่มี่เลยเสริมว่าเอาจริงๆ ภาพใหญ่คือต้องแยกก่อน ว่ากิจการในจีนมันจะเป็น 2 ขั้วเลย คือ tech ล้ำๆ แอพนั่น แอพนี่ AI IoT EV อะไรว่าไป กับ Old economy ไปเลย แต่ยังโตได้แบบเวียดนามโตงั้นอะ เพราะตลาดมันใหญ่ แล้วอยากที่ว่าขยายไปอีกแค่มณฑล หรือออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ขายได้แค่ 5% ของประชากรก็เปลี่ยนฐานะได้เลย กระทั่งการ fraud หรือเหตุการณ์แปลกๆ ในจีน ความรู้สึกของพี่มี่เองคือเจอในจีนยากกว่าเวียดนาม เพราะรัฐเองก็ค่อนข้างคุมเข้ม

- ประชากรจีน 1,400 ล้านคน เกิดใหม่ปีละ 12-13 ล้านคน คือ เยอะมาก ในขณะที่การทำงานก็ 9/9/6 ปะ (คุณคมสันต์นี่ 9/9/7 ????) หรือทำกัน 16 ชม บลาๆ ไทยทำ 8 ชม เหนื่อยละ เบื่อละ มันก็สะท้อนมาใน GDP

- พี่มี่บอกผู้ชายจีนสายเปย์มาก 555

- งบกำไรขาดทุน คือ ความเห็น แต่งบกระแสเงินสดคือของจริง จะซุกซ่อนลับลวงพรางน้อย แต่ถ้าบอกเป็นแนวแบบ ยอดวิว 1 ล้านวิว ของจริง report 1.5 ล้านวิวอะไรแบบนี้ มี แต่จะไม่ไปยุ่งอะไรกับงบเยอะ

- ความเสี่ยงจากรัฐบาลจีนล่ะ ?
ทั้ง 2 ท่านมองว่าจีนเลือกจะจัดการสิ่งที่ถูกต้องให้ได้ผลดีในระยะยาว อย่างที่ Alibaba เจอเขาก็พยายามเคลียร์การผูกขาด จัดระบบระเบียบให้เรียบร้อย หรืออย่าง Didi เองก็มีข้อมูลว่ารัฐบาลจีนแจ้งก่อนไป listed ในอเมริกา แต่อาจจะไม่เรียบร้อยเลยกลายเป็นโดนถอดจาก app store หลังเพิ่งเข้าตลาดไม่นาน หรืออย่างเคสเด็กติดเกม (กระทบ Tencent) เด็กกวดวิชามากไป (กระทบ EdTech ตัวดังๆ ก็ TAL ลงมาตั้ง 70-80%) ก็เป็นความพยายามจัดระบบระเบียบให้ดีในระยะยาว

- คำแนะนำของพี่มี่คือพยามดูคาแรคเตอร์ของผู้บริหารเหมือนกันว่าโผงผางมั้ย ชอบพูดชอบออกสื่อก็ทำมาหากินไปมั้ย ก็จะสุ่มเสียงที่จะโดนภาครัฐเพ่งเล็ง แต่เข้าใจว่าบริษัทจีนโตถึงจุดนึงจะมีสมาขิกพรรคคอมมิวนิสต์มานั่งบอร์ดอยู่ละ

- อีกวิธีคือกระจายความเสี่ยงแหละ อย่าใส่ไข่ในตะกร้าใบเดียว 15-20 ตัวว่าไป แต่ถ้ามันปัง ติดหุ้น 10 เด้งขึ้นมา 1-2 ตัว แล้วภาพใหญ่ที่เราเลือกถูก มันก็โอเค runway หุ้นจีนมันมีจากบริบทที่กล่าวมา

- ผู้ใช้ Didi นี่ 470 ล้านคนนะ ความถี่ผู้ใช้เดิมยังไงก็เหมือนเดิม แต่จะเพิ่มใหม่หรือเอากลับเข้า app store ได้ก็ต้องเคลียร์เรื่องที่รัฐบาลสั่งมาให้ได้ (แซวกันสงสัยมีสมาชิกพรรคระดับสูงนั่ง Didi แล้วกลัว data privacy หลุด)

- ต้องบอกว่าเวลานี้หุ้นจีนก็ช้ำจริงๆ -20% จาก peak ราวเดือน กพ ที่ผ่านมา และยังไม่รู้จะลงต่อแค่ไหน เมื่อไหร่

- แต่ถามว่าโอเคใช่จังหวะซื้อหุ้นจีนมั้ย ก็ยังตอบไม่ได้ เพราะพอ Didi โดน ก็กลัวจะวกมาหา Alibaba หรือยักษ์จีนตัวอื่นอีก แรงขายกองเอย ETF เอยก็ยังไม่หยุด แต่ใช่จุดที่ควรเริ่ม dca มั้ย ก็คิดว่าชนะในระยะยาวได้ละตรงนี้ แถมเทียบความถูกแพงกับฝั่งอเมริกาก็ดูจูงใจกว่า ในตัวที่ยังโดได้

- เหมือนที่บอกไว้ในรายการอิก จะซื้อหุ้นดีก็ได้แค่ตอน

1. ตัวกิจการเองมีปัญหา
2. ตัวอุตสาหกรรมมีปัญหา
3. ไม่ได้อะไรเลย แต่เจอวิกฤติ ทุกอย่างลงหมด

ตัวอย่างหุ้น A-share ซักคนละ 2 ตัว คุณทีน่าก่อน

600690 : Haier Smart Home
เพิ่งเปลี่ยนชื่อมาเลยจาก Haier Tsingtao ที่โตมาจาก local เลย เป็น top of mind ตู้เย็นของคนจีนเลย นอกจากจะเกิดและเติบโตจากตู้เย็น (ใครเคยอ่านที่คุณจางรุ่ยหมินเอาค้อนทุบตู้เย็นตอนยังทำไม่ได้คุณภาพอะ ????) ก็ขยายไปยุโรป เมกา นิวซีแลนด์ แน่นจากในจีนก่อน แล้วไปซื้อส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก GE, Sanyo จากญี่ปุ่น, Fisher and Paykel ของนิวซีแลนด์ แน่นอนว่าซื้อไม่พอ เรียนรู้และ copy จุดดีจุดแข็งมาด้วย ตามสไตล์จีน จนปัจจุบันมี Mkt cap ราว 3 แสนล้านหยวน เป็น top of mind ในฝรั่งเศส ในอินเดีย ขายไป 160 ประเทศทั่วโลก มี R&D 10 แห่งทั่วโลก แม้จะเป็น old economy แต่ก็ขึ้นมา 1 เด้งนะโควิด กำลังเดินไปสู่การเป็นจ้าว IoT ประมาณนี้

002236 : Zhejiang Dahua Tec
ถ้าท่านคุ้นเคยกับ 002415 Hangzhou Hikvision คงไม่ต้องอธิบาย products และ business model มาก ถ้านั่นเบอร์ 1 เจ้อเจียง ต้าหัว คือกล้องวงจรปิดเบอร์ 2 โลก ยอดขาย 60% อยู่ในประเทศ 40% ต่างประเทศไปกับธีม smart city / smart home ยอกจากเรื่องการจราจร หรือ ขนส่งสาธารณะแล้ว ยังไม่การใช้งานกับการติดตาม timeline ผู้ป่วยโควิดด้วย

มาฝั่งพี่มี่บ้าง

600104 : SAIC Motor
ผู้ผลิตรถยนต์สันดาปรายใหญ่ของเซี่ยงไฮ้ที่ขยับมาทำ EV กับเค้าบ้าง เอาคร่าวๆ คือ อย่าง Tesla เดือนก่อนส่งรถไปได้ 12,000 คัน SAIC Motors นี่ส่งไปได้ 30,000 คัน แต่จะเป็น mini EV คันละแสนกว่าบาทพี่มี่เลยมองว่าเขามี potential ทำควบคู่กับขายรถดั้งเดิมไป ก็ดูแล้วน่าจะไปได้ดี ดูดีกว่า BYD ด้วยไรงี้ ปีที่แล้วอาจจะเจอโควิด lockdown ปิดเมือง รายได้ กำไร -20% ทั้ง 2 ตัว แต่ P/E 10-12 เท่า เลยดูคุ้มค่า แถมออกขายนอกประเทศก็ไม่ไป brand ตัวเอง จับมือกับ Xiaomi แล้วใช้ brand Xiaomi EV ที่เราเห็นข่าวกันนั่นล่ะ

601838 : Bank of Chengdu
พี่มี่พาชวนดูธนาคารของจีนอีกรายที่อยู่ในเมือง tier 2 tier 3 ที่ยังดูไปได้ ถ้าบอกก่อนโควิดตีว่าปีๆ นึงเศรษฐกิจจีนโตปีละ 6% เมืองใหญ่ๆ tier 1 ปีกกิ่ง เซี่ยงไฮ้ อาจจะโตแค่ 4% นะ แต่เฉิงตูจะโต 7-8% แบบนี้ ข้ามโควิดไปอาจจะโต 10% ได้ กับประชากร 7-8 ล้านคน และขนาดเศรษฐกิจประมาณครึ่งนึงของไทย อยู่ประมาณตอนกลางประเทศ P/E 5-6 เท่า ปันผล 4-5% แล้วการกู้เค้าจะไม่กู้ข้ามโซนหรอก ก็อยู่ๆตามแต่ละโซนของตัวเอง ดูมีอนาคต แถมใช้ jitta line ยัง under ราว 59.5% พี่มี่เลยว่า เด้งนึงได้นะ 555 เสริมด้วยคุณทีน่าว่าเฉิงตูคือโซนที่ผู้หญิงสวยสุด ในจีน

Live 2 ชม ได้ความรู้เปิดโลกมากครับ ถึงจะเป็น session นำเสนอ Jitta Ranking China เริ่มต้น 1 ล้านบาทก็เถอะ แต่ได้ความรู้เพียบ ยังมีเนื้อหาอีก ราวๆ เกือบครึ่งฮะ แต่เป็นแนวคิดและข้อควรระวัง

เดี๋ยวไว้มาต่อให้นะ