ห้องเม่าปีกเหล็ก

ข่าวเย็น ประเด็นหุ้น วันที่ 25 ก.ย. 2566

โดย OttO
เผยแพร่ :
387 views

หุ้นไทย ปิดลบ 15.23 จุด ตามภูมิภาค กังวลอสังหาจีน-ติดตามสหรัฐร่างกฎหมาย

 

 

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 25 กันยายน ปิดที่ระดับ 1,507.36 จุด ลดลง 15.23 จุด (-1.00%) มูลค่าการซื้อขาย 42,193.50 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,661.64 ล้านบาท กองทุนซื้อสุทธิ 340.12 ล้านบาท

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับตัวลงตามทิศทางของตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ประเด็นหลักที่กดดันดัชนี คือ ความกังวลภาคอสังหาริมทรัพท์ของจีนหลังจากบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ไม่สามารถออกหุ้นกู้ใหม่ได้ และทางฝั่งสหรัฐที่ต้องติดตามการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณฯ ซึ่งหากยังไม่ได้ข้อสรุปภายในวันที่ 30 ก.ย. อาจมีความเสี่ยงเกิด Government shutdown

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) คาดว่าจะเป็นภาพของการไซด์เวย์สร้างฐาน โดยนักลงทุนจับตาดูทิศทางการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะมีการพิจารณามาตรการต่างๆ โดยเชื่อว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นทั้งมาตรการพักหนี้เกษตร หรือการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ต้องติดตามความคืบหน้าวงเงินงบประมาณต่างๆ ซึ่งอาจจะช่วยผลักดันดัชนีกลับมาได้ โดยหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ผลประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล อาทิ กลุ่มค้าปลีก แม้ว่าไตรมาส 3/66 ผลประกอบการอาจจะไม่โดดเด่นมาก แต่หากมองไปในไตรมาส 4/66 หุ้นกลุ่มดังกล่าวยังอยู่ในจุดที่น่าสนใจ อีกทั้งราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองต่อมาตรการภาครัฐเท่าไร ส่งผลให้อาจมีแรงเก็งกำไรเข้ามาได้บ้าง

ให้แนวรับ 1,500 จุด และแนวต้าน 1,520 จุด

5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด

  • BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,170.24 ล้านบาท ปิดที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
  • AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,595.20 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
  • PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,594.44 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  • EA มูลค่าการซื้อขาย 1,558.97 ล้านบาท ปิดที่ 53.00 บาท ลดลง 3.25 บาท
  • SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,483.23 ล้านบาท ปิดที่ 103.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

 

 

 

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.14/15 เคลื่อนไหวตามเยน อ่อนค่าสวนทางภูมิภาค คาดกรอบพรุ่งนี้ 35.90-36.20

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 25, 2023 17:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.14/15 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดตลาด เช้านี้อยู่ที่ 35.95 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทยังไร้ปัจจัยใหม่ เป็นแรงซื้อขายระหว่างวัน เคลื่อนไหวในกรอบ 35.93 - 36.15 บาท/ดอลลาร์ ด้านสกุลเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่แข็งค่ากว่าเงินบาท ยกเว้นเงินเยนที่อ่อนค่า

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.90 - 36.20 บาท/ดอลลาร์ ส่วนคืนนี้ยัง ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 148.59/60 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 148.35 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0631/0636 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0647 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,507.36 จุด ลดลง 15.23 จุด (-1.00%) มูลค่าซื้อขาย 42,194.46 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,739.16 ลบ.(SET+MAI)
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า มาตรการฟรีวีซ่าจะสามารถกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน ให้เดิน

ทางเข้าประเทศไทยประมาณ 4.01-4.40 ล้านคน ในปี 66 และผลักดันรายได้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนสู่เป้าหมาย 257,500 ล้านบาท ส่วน

นักท่องเที่ยวคาซัคสถาน คาดว่าจะเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 150,000 คน ในปี 66

  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 27 ก.ย. นี้ กนง. มีแนว

โน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.25% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีโมเมนตัมชะลอลงสะท้อนผ่านตัวเลข GDP ในไตรมาส

2/2566 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ ทั้งเงินเฟ้อทั่วไป และเงินเฟ้อพื้นฐานก็อยู่ระดับต่ำกว่าเป้าหมายของ กนง. ที่ 1-3%

อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ยังคงเผชิญความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ที่จะกดดันการส่ง

ออกและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวของไทย

  • นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ 2.25%

ในการประชุมวันที่ 27 ก.ย. นี้ และจากนั้นจะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับดังกล่าวไปจนถึงปี 68 ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดวงจรการคุม

เข้มทางการเงินนานนับปี แม้จะมีนักเศรษฐศาสตร์บางรายที่ยังคงคาดการณ์ว่า ธปท. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกหนึ่งครั้งก็ตาม

  • นักวิเคราะห์จากบริษัทอีเบอรี (Ebury) และโซซิเอเต้ เจเนเรล (Societe Generale) คาดการณ์ว่า เงินบาทของ

ไทยมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้คำมั่นว่าจะเร่งผลักดันเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตอย่างแข็ง

แกร่ง

  • เงินเยนอ่อนค่าลงใกล้แตะระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์ในวันนี้ (25 ก.ย.) ซึ่งเป็นระดับที่ตลาดคาดการณ์ว่าอาจผลักดันให้

รัฐบาลญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา โดยเงินเยนอ่อนค่าลงหลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และผู้ว่าการ BOJ ยืนยันว่า BOJ

จะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultra-loose monetary Policy) ต่อไป ซึ่งเป็นการดับความหวังของตลาดที่คาด

การณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า BOJ อาจจะส่งสัญญาณยุติการใช้นโยบายดังกล่าว

 

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 25, 2023 16:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงการต่างประเทศของไทยระบุผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อวันอาทิตย์ (24 ก.ย.) ที่ผ่านมาว่า ไทยและซาอุดีอาระเบียได้มุ่งสานต่อพลวัตความร่วมมือทวิภาคี หลังจากทั้งสองประเทศฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัน ในช่วงที่คณะผู้นำไทยร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นครนิวยอร์กของสหรัฐระหว่างวันที่ 18 ? 24 ก.ย. 2566 โดยพิจารณาใช้ระบบ e-Visa ของซาอุดีอาระเบีย และความเป็นไปได้ในการเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างซาอุดีอาระเบียกับภูเก็ต

-- สำนักข่าว PTI ของอินเดียรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียว่า บริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ วางแผนที่จะเพิ่มการผลิตในอินเดียมากกว่า 5 เท่าในช่วง 5 ปีข้างหน้า

-- นโยบายที่เอื้อต่อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของอินโดนีเซียได้ดึงดูดให้นักลงทุนทั่วโลกหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศ ขณะเดียวกันกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นโยบายดังกล่าวของอินโดนีเซียนั้นจะช่วยหนุนการลงทุนด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศต่าง ๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

-- นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ 2.25% ในการประชุมวันที่ 27 ก.ย.นี้ และจากนั้นจะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับดังกล่าวไปจนถึงปี 2568 ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดวงจรการคุมเข้มทางการเงินนานนับปี แม้จะมีนักเศรษฐศาสตร์บางรายที่ยังคงคาดการณ์ว่า ธปท.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกหนึ่งครั้งก็ตาม

- สภากำกับดูแลด้านการเงินของออสเตรเลีย (CFR) เปิดเผยในรายงานรายไตรมาสว่า หากเศรษฐกิจจีนถดถอยในระดับที่รุนแรงมากขึ้น จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อออสเตรเลีย เนื่องจากจะทำให้การค้าอ่อนแอลง และทำให้นักลงทุนลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดการเงิน โดยจีนถือเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย

-- สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ไม่เปิดเผยชื่อกลุ่มหนึ่งในวันอาทิตย์ (24 ก.ย.) ว่า สหรัฐกำลังเตรียมที่จะอนุญาตให้พลเมืองอิสราเอลเดินทางเข้าสหรัฐโดยไม่ต้องใช้วีซ่า

-- โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า บริษัทบัตรเครดิตในสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการขาดทุนมากที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกครั้งใหญ่ (Great Financial Crisis)

-- นักวิเคราะห์จากบริษัทอีเบอรี (Ebury) และโซซิเอเต้ เจเนเรล (Societe Generale) คาดการณ์ว่า เงินบาทของไทยมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ให้คำมั่นว่าจะเร่งผลักดันเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

-- บริษัทเอไซ (Eisai) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาของญี่ปุ่นเปิดเผยวันนี้ (25 ก.ย.) ว่า กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นได้อนุมัติการใช้ยา "เลเคมบิ (Leqembi)" ในการยารักษาโรคอัลไซเมอร์ โดยเลเคมบิเป็นยาที่บริษัทเอไซพัฒนาร่วมกับบริษัทไบโอเจน (Biogen) ของสหรัฐ

-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เกาหลีใต้กำลังพยายามที่จะเชิญประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนเดินทางเยือนประเทศเป็นครั้งแรกในรอบประมาณ 1 ทศวรรษ เพื่อพลิกฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างกัน หลังเกาหลีใต้ให้ความสนิทสนมกับสหรัฐมากกว่า

-- นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทยกล่าวในวันอาทิตย์ (24 ก.ย.) ว่า เทสลา (Tesla) กูเกิล (Google) และไมโครซอฟท์ (Microsoft) อาจทุ่มเม็ดเงินอย่างน้อย 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

 

 

 

 

 

 


OttO