เนื่องจากมีคนสงสัยและสอบถามเข้ามาเยอะเกี่ยวกับข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในข้อสังเกตของผู้สอบบัญชีต่องบการเงินไตรมาส 2/2560 และที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เกี่ยวกับการด้อยค่าเงินลงทุนใน CCF ที่ศรีลังกา ว่าจะทำให้ผลประกอบการไตรมาส 3 หรือ 4 ออกมาขาดทุนได้หรือไม่
ผมขอชี้แจงรายละเอียดดังนี้นะครับ
1. CCF ถือเป็นบริษัทร่วมของ GL มีการบันทึกเงินลงทุนใน CCF ทั้งหมดไว้เป็นการลงทุนระยะยาวในบริษัทร่วมในงบดุล (ไม่มีการบันทึก Goodwill แต่อย่างใด) ประมาณ 2.5 พันล้านบาท
2. กำลังมีการประเมินมูลค่ายุติธรรมของ CCF ใหม่จริง เพราะมีข้อบ่งชี้โดยผู้สอบระบุว่ามูลค่าหุ้นของ CCF ลดลงมาต่อเนื่อง ทำให้ต้องมีการทบทวนมูลค่ายุติธรรมใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จภายในไตรมาส 3 นี้
3. หากการประเมินมูลค่ายุติธรรมใหม่โดย IFA แล้วได้ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี หรือมูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้นในตอนแรก ก็จะต้องมีการบันทึกด้อยค่าในงบกำไรขาดทุน ซึ่งน่าจะเห็นในไตรมาส 3 หรือ 4 ที่จะถึงนี้ ในทางตรงกันข้าม หากมูลค่ายุติธรรมสูงขึ้น ก็จะมีการบันทึกเป็นกำไร
4. ในตอนแรกก่อนที่ GL จะไปตกลงราคาซื้อหุ้น CCF ได้จ้าง PWC มาประเมินมูลค่ายุติธรรมของ CCF แล้วได้มูลค่าที่ 1,900-2,500 ล้าน GL จึงยอมตกลงซื้อหุ้นที่ราคา 2,500 ล้าน แต่ต่อมาต้องมีการจ้าง IFA มาประเมินอีกรอบเพื่อประกอบการพิจารณาในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในการขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น ตอนนั้น IFA คือ บริษัท Grant Thornton Services Company Limited ได้ประเมินออกมาได้มูลค่ายุติธรรมคือ 1,600-1,700 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาที่ GL จะเข้าไปซื้ออย่างมาก เป็นเหตุให้ IFA รายนี้แนะนำให้ผู้ถือหุ้นโหวต "ไม่เห็นด้วย" ในการประชุมผู้ถือหุ้น แต่ในที่สุดผู้ถือหุ้นก็โหวตผ่านด้วยคะแนนเสียง 1,103,947,934 คะแนน หรือคิดเป็น 97.6767% ของผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง
5. สังเกตดูจะพบว่ามูลค่ายุติธรรมที่ประเมินโดย PWC นั้นแตกต่างจาก Grant Thornton อย่างมาก คงไม่ต้องอธิบายมากนะครับว่า PWC นั้นเป็น
1 ใน Big4 ของสำนักงานบัญชีที่ใหญ่และมีชื่อเสียงความน่าเชื่อถืออันดับต้นๆของโลกนี้ ย่อมดูน่าเชื่อถือกว่า แล้วปัญหาคืออะไร เกิดอะไรขึ้นกับ IFA และรายงานของ IFA รายนี้ คำตอบคือ Grant Thornton นั้นเลือกใช้วิธีคิดลดกระแสเงินสด (Discounted Cash Flow) ในการประเมินมูลค่า CCF ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วโลกว่าสำหรับธนาคารหรือสถาบันการเงิน ไม่สามารถใช้วิธี DCF ในการประเมินมูลค่าได้ ซึ่ง PWC ก็ได้อธิบายเช่นนั้นและเลือกใช้วิธี Residual Income Approach ในการประเมินมูลค่า CCF ซึ่งตอนที่ผู้บริหาร GL เลือก Grant Thornton มาเป็น IFA ก็ไม่นึกคิดว่า Grant Thornton จะเลือกใช้วิธีนี้ในการประเมินมูลค่า CCF ทำให้ผู้บริหารไม่พอใจอย่างมากแต่ก็แก้ไขไม่ทันแล้ว
ซึ่งหวังว่าตอนนี้ที่กำลังทำการประเมินมูลค่า CCF เป็นครั้งที่ 3 จะมีการพูดคุยทำความเข้าใจถึงวิธีการประเมินที่เหมาะสมให้เรียบร้อยก่อน และมีความเป็นไปได้ที่จะไม่เกิดการด้อยค่าขึ้น หรืออาจจะด้อยค่าไม่มาก ทั้งนี้ขึ้นกับว่าช่วงที่ผ่านมา CCF มีการดำเนินงานดีกว่าหรือแย่กว่าสมมติฐานที่เคยให้ไว้ในการประเมินมูลค่าที่ผ่านมา และการแข็งค่าของเงินบาทเทียบกับงินรูปีศรีลังกาประมาณ 10% นั้นจะกระทบต่อการประเมินมูลค่าหรือไม่ โดยเนื้อหาใน IFA report หัวข้อ 3.1.4 ก็มีพูดถึงวิธีการประเมินของ PWC ไว้ตามรูปที่แนบมา