BTG ขึ้นแท่น IPO กลุ่มอาหาร
ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นไทย
ชี้ราคา 40 บาทถือว่าเหมาะสม

.
BTG หรือบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) กำลังจะสร้างประวัตศาสตร์ของตลาดหุ้นไทย และในอาเซียน โดยบริษัทกำลังจะเข้า IPO มูลค่าการเสนอขายรวม 20,000 ล้านบาท นับเป็น IPO หุ้นกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารที่มีมูลค่าเสนอขายสูงสุดในตลาดทุนไทย เชื่อราคาหุ้น IPO 40 บาท เป็นระดับที่เหมาะสมต่อแนวโน้มการเติบโตในอนาคต เผยมีนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวม 25 แห่ง เซ็นสัญญาลงทุนเพื่อเป็น Cornerstone Investors พร้อมเปิดให้นักลงทุนที่เป็นลูกค้าของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์จองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 10 – 12 และ 17 ต.ค.นี้ และคาดจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักฯ ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพ.ย. 65
.
นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ ประธานสายวานิชธนกิจและตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG กล่าวถึงความคืบหน้าแผนการเสนอขายหุ้น IPO และการนำหุ้น BTG เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยหุ้น BTG ได้กำหนดราคาเสนอขายที่ 40.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายรวมไม่เกิน 20,000 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) นับเป็น IPO ของหุ้นในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทยเท่าที่เคยมีมา และยังมีมูลค่าการเสนอขายสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้ รวมทั้งยังได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันทั่วโลก โดยมีนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเข้าลงนามในสัญญาลงทุนในหุ้น BTG เพื่อเป็น Cornerstone Investors ทั้งหมด 25 ราย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,286 ล้านบาท หรือคิดเป็น 77.1% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันทั่วโลกในเบื้องต้น (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)
.
“ราคาหุ้น IPO ที่ 40 บาท นับเป็นราคาที่เหมาะสม โดยประเมินบนพื้นฐานการเติบโตในอนาคต ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 8 แห่ง ที่มีส่วนร่วมการในจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ BTG ในครั้งนี้ คาดการณ์กำไรต่อหุ้นของ BTG ในปี 2566 ที่ราว 4.25 - 4.50 บาท คิดเป็น P/E ประมาณ 9 เท่า จึงมั่นใจว่าเป็นราคาที่เหมาะสมกับแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในอนาคต”
.
ด้านนายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นสามัญของ BTG ในครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่เป็นลูกค้าของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์สามารถจองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่ 10 – 12 และ 17 ตุลาคมนี้ และคาดจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักฯ ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายนนี้
.
สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญของ BTG ในครั้งนี้ มีจำนวนไม่เกิน 500.0 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ (รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัทฯ ในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) ประกอบไปด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 434,800,000 หุ้น หรือไม่เกิน 21.7% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดหลัง IPO บนสมมติฐานว่ามีการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกินเต็มจำนวน และอาจพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Overallotment Option) จำนวนไม่เกิน 65,200,000 หุ้น หรือคิดเป็น 15.0% ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายตั้งต้น ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ในการรักษาระดับราคาหุ้น (Stabilization) ในช่วง 30 วันแรกหลังจากที่หุ้น BTG เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้นและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
.
โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย รวมทั้งมีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 6 ราย ประกอบด้วย 1. บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน), 2. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน), 3. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด, 4. บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด, 5. บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ 6. บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด โดยบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินและดำเนินการรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้น (Overallotment and Stabilizing Agent)