เลื่อน ไม่ เลื่อน “ภาษี”

เลื่อน ไม่ เลื่อน “ภาษี” |ออฟเรคคอร์ด

ขึ้นชื่อว่า “ภาษีขายหุ้น” ที่คลังประกาศเก็บจริงเก็บจังทุกรายการที่มีการขาย 0.10 % และมีโปรโมชั่นช่วงแรก 0.05 % คาดการณ์เวลาทันได้ใช้ไตรมาส 2 ปี 2566 ก็ไม่พ้นอาการส่ายหน้าไม่เห็นด้วย

๐๐๐ เลื่อน ไม่ เลื่อน “ภาษี”

      ขึ้นชื่อว่า “ภาษีขายหุ้น” ที่คลังประกาศเก็บจริงเก็บจังทุกรายการที่มีการขาย 0.10 %  และมีโปรโมชั่นช่วงแรก 0.05 %  คาดการณ์เวลาทันได้ใช้ไตรมาส 2 ปี 2566  ก็ไม่พ้นอาการส่ายหน้าไม่เห็นด้วย

   “เสียงต่อว่า” จากนักลงทุนทุกกลุ่ม และ “เสียงค้าน”  จากหน่วยงานตลาดทุน งัดเอาผลการศึกษา -ทำเคสผลกระทบส่งให้พิจารณาก็แล้ว  “เรื่องเงียบ” หายเข้าฝั่งเสมือนคิดดีมากแล้วต้องเก็บรายได้จากตลาดทุนไทยว่างั้น 

       ช่วงคาบลูกคาบดอก สภาผู้แทนราษฎร์กำลังจะหมดอายุ หรือ อาจจะมีการชิงโอกาส  “ยุบสภาฯ”  ตามสูตรการเมืองให้ได้เห็นซะก่อนเพราะกำหนดการเลือกตั้งมาเรียบร้อยแล้วช่วงพ.ค. 2566 

       ทำให้การเตรียมประกาศใช้ผ่านราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลภายใน 90 วัน ต้องเลื่อนออกไปอัตโนมัติ หรือจะให้ทันใช้เก็บจริง ต้อง ประกาศภายในเดือนม .ค.   แต่ตามการวิเคราะห์คอการเมืองแล้ว “ น่าจะไม่ทัน ”  

      เลยต้องโยน เผือกร้อน  - ตลาดทุน ไปที่รัฐบาลชุดใหม่เข้ามารับหน้าเสื่อแทน เพราะประเด็นมันอ่อนไหว “ฐานเสียงตลาดทุน” ดูถูกกันไม่ได้นะจะบอกให้  

๐๐๐

    ตลาดหุ้นในเอเชีย เริ่มกลับมาทยอยเปิดทำการหลังหยุดยาวตรุษจีนยกเว้นตลาดจีน-ฮ่องกงและไต้หวันยังหยุดทั้งสัปดาห์ ส่งผลทำให้ตลาดหุ้นกลับมาโฟกัสตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่เตรียมจะประกาศทั้ง GDP และ CORE PCE ท่ามกลางการติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED)

๐๐๐

       ขณะที่ไทยหลังการ ประชุมกนง. ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด 0.25 % เป็น 1.50% ซึ่งมีมุมมองเศรษฐกิจไทยฟื้นจากท่องเที่ยวและตลาดจีนกลับมา แต่ยังเป็นห่วงเงินเฟ้อพื้นฐานและการส่งออกที่จะฟื้นตัวคือปี 2557 !!  ทำให้ ตลาดคาดการณ์ดอกเบี้ยขึ้นต่อไม่ต่ำกว่า 4 ครั้งในปีนี้ 

๐๐๐

     ปัจจัยด้านดอกเบี้ยมีผลต่อ หุ้นการเงิน ทั้งกลุ่ม  เริ่มที่ “กลุ่มแบงก์” หลังประกาศงบแย่แบบเซอร์ไพรส์มีแรงซื้อกลับคาดหวังเศรษฐกิจดีและ  NIM เติบโตต่อ  ส่วน “กลุ่มไฟแนนซ์” แม้ต้นทุนการเงินจะเพิ่มขึ้นแต่ภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นลูกหนี้มีงาน-เงินมาชำระหนี้ และยังมีความต้องการสินเชื่อเงินสดทำให้มีโอกาสฟื้นตัว ส่วน “กลุ่มประกัน” เจอแรงกดดันจาก Bond Yield ที่ไม่ได้สูงมากเหมือนปี 2565 บวกกับผลกระทบการเคลมประกันถูกขายแทน 

๐๐๐

       สวนทางกลุ่ม “จีนเปิดประเทศ” ยิ่งมี “เราเที่ยวด้วยกันเฟส5” อีก 5.6 แสนสิทธิ ช่วง ก.พ.-ก.ย. 66 วงเงิน2,016 ล้านบาทให้เงินหนุนค่าห้องพัก 40% ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน สูงสุด 5 ห้อง และคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว (e-Voucher) 600 บาท/วัน ทำให้ท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศคึกคัก 

       หุ้นท่องเที่ยวขึ้นมารอรับนี้ MINT และ  ERW  ที่เซอร์ไพรส์ คือ “เจ้าจำปี” THAI เข้าแผนฟื้นฟูกิจการไปปี 2565 ด้าน “ชาญศิลป์ ตรีนุชกร” ผู้บริหารแผนฟื้นฟู คาดว่าจะนำหุ้น THAI กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นช่วงปลายปี2567-2568  หลังเพิ่มทุน 31,500 ล้านหุ้น

๐๐๐

ยังดราม่ากันไม่จบกรณีประกาศ เพิ่มทุน JKN ที่ 3.00 บาท จนทำให้ราคาหุ้นสาละวันเตี้ยลงถึง 3.14 บาทจน “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์  ”  ​ ​เตรียมเคลีย์ทุกปมประเด็นทั้ง ซื้อกิจการ MUO- ขายหุ้นก่อนเพิ่มทุนผู้ถือหุ้นเดิม และอนาคตธุรกิจนางงาม ให้ได้ซักถามแต่กลับยกเลิิกในท้ายที่สุด .. ไม่พร้อมจะตอบคำถามหรือติดงานเข้ากันละเนี้ย

๐๐๐

        ก.ล.ต.  เดินหน้าต่อเนื่องนำเกณฑ์ใหม่คุม utility token  การเริ่มบังคับใช้เกณฑ์การกำกับดูแลตลาดแรกและตลาดรอง คาดว่าจะเริ่มในช่วงไตรมาส 2/25 กลุ่มที่ 1 ที่ผู้ประกอบการนำมาใช้ สำหรับการทำกิจกรรมทางการตลาดด้าน CRM หรือ Loyalty ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตกับ ก.ล.ต. 

         แต่กลุ่มที่ 2 ที่ซื้อขายในตลาดรอง ผู้ประกอบการที่มีแผนจะออก utility token พร้อมใช้ ต้องยื่นไฟลิ่งขออนุญาตจาก ก.ล.ต. และจะต้องรายงาน เปิดเผยข้อมูลต่างๆ ตามกฎระเบียบใหม่เหมือนกับเปิดเผยข้อมูลของตลาดหุ้น ส่วน utility token พร้อมใช้ที่ออกไปแล้วก่อนเกณฑ์ใหม่ก็จะต้องเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ตามกฎระเบียบใหม่ที่ออกมาแจ้งให้กับนักลงทุนได้ทราบ เหมือนการรายงานข้อมูลข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ

๐๐๐

     ปิดท้ายกับ  หุ้นสุดฮอตและยัง รวมดาว หุ้นไทย MASTER ที่นอกจากราคาหุ้นแรงสมราคาคุยจากไอพีโอ 46.00 บาท นิวไฮที่ 70.75 บาท แต่รายชื่อผู้ถือหุ้นคับคั่งไปด้วย “เซียนหุ้น - เหล่าบจ.” ​ “สุขสันต์ ยศะสินธุ์”  ผู้ถือหุ้นใหญ่ CHAYO ถือหุ้น 5 ล้านหุ้น หรือ 2.10 %  “สุระ คณิตทวีกุล”  ผู้ถือหุ้นใหญ่ COM7 ถือหุ้น 3.68 ล้านหุ้น หรือ 1.53%  “นพ. พงษ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี ” ถือหุ้น 3.63 ล้านหุ้น หรือ 1.51 %   และ “ไพบูลย์ เสรีวัฒนา”  ถือหุ้น 3.10 ล้านหุ้น หรือ 1.29% เป็นต้น