ห้องเม่าปีกเหล็ก

ทำสัญญาเช่า ซื้อขาย กู้ยืม ต้องติด 'อากรแสตมป์' ให้ถูกต้อง

โดย light
เผยแพร่ :
87 views

ทำสัญญาเช่า ซื้อขาย กู้ยืม ต้องติด 'อากรแสตมป์' ให้ถูกต้อง

 

ทำความเข้าใจ "อากรแสตมป์" สำคัญอย่างไร? ทราบหรือไม่ ในทุกการให้เช่า ซื้อขาย หรือกู้ยืม หากมีการ "ทำสัญญา" เพื่อให้มีผลในทางกฎหมาย ต้อง "ติดอากรแสตมป์" ด้วยทุกครั้ง

ไม่ว่าใครที่มีการเช่า ซื้อขาย หรือกู้ยืม ต้องมีการ "ทำสัญญา" เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างถูกต้อง และมีผลในทางกฎหมาย ซึ่งเอกสารในการทำสัญญาก็จะต้องติดอากรแสตมป์ด้วยทุกครั้ง หรือภาษาทางการเรียกว่า “ตราสาร

  • 28 ลักษณะ "ตราสาร" ที่ต้องติดอากรแสตมป์

สำหรับการทำสัญญา หรือภาษาทางการเรียกว่า “ตราสาร” เพื่อให้มีผลทางกฎหมายนั้น ปัจจุบันมีทั้งหมด 28 ลักษณะตราสาร ที่กฎหมายบังคับให้ต้องติดอากรแสตมป์ ดังนี้

1.เช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นหรือแพ

2.โอนใบหุ้น ใบหุ้นกู้ พันธบัตรและใบรับรองหนี้ ซึ่งบริษัท สมาคม คณะบุคคลหรือองค์การใดๆ เป็นผู้ออก

3.เช่าซื้อทรัพย์สิน

4.จ้างทำของ

5.กู้ยืมเงิน หรือการตกลงให้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคาร

6.กรมธรรม์ประกันภัย

7.ใบมอบอำนาจ

8.ใบมอบฉันทะสำหรับให้ลงมติ

9.ตั๋วแลกเงินหรือตราสารทำนอวเดียวกับที่ใช้อ่างตั๋วแลกเงิน และตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตราสารทำนองเดียวกับที่ใช้อย่างตั๋วสัญญาใช้เงิน

10.บิลออฟเลดิง

11.ใบหุ้น หรือใบหุ้นกู้ หรือใบรับรองหนี้ของบริษัท สมาคม คณะบุคคล หรือองค์การใดๆ และพันธบัตรของรัฐบาลใดๆ ที่ขายในประเทศไทย

12.เช็ค หรือหนังสือคำสั่งใดๆ ซึ่งใช้แทนเช็ค

13.ใบรับฝากเงินประเภทประจำของธนาคารโดยมีดอกเบี้ย

14.เลตเตอร์ออฟเครดิต

15.เช็คสำหรับผู้เดินทาง

16.ใบรับรอง

17.ค้ำประกัน

18.จำนำ

19.ใบรับของคลังสินค้า

20.คำสั่งให้ส่งมอบของ

21.ตัวแทน

22.คำชี้ขาดของอนุญาโตลาการ

23.คู่ฉบับหรือคู่ฉีกแห่งตราสาร

24.หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทจำกัดที่ส่งต่อนายทะเบียน

25.ข้อบังคับของบริษัทจำกัดที่ส่งต่อนายทะเบียน

26.ข้อบังคับใหม่หรือสำเนาหนังสือบริคณห์สนธิหรือข้อบังคับของบริษัทจำกัด ซึ่งเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ส่งต่อนายทะเบียน

27.หนังสือสัญญาห้างหุ้นส่วน

28.ใบรับ

โดยเอกสารทั้งหมดนี้ ต้องปิดอากรแสตมป์และขีดคร่อมด้วย จึงจะถือว่าเป็นเอกสารสัญญาที่สมบูรณ์

  • ใครมีหน้าที่เสียอากรแสตมป์บ้าง

สำหรับเอกสารสัญญาที่มีการจัดทำขึ้น ต้องติดอากรแสตมป์ด้วยทุกครั้ง ซึ่งผู้ที่มีหน้าที่ต้องเสียอากรแสตมป์นี้จะประกอบไปด้วย

1.บุคคลที่ระบุไว้ในช่องที่ 3 ของบัญชีอัตราอากรแสตมป์

2.ถ้าตราสารทำขึ้นนอกประเทศ ให้เป็นหน้าที่ของผู้ทรงตราสารคนแรกในประเทศเป็นผู้เสียอากรภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับตราสารนั้น ถ้าหากไม่ได้ปฏิบัติตามความข้างต้น ผู้ทรงคนใดคนหนึ่งต้องเสียอากรแล้ว จึงยื่นตราสารเพื่อให้จ่ายเงิน รับรอง สลักหลัง โอนหรือถือเอาประโยชน์ได้

ผู้ทรงตราสารคนใด ได้ตราสารความข้างต้นไว้ในครอบครองก่อนพ้นกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับตราสารนั้น จะเป็นผู้เสียอากรก็ได้โดยมีสิทธิไล่เบี้ยจากผู้ทรงคนก่อนๆ

3.ตั๋วเงินที่ยื่นให้ชำระเงิน ไม่ได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์ ผู้รับตั๋วจะเสียอากรและใช้สิทธิไล่เบี้ยจากผู้มีหน้าที่เสียอากร หรือหักค่าอากรจากเงินที่จะชำระก็ได้

4.ผู้มีหน้าที่เสียอากร ตามที่ระบุไว้ในบัญชีอัตราอากรแสตมป์ อาจตกลงให้คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นผู้เสียอากรแทนตนก็ได้ เว้นแต่กรณีตามข้อ 2

  • อัตราอากรแสตมป์

ผู้จัดทำเอกสารสัญญาจะต้องปิดอากรแสตมป์ในอัตราที่แตกต่างกันตามประเภทสัญญาที่ทำ เช่น

- เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า มีการจัดทำสัญญาให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น เช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นหรือแพ ผู้ให้เช่ามีหน้าที่ติดอากรแสตมป์ ในอัตราภาษี คือมูลค่าสัญญาเช่า 1,000 บาท ติดอากรแสตมป์ 1 บาท

- การจ้างทำของ ยกเว้นสัญญาที่ทำขึ้นนอกประเทศไทยและการปฏิบัติตามข้อสัญญานั้นไม่ได้ทำในประเทศไทย ผู้รับจ้างมีหน้าที่เสียค่าอากรแสตมป์ 1 บาทต่อจำนวนเงิน 1,000 บาท หรือเศษของเงิน 1,000 บาท แห่งสินจ้างที่กำหนดไว้

- กู้ยืมเงิน ผู้ให้กู้มีหน้าที่เสียค่าอากรแสตมป์ 1 บาทต่อจำนวนเงิน 2,000 บาท หรือเศษของเงิน 2,000 บาท แห่งยอดเงินที่กู้ยืม ค่าอากรตามลักษณะแห่งตราสารนี้ เมื่อคำนวณแล้วถ้าเกิน 10,000 บาท ให้เสีย 10,000 บาท

โดยสามารถตรวจสอบอัตราอากรแสตมป์ได้จากบัญชีอัตราอากรแสตมป์

  • วิธีการเสียภาษีอากรแสตมป์

1.แสตมป์ปิดทับ ปิดแสตมป์ทับกระดาษก่อนกระทำหรือในทันทีที่ทำตราสาร

2.แสตมป์ดุน ใช้กระดาษมีแสตมป์ หรือยื่นตราสารให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประทับแสตมป์ดุนและชำระเงิน

3.ชำระเป็นตัวเงิน ใช้แบบของและอนุมัติให้เสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน อ.ส.4 ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อากรแสตมป์ โดยแนบตราสารที่ขอเสียอากรไปด้วย และให้ยื่นต่อสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา

พร้อมกับทำการขีดฆ่าอากรแสตมป์ เพื่อไม่ให้ใช้แสตมป์ได้อีก โดยหากเป็นกรณีแสตมป์ปิดทับ ได้ลงลายมือชื่อหรือลงชื่อห้างร้านบนแสตมป์ หรือขีดเส้นคร่อมฆ่าแสตมป์ที่ปิดทับกระดาษ และลงวัน เดือน ปี ที่กระทำสิ่งเหล่านี้ด้วย

ในกรณีแสตมป์ดุนได้เขียนบนตราสารหรือยื่นตราสารให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประทับแสตมป์ดุน ให้แสตมป์ปรากฏอยู่ในด้านหน้าของตราสารนั้น

สรุป

ทั้งนี้ กรณีใครได้มีการเสียค่าอากรหรือค่าเพิ่มอากรเกินไปไม่น้อยกว่า 2 บาท สำหรับตราสารลักษณะเดียวหรือเรื่องเดียว สามารถส่งคำร้องเป็นหนังสือยื่นต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 6 เดือน นับแต่วันเสียอากรหรือค่าเพิ่มอากร และหากอธิบดีเห็นว่าเสียเกินไปจริงก็จะคืนค่าอากรหรือค่าเพิ่มอากรที่เกินไปแก่ผู้เสียอากร

แต่ในทางกลับกัน หากเอกสารสัญญาหรือตราสารใดไม่ปิดแสตมป์และขีดฆ่าอากรให้สมบูรณ์ จะใช้ต้นฉบับ คู่ฉบับ คู่ฉีก หรือสำเนาตราสารนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ จนกว่าจะได้เสียอากรโดยปิดแสตมป์ครบจำนวนอัตราในบัญชีท้ายหมวดอากรแสตมป์ และขีดฆ่าแล้ว แต่ทั้งนี้พนักงานเจ้าหน้าที่ยังมีสิทธิที่จะเรียกเงินเพิ่มอากร

 

----------------------------------
อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษีเพิ่มเติม คลิกที่นี่

 

 


light