หุ้นโรงไฟฟ้า: 2 ปัจจัยบวกที่กำลัง "ปลดล็อก" การเติบโต!

รู้ทันก่อนใคร! 

หุ้นโรงไฟฟ้า: 2 ปัจจัยบวกที่กำลัง "ปลดล็อก" การเติบโต!

ถ้าพูดถึงหุ้นโรงไฟฟ้า หลายคนอาจมองว่ามันน่าเบื่อและโตช้า แต่รู้หรือไม่ว่าตอนนี้มี 2 ปัจจัยสำคัญที่กำลังทำให้หุ้นกลุ่มนี้กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง?

นั่นคือ ดอกเบี้ยขาลง และ ราคาก๊าซที่ปรับตัวลดลง เรามาเจาะลึกกันว่าทำไมสิ่งเหล่านี้ถึงเป็นตัวแปรสำคัญที่กำลังปลดล็อกการเติบโตให้กับหุ้นกลุ่มนี้!

…

สถานการณ์ปัจจุบัน: ดอกเบี้ยลด ราคาก๊าซลง

ดอกเบี้ยลด = ต้นทุนลด: ธุรกิจโรงไฟฟ้าลงทุนมหาศาล และส่วนใหญ่ใช้เงินกู้ การที่ดอกเบี้ยลดลงจึงเหมือนกับบริษัทได้ส่วนลดค่าต้นทุนทางการเงินไปเต็ม ๆ ทำให้กำไรมีโอกาสดีดกลับ

ราคาก๊าซลง = กำไรพุ่ง: โรงไฟฟ้าหลายแห่งโดยเฉพาะกลุ่ม SPP (Small Power Producer) มีต้นทุนหลักคือก๊าซธรรมชาติ การที่ราคาพลังงานลดลงโดยที่ราคาขายไฟยังคงเดิม ทำให้อัตรากำไร (Margin) ของบริษัทมีโอกาสขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ

รู้ไว้: ช่วงที่ราคาหุ้นโรงไฟฟ้าปรับฐานลงมา นักวิเคราะห์มองว่าได้สะท้อนปัจจัยลบไปหมดแล้ว ทำให้ Upside ของหุ้นกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง!

..

เทคนิคการลงทุนแบบ "เซียน"

ก่อนจะเลือกซื้อหุ้นโรงไฟฟ้า ต้องดูให้เป็นว่าตัวไหนคือของจริง ไม่ใช่แค่มีโรงไฟฟ้าแล้วจะดีเสมอไป

PPA คือหัวใจ: PPA (Power Purchase Agreement) หรือสัญญาซื้อขายไฟฟ้าคือตัวบ่งชี้ความมั่นคงของรายได้ มองหาบริษัทที่มีสัญญายาวๆ อย่างน้อย 10-25 ปี เพื่อการันตีรายได้ที่แน่นอนในระยะยาว

รายได้ 2 ทาง: ดูว่าโรงไฟฟ้ามีรายได้จาก 2 ส่วนหรือไม่: ค่าความพร้อมจ่าย (Capacity Payment) ที่ได้จากความพร้อมในการผลิตไฟฟ้า (แม้อาจจะไม่ได้จ่ายไฟจริง) และ ค่าพลังงาน (Energy Payment) ซึ่งมาจากปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้จริง

ส่งผ่านต้นทุนได้ไหม?: ถ้า PPA มีเงื่อนไข Fuel Cost Pass-Through แปลว่าบริษัทสามารถส่งผ่านต้นทุนเชื้อเพลิงที่ผันผวนไปให้ลูกค้าได้ ทำให้ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงเรื่องราคาพลังงาน

กระจายความเสี่ยง: บริษัทที่มีพอร์ตโรงไฟฟ้าหลากหลายประเภท ทั้งพลังงานจากก๊าซและพลังงานหมุนเวียน จะช่วยลดความเสี่ยงจากราคาเชื้อเพลิงและสภาพอากาศได้ดีกว่า

..

หุ้นเด่นที่พวกเราคัดมาให้

จากปัจจัยบวกและสถานการณ์ปัจจุบัน มีหุ้นที่เรามองว่าน่าสนใจเป็นพิเศษ:

GPSC: หุ้นเด่นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ทั้งจากดอกเบี้ยและราคาก๊าซที่ลดลง เพราะมีสัดส่วนหนี้ดอกเบี้ยลอยตัวและเป็นโรงไฟฟ้า SPP

CKP: หุ้นที่กำลังเข้าสู่ช่วงพีคของปีจากฤดูกาลน้ำ และมีโครงการใหญ่อย่างโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลงพระบางที่จะเป็น Growth Story ในอนาคต

BGRIM และ GULF: เป็นหุ้นโรงไฟฟ้า SPP ที่จะได้รับอานิสงส์จากราคาก๊าซที่ลดลง ซึ่งจะช่วยหนุน Margin ให้ดีขึ้นในไตรมาสที่เหลือของปี

สรุป: หุ้นโรงไฟฟ้าที่เคยซบเซา กำลังจะกลับมามีสีสันอีกครั้งในเกมที่กำลังจะพลิกนี้ แต่ก่อนจะลงทุน อย่าลืมทำการบ้านอย่างละเอียดว่าบริษัทไหนมี PPA ที่แข็งแกร่ง มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี และมีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง เพื่อหา "ของจริง" ที่จะสร้างผลตอบแทนในระยะยาวให้กับพอร์ตของเราครับ!

แล้วคุณล่ะ? มองหุ้นโรงไฟฟ้าตัวไหนเป็น The Next Winner?

ที่มา.  หุ้นพอร์ทระเบิด