Volume & Time สำคัญอย่างไร ?

Volume & Time สำคัญอย่างไร ?

               เทรดเดอร์มือใหม่จำนวนไม่น้อยรวมทั้งตัวผู้เขียนเอง เมื่อแรกเริ่มเข้ามาในตลาดนั้น ไม่ได้ให้ความสำคัญกับปริมาณการซื้อขายเลย เพราะมองว่ามีพอร์ตการลงทุนไม่ใหญ่มาก ดังนั้น สภาพคล่องจึงไม่มีผลกระทบกับพอร์ต โดยไม่ได้มองถึงความสำคัญของปริมาณการซื้อขายที่มีลึกซึ้งมากกว่านั้น วันนี้จึงขอเปิดมุมมองเกี่ยวกับการซื้อขายให้กับเทรดเดอร์มือใหม่ทุกท่าน

               เทรดเดอร์หลายคนมุ่งเน้นความสนใจอย่างมากไปที่ราคา แม้ว่าราคาเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก แต่ก็ยังมีเรื่องอื่นๆในตลาดที่นอกเหนือไปจากราคา ปริมาณการซื้อขายจะมอบมิติที่เป็นประโยชน์และช่วยในการตัดสินใจเพิ่มขึ้น

              ปัจจัยที่สำคัญของการวิเคราะห์ตลาดที่สำคัญอย่างมากอีกตัวหนึ่งก็คือเวลาที่ตลาดอยู่และเคลื่อนไหวใน Time Frame ที่ต่างกัน ไม่ว่าจะวิเคราะห์กราฟรายวันละเอียดขนาดไหน แนวโน้มก็สามารถถูกรบกวนจากการเคลื่อนไหวของราคาใน  Time Frame อื่นได้ จึงเป็นที่มาของการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย และ Time Frame ของการเทรดร่วมกัน

ปริมาณการซื้อขาย

         ปริมาณการซื้อขายสะท้อนให้เห็นถึงกิจกรรมของเทรดเดอร์ แต่ละการซื้อขายจะทำให้เห็นพฤติกรรมของคนสองคน คนหนึ่งของหุ้นหนึ่งหุ้นอีกคนก็ซื้อหุ้นนั้นไป โดยทั่วไปเทรดเดอร์มักplot ปริมาณการซื้อขาย Histogram ซึ่งความสูงของ Histogram จะแสดงปริมาณการซื้อขายในแต่ละวัน ส่วนใหญ่เทรดเดอร์จะวางไว้ด้านล่างของกราฟราคา ปริมาณการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไปแสดงถึงการตอบสนองของตลาดต่อการแกว่งตัวของราคา

               เทรดเดอร์บางคนไม่สนใจปริมาณการซื้อขายพวกเขามักคิดว่าราคาได้สะท้อนทุกอย่างในตลาดไปหมดแล้ว โดยมักมีคำว่าที่ว่า คุณได้กำไรจากราคา ไม่ใช่ ปริมาณการซื้อขาย ในทางกลับกัน ผู้ที่เชี่ยวชาญในการเทรด จะรู้ดีว่าการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายจะช่วยให้พวกเขาเทรดได้ดีขึ้นกว่าเดิม จะสังเกตได้ว่า ตลาดไหนที่มีปริมาณการซื้อขายมาก  จะมีสภาพคล่องสูงกว่า เมื่อเทียบกับตลาดที่มีการซื้อขายบางๆ

การวัดปริมาณซื้อขาย

                วัดจากจำนวนหุ้นที่มีการเทรดกันจริงๆ เช่น ตลาด NYE จะรายงานปริมาณการซื้อขายด้วยวิธีนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่เป็นกลางที่สุดในการวัดการซื้อขายจำนวนการเทรดที่เกิดขึ้น ตลาดในบางประเทศรายงานปริมาณการซื้อขายด้วยวิธีนี้ วิธีนี้จะมีความเป็นกลางน้อยกว่า เพราะไม่ได้แยกความแตกต่างระหว่างออเดอร์ที่มีการเทรด 100,000 หุ้น กับ 100 หุ้น เลยวัดจากจำนวนครั้งที่ราคามีการเปลี่ยนแปลง (Trick Volume) ในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น 1 ชั่วโมง ใช้กับตลาดหุ้นบางหนึ่งที่ไม่มีการรายงานการซื้อขายระหว่างวัน ทำให้เทรดเดอร์ต้องหันมาใช้ Trick Volume แทนปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นจริง

 - Yoo -

อ้างอิง : investopidia.com , makemoney44.com