พาณิชย์ เผยส่งออก..ฟุ้งทั้งปีโตเกินเป้า

พาณิชย์ เผยส่งออกก.ค.โต 4.3% ฟุ้งทั้งปีโตเกินเป้า 4-5%

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกในเดือน ก.ค. มีมูลค่า 23,629.3 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 4.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่า 172,814.1 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 11.5% ส่วนการนำเข้าก.ค.มีมูลค่า 27,289.8 ล้านดอลลาร์ขยายตัว 23.9% และ 7 เดือน มีมูลค่า 182,730.4 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 21.4% ส่งผลให้ดุลการค้าก.ค. ขาดดุล 3,660.5 ล้านดอลลาร์ และ 7 เดือน

ขาดดุล 9,916 ล้านดอลลาร์

.

สำหรับการส่งออกของไทยในเดือน ก.ค. ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 ซึ่งเป็นผลจากความต้องการสินค้าเกษตรและอาหารที่สูงขึ้นตามปริมาณผลผลิตโลกที่ยังได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น การส่งออกธัญพืชได้อย่างจำกัดของยูเครนในช่วงเวลาก่อนหน้า มาตรการจำกัดการส่งออกของต่างประเทศ จึงทำให้ไทยได้รับประโยชน์ในฐานะเป็นแหล่งนำเข้าสำคัญ

.

อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวเล็กน้อย เนื่องจากภาคการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับเซมิคอนดักเตอร์เริ่มได้รับผลกระทบมากขึ้น และผลจากมาตรการล็อกดาวน์เมืองอุตสาหกรรมสำคัญของจีน ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการผลิตและการส่งมอบ

.

ขณะเดียวกันยังมีสินค้าบางกลุ่มที่ส่งออกได้ดี เนื่องจากได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องสำอาง สบู่ เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น

.

การส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญส่วนใหญ่ขยายตัวในอัตราชะลอลง จากเศรษฐกิจการค้าโลกที่มีแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในหลายประเทศ และความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ขณะที่การส่งออกไปจีนและญี่ปุ่นหดตัวตามภาคการผลิตและการบริโภคในประเทศที่ชะลอตัวจากผลกระทบของมารตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิดที่

เข้มงวด

.

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ในปีนี้การส่งออกของไทยจะขยายตัวเป็นบวกได้อย่างแน่นอน และมีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 4-5% โดยการส่งออกของไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยไทยมีการกระจายความเสี่ยงการส่งออกไปในหลายตลาดมากขึ้น นอกจากนี้ สินค้าเกษตรและอาหารที่ไทยมีศักยภาพในการผลิตและส่งออก ยังมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

.

ขณะเดียวกัน ยังมีปัจจัยบวกจากเงินบาทอ่อนค่าที่สนับสนุนให้ผู้ส่งออกไทยมีความสามาถทางการแข่งขัน และมีรายได้ในรูปของเงินบาทเพิ่มขึ้น ค่าระวางเรือที่มีแนวโน้มลดลง การขนส่งสินค้าเริ่มมีสัญญาณที่ดีจากปริมาณตู้สินค้าที่เข้ามายังไทย และจำนวนเที่ยวเรือที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งราคาพลังงานโลกมีแนวโน้มลดลง

.

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์จะเร่งดำเนินการส่งเสริมการส่งออก เพื่อผลักดันและอำนวยความสะดวกการส่งออกของผู้ประกอบการไทย เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าภายใต้ความร่วมมือมินิเอฟทีเอ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าไทย-ซาอุดิอาระเบีย การเดินทางไปเจรจากับผู้บริหารศูนย์การค้าในยุโรป การผลักดันสินค้าท้องถิ่นไทยสู่ตลาดต่างประเทศ และการลงพื้นที่พบผู้ประกอบการและเกษตร ซึ่งจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป

.

อย่างไรก็ตาม การส่งออกยังมีปัจจัยเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ และผลกระจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศคู่ค้า ซึ่งอาจทำให้กำลังซื้อและปริมาณสินเชื่อเพื่อการบริโภคชะลอตัว รวมถึงความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ในอนาคตที่อาจกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตของโลกและไทย ซึ่งจำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

***********************************