ห้องเม่าปีกเหล็ก

ธปท.คาดศก.ไทยจะโตเต็มที่-เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย ช่วงครึ่งหลังปี 66

โดย water
เผยแพร่ :
77 views

ธปท.คาดศก.ไทยจะโตเต็มที่-เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย ช่วงครึ่งหลังปี 66

ธปท.ชี้ไทยต้องเร่งเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจ รับมือผลกระทบโครงสร้างแรงงาน-ประชากรสูงวัย คาดศก.จะกลับมาโตเต็มที่ - เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย ช่วงครึ่งหลังปี 66 ด้านทิศทางดอกเบี้ยยังเป็นไปตามกลไก ส่วนจีดีพีปีนี้ - ปีหน้า ยังคงเป้าเดิมที่โต 3.2% และ 3.7% ตามลำดับ

.

นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในงานการประชุมนักวิเคราะห์ (Analyst Meeting) ครั้งที่ 4/2565 ว่า ในระยะต่อไปไทยจะต้องหาวิธีเพิ่มศักยภาพของเศรษฐกิจไทย เนื่องจากที่ผ่านมา ยอมรับว่า ศักยภาพของไทยมีแนวโน้มลดลง จากปัจจัยพื้นฐานหลัก คือ โครงสร้างแรงงาน ประชากรสูงวัย รวมถึงมีการลงทุนค่อนข้างน้อย ทำให้การยกระดับประสิทธิภาพระบบเศรษฐกิจทำได้ไม่เต็มที่

.

“ส่วนการจะหยุดการดำเนินนโยบายทางการเงินนั้น จะต้องดูแนวโน้มเศรษฐกิจการฟื้นตัว ซึ่งยังไม่ได้เต็มที่จนถึงครึ่งหลังของปี 66 และเงินเฟ้อยังไม่ได้ปรับเข้าสู่กรอบจนถึงครึ่งปีหลังเช่นเดียวกัน และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ยอมรับว่ายังสูงกว่าที่เคยเป็น แนวนโยบายที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เดินมายังคงมีแนวโน้มดำเนินการต่ออีกระยะ และดูแลเรื่องแรงกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อด้วย โดยราคาพลังงานยังคาดเดาไม่ได้และมาตรการภาครัฐที่อุดหนุนราคาพลังงานต้องมีความชัดเจนว่ามีมากน้อยแค่ไหน”นายปิติ กล่าว

.

ขณะที่การส่งผ่านดอกเบี้ยจากดอกเบี้ยนโยบายการเงินสู่ดอกเบี้ยของตลาดนั้น มองว่า เป็นไปค่อนข้างใกล้เคียงกับที่ธปท. คาดการณ์และสอดคล้องในอดีต

.

นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ คาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 3.2% ปี 66 ที่ 3.7% และปี 67 ที่ 3.9% แรงส่งสำคัญของปีนี้และปีหน้า คือการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นจากต้นปี แรงงานการจ้างงานดีขึ้นและทั่วถึง จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอุปสงค์ในประเทศขยายตัวดี

.

โดยจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ได้ปรับเพิ่มประมาณการเป็น 10.5 ล้านคน ซึ่งปรับขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 9.5 ล้านคน สำหรับปีหน้าที่ 22 ล้านคน และปี 67 ที่ 31.5 ล้านคน

.

“เศรษฐกิจไทยจะกลับเข้าสู่ก่อนโควิด-19 ปลายปีนี้ ถึงต้นปีหน้า จากแรงส่งของอุปสงค์ในประเทศ ทั้งการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ”นายสักกะภพ กล่าว

.

สำหรับปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจที่สำคัญ ประกอบด้วย จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่าคาด การผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศเร็วกว่าคาดของจีน แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวกว่าคาด ความเสี่ยงของเศรษฐกิจจีนที่อาจกระทบต่อการส่งออกของไทย

.

ด้านเงินเฟ้อ ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อทั่วไปผ่านจุดสูงสุดแล้วในไตรมาส 3/65 ตามแรงกดดันเงินเฟ้อหมวดพลังงานที่ลดลง ทั้งนี้ การเปลี่ยนของราคาสินค้าและบริการในตระกร้าเงินเฟ้อกระจายตัวลดลง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 66 เพิ่มขึ้นจากประมาณการครั้งก่อน โดยคาดว่าปีนี้เงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 6.3% ปีหน้าที่ 3% และปี 67 ที่ 2.1% ตามแนวโน้มราคาพลังงานในประเทศ แต่จะโน้มกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในสิ้นปี 66 ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานยังใกล้เคียงเดิม โดยปีนี้คาดอยู่ที่ 2.6% ปีหน้าที่ 2.5% และปี 67 ที่ 2%

.

อย่างไรก็ตาม ประมาณการอัตราเงินเฟ้อมีความเสี่ยงสมดุล แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด โดยปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงหรือต่ำกว่ากรณีฐาน คือ การส่งผ่านต้นทุนจากผู้ประกอบการที่อาจสูงและเร็วกว่าคาด จากต้นทุนการผลิตหลายด้านที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มาตรการช่วยเหลือของภาครัฐยังมีความไม่แน่นอน เช่น มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและค่าครองชีพ และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวกว่าคาด ซึ่งจะส่งผลให้ราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกปรับลดลงกว่าที่ประเมินไว้

***********************************

 


water