เรากำลังเข้าสู่ช่วงสัปดาห์สุดท้าย ของเดือนกันยายน
เป็นช่วงปิดไตรมาส 3 ของปี 2559
ตลาดหุ้นไทยในปีนี้ ยังคงฉายหนังม้วนเดิม คือ ขึ้นลงในกรอบ 1280-1550 ซึ่งที่จริงแล้ว เราเข้าสู่วงจรนี้ตั้งแต่ครึ่งหลังปี 2013
เราอยู่ในช่วงที่กระฉึกกระฉัก ลักลั่นย้อนแย้งในเชิงนโยบายการเงิน และเศรษฐกิจภาคจริง
.
.
===========
มองที่ FED
===========
ปลายปีที่แล้ว (ธ.ค. 58) คุณป้าเยลเลนประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี เท่านั้นก็เพียงพอให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วน ต้นม.ค.คือช่วงที่หุ้นไทยย่ำแย่มากๆ (ตลาดหุ้นจีนเจอเซอร์กิตเบรคเกอร์เลย) แถม FED ยังส่งสัญญาณกร้าวว่า ปี 59 จะปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 4 ครั้งๆละ 0.25%
FED อยากขึ้นดอกเบี้ยมาก เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้กลับมาดีจริงแล้วนะ แล้วที่เราอัดฉีดเงินเข้าระบบ(QE)อย่างบ้าคลั่งมาตั้งแต่ 2009 ... เรากำลังจะดูดเงินกลับ ตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน นะจร๊ะ
แต่ความเป็นจริงไม่ได้ง่ายแบบนั้น เศรษฐกิจโลกยังเปราะบาง สมดุลของโลกในด้านอื่น ไม่ว่าจะเป็น ยุโรป ญี่ปุ่น หรือจีน ก็ดูไม่ดีเลย ทุกคนเล่นเกม ด.บ. ต่ำทั้งนั้น
สุดท้าย สัปดาห์ที่ผ่านมา FED ตัดสินใจยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย นับเป็นข่าวดีว่าเงินร้อนยังอยู่กับ EM (Emerging Market...รวมทั้งไทยด้วย) ต่อไป
แล้วช่วงธันวาคม ค่อยว่ากันใหม่ เงินจึงยังอยู่ในตลาดหุ้นเกิดใหม่ โดยเฉพาะในเอเชียต่อไป ... เอ้า ไช โย
.
.
===============
มองดูที่เศรษฐกิจไทย
===============
ตอนนี้ เครื่องยนต์เศรษฐกิจไทย คิดว่าดับไปหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น การบริโภคที่ฝืดต่ำ ส่งออกที่ส่งไม่ออก และการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอ ...เครื่องยนต์น่าจะเหลือแค่ 2 ตัว คือ การลงทุนภาครัฐ และ ภาคการท่องเที่ยว
สรุปคือ เศรษฐกิจเรายังไม่ดี ค้าขายยังไม่ฟื้นดี แต่งบลงทุนจากรัฐมันเยอะมากๆแบบไม่เคยเป็นมาก่อน รถไฟฟ้าสารพัดสี ระบบคมนาคมไปหัวเมืองตจว. และ การท่องเที่ยวที่ลูกค้าต่างชาติกำลังจะเท่ากับครึ่งหนึ่ง ของประชากรทั้งประเทศ
.
.
=========
ดอกเบี้ย 0%
=========
ภาวะดอกเบี้ยใกล้ 0% นี้ จะหลอกหลอนคนไทยไปอีกนาน และผมเชื่อว่าจะเป็นภาวะถาวร ดอกเบี้ยจะไม่สูงมากๆอย่าง 20 ปีก่อนอีกแล้ว ที่เคยมีดอกเบี้ยฝากแบบสิ้นคิดก็เกิน 10% จะไม่มีอีก... ตอนนี้ดอกเบี้ยแบบคิดอย่างดี ตีลังกาคิด ก็ได้แค่ 2%
นั่นจะกดดันให้เม็ดเงินจำนวนมาก มาก มากๆๆๆ ที่ยังอยู่ในระบบฝากเงินดั้งเดิม ให้ออกมาหา yield หรือผลตอบแทนที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กองทุนหุ้น กอง REIT อสังหาฯ และหุ้น
ราคาหุ้นจึงค่อนข้างแพง พีอีตลาด 22 เท่า (อันที่จริงก็แพงแบบนี้เกือบทั้งโลก) นี่ขนาดเป็นภาวะที่ตลาดยังกล้าๆกลัวๆนะ
.
.
หุ้นไทย เวลาลง ดูแย่มากๆ ก็ลงได้ระดับนึง มีจุดจำกัด (3 ปีที่ผ่านมา มันคือแถวๆ 1250) ด้วยสภาพคล่องที่ล้นระบบ มีนักลงทุนมือเก๋ารอช้อนซื้อกันเยอะ แถมเงินที่รอเข้ายังมีอีกมาก คนไทยที่รวย cash ยังมีอีกเยอะ ดังนั้น ภาวะลง Shipหายวายป่วงแบบปี 40 41 ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะยุคนี้ คนมีเงินมีอยู่เยอะ สภาพคล่องยังล้น
หุ้นไทย เวลาขึ้น ก็ขึ้นได้จำกัด (3 ปีที่ผ่านมา มันคือแถวๆ 1600) เพราะเศรษฐกิจไทย ไม่ได้ดีพร้อมให้ขึ้นได้มาก ประเทศไทยยังต้องการ "การบริหารจัดการที่ดี" ที่มากกว่าวันนี้อีกมาก เพื่อปลดล็อคศักยภาพประเทศออกมา สิ่งที่เป็นรูปธรรมที่สุดปีนี้คือ เงินลงทุนภาครัฐ (Government Spending) ที่จัดการลงทุนรัวๆ เปิดประมูลรัวๆ อยู่
.
.
=================
สรุปคือ ลงทุนต่อไปเรื่อยๆ
=================
มีทั้งหุ้นที่ทยอยเก็บสะสม เหมือนตัวโปเกมอน
มีทั้งเงินสด ที่เป็นทรัพยากร(บอล เบอรี่) ที่เอาไว้จับตัวโปเกมอน
พร้อมเข้า Battle เวลาเกิดเหตุการณ์แพนิค
แล้วในที่สุด เราจะ Evolve ร่าง... กลายเป็นคนมั่งคั่ง
..............................
คอร์ส "ติวหุ้น วีไอ by นิ้วโป้ง" เลือกหุ้นดี ดูฟันโฟล์ว อ่านงบการเงินเป็น วาง Portfolio ขุดหุ้น Good Stock และ Good Price วัดมูลค่าหุ้น
ผมสอนเอง 2 วันเต็มอย่างเข้มข้น เสาร์-อาทิตย์ 8-9 ต.ค.นี้ ที่ Stock2morrow สีลมคอมเพล็กซ์ สนใจ คลิกเลยค่ะ http://www.stock2morrow.com/course/seminar_courses_list.php?id=3
-----------------------
- เจ้าของแฟนเพจ “นิ้วโป้ง Fundamental VI” ที่มีคนติดตามมากกว่า 3 หมื่นคน
- นักเขียน Bestseller เจ้าของหนังสือขายดี ติวหุ้น รวยด้วยวีไอ และ 100 คำตอบต้องรู้ ดูหุ้นพื้นฐาน
- วิททยากรประจำตลาดหลักทรัพย์สัญจร ทั้งกรุงเทพ และต่างจังหวัด (อุบลราชธานี, ชลบุรี, พิษณุโลก, ฯลฯ)
- วิทยากรให้กับบริษัทชั้นนำและแฟนเพจมากมาย อาทิ บลจ.กรุงศรี, บล.ไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ไทยประกันชีวิต, Stock2morrow Night, แฟนเพจงงหุ้น และอีกมากมาย
- วิทยากรที่จัดสัมมนา "ลงทุนแบบ Value/Growth Investment" คอร์สลงทุนแนววีไอที่มีผู้เรียนแล้วมากกว่าพันคน