‘เจริญ’ซื้อสตาร์บัคส์ ต่อยอดอสังหาฯ
ไทยเบฟ คว้าสิทธิบริหารสตาร์บัคส์ไทย ส่ง “คอฟฟี่คอนเซปต์” บริษัทลูกร่วมทุนระหว่างเอฟแอนด์เอ็น รีเทลฯ และแม็กซิม แคเทอร์เรอร์ ดูแล 372 สาขา ด้านผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟเชื่อได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย
ภายหลังการได้รับสิทธิ์บริการสตาร์บัคส์ในไทยของเครือไทยเบฟ ด้วยการส่งบริษัทลูก “Coffee Concepts Thailand” โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง F&N Retail Connection Co. ซึ่งเป็นบริษัทที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นอยู่ และ Maxim’s Caterers Limited บริษัทผู้รับสิทธิดูแลร้าน Starbucks ใน กัมพูชา สิงคโปร์ เวียดนาม ฮ่องกงและมาเก๊า มีสาขามากกว่า 400 สาขา ล่าสุดแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ควบรวมกิจการระหว่างบริษัท แม็กซ์เอเชียฟู้ดแอนด์เบฟเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท คอฟฟี่คอนเซปต์ (ประเทศไทย) จำกัด แน่นอนว่าจากดีลดังกล่าวย่อมส่งผลต่อการแข่งขันธุรกิจร้านกาแฟในไทยและการเติบโตของเครือไทยเบฟอย่างแน่นอน
แหล่งข่าวผู้บริหารระดับสูงหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟรายใหญ่ของไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การเข้าซื้อสิทธิการบริหารงานกาแฟสตาร์บัคส์ในไทยของเครือไทยเบฟ ถือว่าย่อมเป็นเรื่องที่ได้ผลประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่เพียงแค่ธุรกิจกาแฟเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเอื้อการทำธุรกิจทั้งในเรื่องพื้นที่เช่าโครงการรีเทล การดึงคนเข้าศูนย์กล่าวคือ ไทยเบฟมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทยจำนวนมากซึ่งถือว่ามากที่สุดในประเทศ ทั้งโครงการใหญ่อย่าง One Bangkok หรือแม้กระทั่งโครงการอีกมากมายที่ต้องการแม็กเนตในการดูดลูกค้า ขณะที่ในส่วนของบริษัทแม่สตาร์บัคส์ก็มีโนว์ฮาวในเรื่องธุรกิจกาแฟที่ดีในระดับโลก และต้องการขยายสาขาให้มากที่สุดเพื่อครอบคลุมทั่วประเทศโดยไม่ต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมาก
“ประเมินว่าตลาดกาแฟพรีเมียมของไทยยังค่อนข้างมีช่องว่างทางการตลาดในการแข่งขันอยู่สูง เป็นตลาดที่มีโอกาสทำกำไรและมาร์จินสูง โดยมีสตาร์บัคส์เป็นเจ้าตลาดแค่เพียงรายเดียวที่โดดเด่นขึ้นมา และยังหาคู่แข่งโดยตรงที่ประสบความสำเร็จและอยู่ในระดับเดียวกันค่อนข้างยาก”
อย่างไรก็ตามแม้ไทยเบฟซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในประเทศจะลงมาชงแชร์ในธุรกิจร้านกาแฟเมืองไทยแต่เชื่อว่าไม่กระทบต่อภาพรวมตลาด หรือส่วนแบ่งทางการตลาดของผู้ประกอบการในตลาดล่างอย่าง อเมซอน คาเฟ่ หรือ อินทนิล ที่ขายราคาเริ่มต้นแก้วละ 50 บาท หรือตลาดกลางอย่าง S&P และแบล็คแคนยอน ที่ขายเริ่มต้นแก้วละ 80 บาทแต่อย่างใด ขณะที่สตาร์บัคส์มีราคาขายอยู่ที่เฉลี่ยแก้วละ 150 บาท ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายคนละระดับอยู่แล้ว นอกจากนี้สตาร์บัคส์ยังมีจุดเด่นในการเปลี่ยนตัวเองให้เป็นจุดหมายปลายทาง และมีคนเข้ามาใช้บริการแม้จะออกนอกเส้นทางหลักที่ผู้คนไม่มีการสัญจรก็ยังเข้ามาใช้บริการ ซึ่งแตกต่างจากร้านกาแฟส่วนใหญ่ที่คนจะแวะตอนสัญจรบนท้องถนน
“ถามว่าผู้ประกอบการในตลาดจำเป็นต้องปรับตัวหรือไม่คงต้องตอบว่าไม่น่าจะต้องทำอะไรมาก เพราะสตาร์บัคส์ถือเป็นธุรกิจกาแฟรายใหญ่ที่อยู่ในตลาดเมืองไทยมานานแล้ว และผูกขาดความเป็นเจ้าตลาดพรีเมียมเพียงรายเดียวมานาน และมีกลุ่มเป้าหมายเป็นของตัวเอง แม้ในอดีตจะมีรายแบรนด์ที่เคยพยายามเข้ารุกตลาดดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นคอฟฟี่ เวิลด์ (ก่อน PTG เข้าซื้อกิจการ) หรือจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่จากต่างประเทศที่พยายามเข้ามาชิงตลาดพรีเมียมในไทยแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากมีเรื่องของสภาพแวดล้อมและการดีไซน์ร้านเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ไม่ตอบโจทย์พฤติกรรมคนไทยส่วนใหญ่ที่ดื่มกาแฟก็คือกลุ่มพนักงานออฟฟิศและชื่นชอบการดื่มกาแฟอยู่ที่ระดับราคา 50-80 บาท”
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินธุรกิจกาแฟในไทยของสตาร์บัคส์ในเครือไทยเบฟนับจากนี้ โดยส่วนตัวมองว่าน่าจะมีการโอเปอเรตธุรกิจต่อเนื่องทันที โดยไม่ใช้ชื่อของไทยเบฟเข้ามาสร้างแบรนด์มากนัก เนื่องจากภาพลักษณ์ของสตาร์บัคส์นั้นดีอยู่แล้ว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก