ปัญหาของนักลงทุนที่เข้่ามาในตลาดหุ้น ส่วนใหญ่มักจะขาดทุน
ประเด็นคือ มันเป็นลักษณะ "นิสัย" มากกว่า ... ถ้าเราเข้าใจและปรับวิธีคิดได้ เราก็จะไม่เสียหาย ไม่ติดหุ้น ไม่ดอยหุ้น และไม่ขาดทุนจากหุ้นนั้นเอง
ถามว่าสาเหตุหลักๆที่ทำให้เราขาดทุน ประกอบไปด้วย 5 พฤติกรรมด้วยกัน คือ
1. อยากรวยเร็ว
ในโลกนี้ไม่มีอะไรรวยง่ายๆ ..ถ้าใครนำข้อเสนอ รวยง่ายๆ ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องศึกษา ให้ระลึกไว้เลยว่า คุณกำลังถูกจูงจมูกด้วยความโลภ ซึ่งจะนำมาซึ่งความเสียหายในที่สุด
2. แห่ตามฝูงชน
การลงทุนที่ดีคือ การไม่วิ่งตามฝูงชน หรือตามกระแส ...หรือพูดง่ายๆ ว่า อะไรที่เริ่มเป็นกระแสยอดฮิต ให้สันนิษฐานไว้เลยว่า สิ่งนั้นใกล้ดอยแล้ว ...โอกาสซื้อแล้วติดดอย มีสูงมาก
3. ใช้เงินน้อย อยากรวยมาก
หลักการดึงดูดคนที่ชอบใช้เงินน้อยแล้วอยากรวยเยอะ ก็คือ .หวย , แชร์ลูกโซ่ หรือ การพนัน.
...สิ่งที่ลงน้อย หวังผลเยอะ ส่วนใหญ่โอกาสถูก โอกาสชนะ แทบจะเป็นศูนย์
...แปลว่า ถึงลงเงินน้อย แต่โอกาสเสียหาย 100% ..คิดยังไงก็ไม่คุ้ม
4. หวังรวย โดยไม่เสี่ยง
ใครๆ ก็กลัวความเสี่ยง ดังนั้น ถ้าใครชวนเราว่า การลงทุนนี้สามารถรวยโดยไม่เสี่ยง ให้ระวังว่า เรากำลังตกเป็นเหยื่อ ในแชร์ลูกโซ่ หรือ มิจฉาชีพบางอย่าง ...เพราะ ถ้าเป็นการลงทุนจริงๆ ทุกอย่างมีความเสี่ยง
...เพียงแต่คนที่ลงทุนแล้วกำไร เพราะเขาหมั่นเพิ่มความรู้ จนทำให้ความเสี่ยงลดลง
5. ใจร้อน อยากได้ผลลัพธ์เร็วๆ
คนที่รอไม่ได้ อดทนไม่ได้ มักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการลงทุน
ใครเป็นแบบ 5 ข้อนี้ ต้องทบทวนวิธีคิดของตัวเองใหม่ เพราะ ทั้ง 5 ข้อนี้แหละที่เหล่ามิจฉาชีพ ใช้ออกแบบกลลวง การโกง หรือ แชร์ลูกโซ่ต่างๆ เพื่อดึงดูดให้คนเสียหายจำนวนมากมาย
ลงทุนง่าย ลงทุนได้ ไม่ต้องศึกษาอะไรเลย ไม่มีความเสี่ยง ใช้เงินเริ่มต้นน้อย ผ่อนจ่ายได้ ...แถมได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอทุกๆ สิ้นเดือน
...ระวัง แชร์ลูกโซ่
การลงทุนที่แท้จริง ...
- มีความเสี่ยง แต่ลดความเสี่ยงด้วยความรู้ ดังนั้น การลงทุนต้องศึกษา ต้องเหนื่อย
- การลงทุนต้องอาศัยระยะเวลา ในการที่จะได้ผลลัพธ์ เหมือน การปลูกต้นไม้ กว่าจะโต กว่าจะออกผล ต้องมีความอดทน และ ความเข้าใจ
ทุกวันนี้มีการล่อลวงมากมาย ที่แฝงตัวมาใกล้ตัวเรา
..ต้องมีสติ แล้วอย่าโลภ เราจะไม่ตกเป็นเหยื่อ
สรุปแล้วรวยเร็ว รวยง่าย ไม่ต้องศึกษา = ไม่มีอยู่จริง