ห้องเม่าปีกเหล็ก

ตี๋โบ๊โผล่หัวคุย

โดย Turbo
เผยแพร่ :
68 views

สวัสดีครับ ข่าว RYT9

US Economic Calendar รายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 12 - 16 กันยายน 2559

17.00 น.         ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมเดือนส.ค. โดย NFIB

วันพุธที่ 14 กันยายน 2559 (ตามเวลาประเทศไทย)
19.30 น.         ดัชนีราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค.
21.30 น.         สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน 2559 (ตามเวลาประเทศไทย)
19.30 น.         ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.
19.30 น.         ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค.
19.30 น.         ดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 2/2559
19.30 น.         ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย
19.30 น.         จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
20.15 น.         ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.
21.00 น.         สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค.
วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2559 (ตามเวลาประเทศไทย)
19.30 น.         ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.
21.00 น.         ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ย.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน

************************************************************************************************


นักลงทุนปรับเพิ่มคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนนี้ หลังจนท.เฟดส่งสัญญาณ

จันทร์ที่ 12 กันยายน 2559 09:30:00 น.
CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ หลังจากนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน และนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย

นายโรเซนเกรน เตือนว่า เฟดเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น หากชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปนานเกินไป ดังนั้นการใช้นโยบายคุมเข้มอย่างค่อยเป็นค่อยไปจึงมีความเหมาะสม

นายโรเซนเกรนระบุว่า ขณะนี้เฟดเผชิญความเสี่ยงใน 2 ด้าน โดยด้านหนึ่งคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ ขณะเดียวกัน เฟดก็เผชิญความเสี่ยงจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐอาจร้อนแรงเกินไป หากเฟดคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเป็นเวลานานเกินไป

ทั้งนี้ ประธานเฟดบอสตันไม่ได้ระบุว่าเขาคาดหวังให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีหรือไม่ แต่ถ้อยแถลงของเขาสอดคล้องกับสิ่งที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้น

ทางด้านนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส กล่าวว่า ปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย กำลังมีน้ำหนักมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ประธานเฟดดัลลัส ยังกล่าวว่า รายงานการจ้างงานในช่วงที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้น และขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้นอย่างเชื่องช้าไปสู่เป้าหมายของเฟดที่ 2% จึงคาดกันว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงค่อยๆปรับตัวขึ้นต่อไปในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
***********************************************************************************************

กลยุทธ์การลงทุนรอบเช้าวันที่ 12 กันยายน 2559

จันทร์ที่ 12 กันยายน 2559 09:32:26 น.
กลยุทธ์การลงทุนรอบเช้า รวบรวมจากบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ประจำวันนี้
โบรกเกอร์     แนวรับ          แนวต้าน         กลยุทธ์                                           จากบทวิเคราะห์

CIMBS        1,435-1,430    1,555-1,560    หากสามารถปิดไม่หลุด 1,440-/+ ดัชนี                   Trend Spotter

จะรีบาวน์กลับ แต่หากหลุดให้ ทยอย
ขายหุ้นออกไปบ้าง
FSS          1,440-1,435    1,450-1,460    ให้เน้นถือเพื่อรอลุ้น SET ขยับขึ้น                        Daily Focus

1,432-1,428    1,465-1,470    หาเป้าหมาย 1650 จุดตามคาดต่อไป

แต่จะซื้อเพิ่มอีกสามารถรอดูความ
ชัดเจนจากผลประชุมเฟดก่อนได้
KGI          1,445          1,455          ลงต่อ ปัจจัยภายนอกกดดันมากขึ้น                        ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

1,435          1,467
KS           1,425          1,450          ยังคงให้ถือเงินสด 60% และเลือกหุ้น                     Daily View

1,400          1,460          Low Beta High EPS Growth AP BLA

KSS          1,443          1,458          SET ยังแสดงภาพการแกว่งตัวลงตั้งฉาก                   Trend Trading

1,436          1,477          ใต้ MA25 และใต้ MA10  ภาพแนวโน้ม

1,425          1,496          ในระยะสั้นที่ปรับลงติดต่อกัน 3 วันทำ

การ มีลักษณะการลงเริ่มชะลอตัว วันนี้
อาจเกิด technical rebound ได้ แจ่ระยะ
รายสัปดาห์อาจอกว่งตัวทางขึ้น 1-2
สัปดาห์ แพทเทินแนวดิ่งที่เกิดขึ้นยัง
ไม่ได้เป็นภาพขาลง ซึ่งจะเคลื่อนไหว
ในลักษณะ rectangle โดยภาพใหญ่ยัง
เป็นภาพขาขึ้นในระยะกลางมีโอกาสทำ
new high ได้ต่อในอนาคตได้
KTBST        1,417          1,470-1,490    แกว่งตัวผันผวน-ปรับฐานต่อ                            Technical Daily

1,390          1,500
1,350
TNS          1,393          1,467          แม้การ “Rebalance” ของ FTSE จะเป็น                The Early Bird

ปัจจัยหนุนการ Rebound ของ SET
ระยะสั้น แต่มองการ Rebound จะจำกัด
โดย Bond Yield สหรัฐฯ ที่ปรับสูงขึ้น
จะเป็นแรงกดดัน Bond Yield ใน
ประเทศปรับสูงขึ้น และ Earnings Yield
Gap ที่แม้ล่าสุดจะปรับขึ้นมาที่ 4.15%
แต่ 1) Bond Yield ในประเทศยังไม่
สะท้อนการปรับขึ้นของ Bond Yield
สหรัฐฯ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา และ
2) ที่ 4.15% อาจหนุนการ Rebound แต่
ไม่ได้เป็นจุดซื้อ หรือที่ Earnings Yield
Gap ประมาณ 4.8-5.0%
TRINITY      1,428          1,467          Wait & See เพื่อรอให้ตลาดสะท้อน                     Trinity Today

ปัจจัยลบที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่เสียก่อน เรา
มองว่าการที่นักลงทุนในช่วงนี้กำลัง
Price in ความเป็นไปได้ที่ Fed อาจขึ้น
ดอกเบี้ยในเดือนนี้อาจเป็นเรื่องที่ดี
ในช่วงปลายเดือนหาก Fed ตัดสินใจ
ไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามที่เราคาดไว้ ซึ่ง
น่าจะทำให้มี Positive surprise เกิดขึ้น
และทำให้ตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัว
รีบาวด์ขึ้นได้
UOBKHST      1,425          1,460          ทยอยลดพอร์ต เริ่มเก็บหุ้นขนาดใหญ่                      Retail Market

ที่ปรับตัวลดลงมาแรง โดยเฉพาะ                        Monitor

ในกลุ่มที่อิงกับการลงทุนและ
การบริโภคในประเทศ

******************************************************************************************

สรุปว่าเขาให้รอดูความผันผวนจนกว่ามันจะนิ่ง แต่ผมไม่ชอบนิ่งๆ ชอบครึกครื้นครับท่าน ACTIVE 

Stocks slammed on Fed rate hike fears

 

The first trading week of the fall ends with a massive thud, with stocks selling off. We break down today’s big market drop, and why this could be the start of a rocky September. Plus – Wells Fargo whacked – the bank embroiled in a massive fees scandal, why one analyst says this ‘outrageous’ behavior means sell the stock. And – is the Uber onslaught over? Why the Silicon Valley unicorn could be in trouble. Catch The Final Round with Jen Rogers, markets correspondent Nicole Sinclair, columnist Rick Newman, and Greg Spiegel, Portfolio Manager at Neuberger Berman.

Winners and losers

Stocks getting hit along with the broader market include petroleum refiner PBF Energy on a downgrade to sell by Goldman Sachs, pipeline operator Williams Companies after Enterprise Products Partners announced it is no longer pursuing a merger deal with its rival, and GW Pharmaceuticals. Shares of the medical firm lower after The Daily Mail initially reported a company spokesman dismissed buyout speculation.

Stocks bucking the rough tape today include home-furnishings company Restoration Hardware on an earnings beat, with revenues and margins coming in ahead of consensus, sportswear retailer Zumiez after topping expectations on both its top and bottom lines and Deutsche Bank. Shares higher after media reports that the German bank is nearing a settlement with US authorities on the sale of residential mortgage-backed securities. The fine could be above $2.38 billion, according to reports.

Looking ahead

  • We’ll get some potentially market moving Fed speak on Monday. Atlanta Fed President Dennis Lockhart, Minneapolis Fed President Neel Kashkari, and Fed Governor Lael Brainard will all be giving speeches before the FOMC blackout period begins.
  • And on Friday we’ll get a gauge on inflation with the consumer price index for August. The previous month saw a 2.2% gain year over year in the core reading, which backs out volatile food and energy prices.
  • Finally, next week Ford Motor Company’s sixth annual Further with Ford Trend Conference begins in Dearborn, Michigan. (FS) We’ll have special live reports and behind the scenes access, including a test drive of the new Fusion Autonomous, Ford’s first self-driving car. Plus live interviews with Ford CEO Mark Fields and Executive Chairman Bill Ford.


ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดดิ่ง 394.46 จุด เหตุวิตกเฟดขึ้นดบ. 20-21 ก.ย.นี้

เสาร์ที่ 10 กันยายน 2559 06:14:29 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงแรงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายหุ้น อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. ภายหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,085.45 จุด ลดลง 394.46 จุด หรือ -2.13%% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,127.81 จุด ลดลง 53.49 จุด หรือ -2.45% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,125.91 จุด ลดลง 133.57 จุด หรือ -2.54%

สำหรับทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.2%, S&P 500 ลดลง 2.4% และ Nasdaq ลบ 2.4%

ดัชนี CBOE Volatility Index ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความวิตกกังวลในตลาดวอลล์สตรีท ทะยานขึ้น 39.98% ปิดที่ 17.50 ในวันศุกร์

ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติทรุดตัวลงเกือบ 400 จุด ซึ่งเป็นการลดลงหนักที่สุดนับตั้งแต่วันที่รู้ผลการลงประชามติ Brexit เมื่อเดือนมิ.ย. โดยภาวะการซื้อขายถูกกดดันจากการที่นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน กล่าวเตือนว่า เฟดเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น หากชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปนานเกินไป ดังนั้นการใช้นโยบายคุมเข้มอย่างค่อยเป็นค่อยไปจึงมีความเหมาะสม

นายโรเซนเกรนระบุว่า ขณะนี้เฟดเผชิญความเสี่ยงใน 2 ด้าน โดยด้านหนึ่งคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ ขณะเดียวกัน เฟดก็เผชิญความเสี่ยงจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐอาจร้อนแรงเกินไป หากเฟดคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเป็นเวลานานเกินไป

นายโรเซนเกรนยังกล่าวว่า "หากเราต้องการมีการจ้างงานเต็มศักยภาพ การคุมเข้มนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสม เพื่อปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติ"

ประธานเฟดบอสตันไม่ได้ระบุว่าเขาคาดหวังให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีหรือไม่ แต่ถ้อยแถลงของเขาสอดคล้องกับสิ่งที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้น

ทางด้านนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส กล่าวว่า ปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย กำลังมีน้ำหนักมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี นายแคปแลนกล่าวว่า การที่มีปัจจัยกระทบการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว บ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ช้ามาก

ประธานเฟดดัลลัส ยังกล่าวว่า รายงานการจ้างงานในช่วงที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้น และขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้นอย่างเชื่องช้าไปสู่เป้าหมายของเฟดที่ 2% จึงคาดกันว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงค่อยๆปรับตัวขึ้นต่อไปในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนได้เพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนนี้ หลังคำกล่าวของนายโรเซนเกรน และนายแคปแลน

ทั้งนี้ นักลงทุนเพิ่มความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.สู่ระดับ 24% จากเดิมที่ 18%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนก.ค. ทรงตัว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย.

สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งของสหรัฐถูกถ่วงลงจากการดิ่งลงของสินค้าภาคการเกษตร และภาคปิโตรเลียม แต่สต็อกรถยนต์ปรับตัวขึ้น

ส่วนยอดขายภาคค้าส่งลดลง 0.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ อัตราส่วนสต็อกสินค้าคงคลังเทียบยอดขายอยู่ที่ระดับ 1.34 หมายความว่า จะต้องใช้เวลา 1.34 เดือนในการเคลียร์สต็อกสินค้า โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.33 เดือนในมิ.ย.

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มสื่อสารร่วงลงกว่า 3% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 2.8% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงราว 4% เมื่อคืนนี้

หุ้นใหญ่ต่างปรับตัวลงถ้วนหน้า นำโดยหุ้นเวอไรซอน ลบ 3.3% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ลบ 0.21%

เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวไม่ขึ้น พูดไปทั่วหนอปากคน

DJI 18,085.45-394.46 (-2.13%)

 

ชมมะเขือพวงอีกครับ

ภาพวัวที่เห็นเป็นพันธุ์วัวเนื้อ 

ผมคบกับเกษตรกรยุยงให้พวกเขาลุกขึ้นสู้กับชีวิต อย่ายอมแพ้โชคชตา กรรมในอดีตไม่มี ดิ้นรนแล้วย่อมสุขสบายได้เสมอ

ต้นมะเขือพวงด้านหลังวัว มันขึ้นโดดเดี่ยว ได้รับการเอาใจใส่กระทั่งให้ลูกเป็น 10 กิโล ตะกล้าเต็มๆ 4-5 ครั้งแล้ว ผมเอาโรยหน้าจานข้าวแล้วกินพร้อมกับข้าวอื่นๆ ตอนนี้เราสองสนิทกัน ผมมักจะบอกรักเธอรดน้ำใส่ปุ๋ย และเธอก็โน้มกิ่งมาแตะไหล่ผม พลางเอ่ยว่า เฮีย...กินหนูเยอะๆนะ หนูเต็มใจจะออกมาให้เฮีย 

มะเขือพวง ประโยชน์ดี ๆ ช่วยลดเบาหวาน ผลาญไขมัน

มะเขือละคร-หมากแข้ง ลดเบาหวาน ลดไขมัน ช่วยย่อย (ไทยโพสต์)

          ถ้าเดินเข้าตลาดแถวเมืองโคราชถามแม่ค้ามีมะเขือละครไหม แม่ค้าจะหยิบให้เลย แต่ถ้าไปถามตามตลาดแถวภาคกลาง ภาคเหนือ คงต้องตอบว่าไม่มีแน่นอน แถมต้องถูกย้อนถามด้วยว่ามันมีหน้าตาอย่างไร

   
          ถ้าจะซื้อมะเขือละครในกรุงเทพฯ หรือภาคกลาง เราต้องเรียกมะเขือพวง ถึงบางอ้อ ! กันแล้วใช่ไหมคะ แต่ถ้าไปถามแถว ๆ อีสานนอกจากโคราชแล้ว ต้องเรียกหมากแข้ง จะรู้จักกัน แต่ถ้าภาคเหนือต้องถามหา มะแคว้งกุลา ถ้าลงไปใต้ต้องเรียกหามะแว้งช้าง ในภาษาต่างประเทศ รับจงกอม คือ ภาษาเขมร ภาษาอังกฤษมีหลายชื่อเรียก Turkey berry, Devil's fig, Prickly nightshade, Shoo-shoo bush, Pea eggplant แถบแคริบเบียนเรียก Susumba ในภาษาทมิฬและอินเดียใต้เรียก Sundakkai
   
          มะเขือพวง น้อยคนนักที่จะชื่นชอบในรสชาติ นอกจากผู้ใหญ่วัยกลางคนที่อาจจะคุ้นเคยกับอาหารไทยประเภทแกงเขียวหวาน หรือผัดพะแนง มากกว่าไก่ทอด ไก่ย่างที่ติดดาว รสชาติของมะเขือพวงรสขมนิด ๆ ออกเฝื่อนน้อย ๆ มีเมล็ดภายในจำนวนมากราว 200-300 เมล็ด นับว่าเป็นพืชที่มีเมล็ดภายในจำนวนมาก
   
          เวลารับประทานอาหารพวกพะแนงหรือแกงเขียวหวานทีไร มักจะตักมะเขือพวงทิ้งทุกที แต่คุณยายแนะว่าต้องรับประทานมะเขือพวงด้วยจะได้ช่วยย่อยอาหาร เนื่องจากกะทิย่อยยาก การรับประทานกับมะเขือพวงจึงช่วยในการย่อยอาหารได้ดีขึ้น ตั้งแต่นั้นมาก็ต้องไม่ลืมตักมะเขือพวงรับประทานด้วยทุกครั้งเมื่อรับประทานขนมจีนแกงเขียวหวาน
   
          วัฒนธรรมในการรับประทานอาหารของคนไทยก็มีเสน่ห์ในการปรุงแต่ง ไม่ใช่แค่รสชาติ แต่ยังคำนึงถึงการตัดรส เสริมรส หรือการทำหน้าที่ของอาหารนั้นๆ ด้วย มะเขือพวงจึงเติมเสน่ห์ในเมนูอาหารไทยอย่างลงตัว

สรรพคุณของมะเขือพวงตามบันทึกสรรพคุณในเภสัชกรรมแผนโบราณ กล่าวว่า

           ผล มีสรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ คล้ายคลึงกับมะแว้งต้นและมะแว้งเครือ

           ราก ใช้แก้เท้าแตกเป็นแผล

           ใบ ใช้ห้ามเลือด

           ทั้งต้น รักษากลากเกลื้อน รักษาโรคผิวหนัง แก้หืด ขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร แก้ไอ ขับเหงื่อ ทำให้เลือดหมุนเวียนดี แก้ปวดฟกช้ำจากการทำงานหนัก แก้ไอเป็นเลือด แก้ปวดกระเพาะ แก้ฝีบวมมีหนองและอักเสบ
   
งานวิจัยในปัจจุบันบ่งชี้ว่า มะเขือพวง ช่วยในการย่อยอาหารได้ดี ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงมีการนำไปใช้ในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานมากขึ้น สารต่าง ๆ ที่พบในมะเขือพวง  ได้แก่
   
           สารทอร์โวไซด์ เอ, เอช (torvoside A, H) เป็นสเตียรอยด์ไกลไซด์ พบในลูกมะเขือ ต้านเชื้อไวรัสเริม และเชื้อ HIV

           สารทอร์โวนิน บี (torvonin B) เป็นซาโปนินชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่าทำให้มะเขือพวงมีฤทธิ์ขับเสมหะ

           สารโซลานีน (solanine) เป็นอัลคาลอยด์จากพืชตระกูลมะเขือ โซลานีนเป็นสารที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลของแคลเซียมในร่างกาย ผู้ที่ไวต่อโซลานีนอาจมีอาการท้องเสีย ปวดหัว หรืออาเจียน ถ้าทำให้สุกด้วยความร้อนแล้วโอกาสที่จะป่วยด้วยสารดังกล่าวนี้ก็จะลดลง

           สารโซลาโซนีน และโซลามาจีน (solasonine and solamagine) เป็นไกลโคซิเลตอัลคาลอยด์ที่พบในพืชตระกูลมะเขือ ในมะเขือพวงบางสายพันธุ์ (มักพบแถบแคริบเบียน) มีปริมาณสารเหล่านี้มาก ผู้ที่ไวต่อสารดังกล่าวถ้ารับประทานมะเขือพวงดิบอาจเกิดอาการของระบบทางเดินอาหาร และระบบประสาทได้โซลาโซดีน (solasodine) เป็นสารที่มีสรรพคุณต้านโรคมะเร็ง จากการศึกษาวิจัยพบว่า สารโซลาโซดีนมีประสิทธิภาพยับยั้งการแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์อันเป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็ง

 

 

ในประเทศต่าง ๆ มีการใช้มะเขือพวงเพื่อใช้ในการรักษาโรคอย่างกว้างขวาง เช่น

           จีน ใช้ต้มน้ำดื่มแก้ไอและบำรุงเลือด ทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ผลแห้งย่างกินแกล้มอาหารบำรุงสายตาและรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรีย

          อินเดีย กินผลเพื่อบำรุงตับ ช่วยบรรเทาโรคแผลในกระเพาะอาหาร ขับปัสสาวะ ช่วยย่อย และช่วยให้ผ่อนคลายง่วงนอน บำรุงตับ ใช้น้ำสกัดจากต้นมะเขือพวงแก้พิษแมลงกัดต่อย ทางตอนใต้ของประเทศอินเดียใช้ผลอ่อนบำรุงกำลังให้ร่างกาย ผลแห้งหุงน้ำมันเล็กน้อย บดเป็นผงกินครั้งละ 1 ช้อนชา ลดอาการไอและเสมหะ
   
           แคเมอรูน ใช้ผลมะเขือพวงรักษาโรคความดันโลหิตสูง

           ไอเวอรีโคสต์ นำผลมะเขือพวงใส่ซุปและซอสต่าง ๆ

          สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แนะให้ลองทำน้ำพริกสูตรที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานรับประทาน โดยเครื่องปรุงทั้งหมด คือ หอม กระเทียม พริกหนุ่ม พริกขี้หนูเล็กน้อย มะเขือยาว นำไปปิ้งไฟให้หอม โขลกให้แหลก แล้วเอามะเขือพวงลงไปบุบให้แตก จากนั้นปรุงรสตามชอบ หรือมะเขือพวงจะปิ้งก่อนก็ได้ช่วยเพิ่มความหอม เหมาะกับผู้ป่ายเบาหวาน หรือไม่เป็นเบาหวานก็จัดเป็นเมนูต้านโรคได้
   
          ทางด้านคุณค่าทางโภชนาการ มะเขือพวงมีความเด่นในสารอาหารหลายชนิด เช่น มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และเส้นใยอาหารสูง เส้นใยอาหารที่พบคือกลุ่มแพกติน ซึ่งเป็นเส้นใยละลายน้ำ ช่วยเคลือบผนังลำไส้ ดูดซับไขมันส่วนเกินจากอาหาร ลดการดูดซึมสารอาหารคาร์โบไฮเดรต ดึงน้ำไว้จึงช่วยให้อุจจาระนุ่ม ขับถ่ายได้ง่าย จึงป้องกันโรคท้องผูกและริดสีดวงทวารได้ กระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างปกติ
   
          บทบาทต่อการลดเบาหวานนั้น มีการค้นพบว่าช่วยลดน้ำตาลในเลือด แต่ต้องนำไปทำเป็นผลแห้งก่อนแล้วนำมาชงดื่ม ช่วยลดไขมันได้ด้วย การทำแห้งจะช่วยฆ่าฤทธิ์ของอัลคาลอยด์ที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท และมีอันตรายต่อร่างกายในระยะยาวถ้าใช้ติดต่อเป็นเวลานาน

**********************************************************************************************************************

RPC 0.85-0.88 น่าเอา ผมไม่มี


Turbo