หุ้นไทยปิดร่วง 12.40 จุด กังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย -โควิดกลับมาระบาดในจีน
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 4 กรกฎาคม ปิดที่ระดับ 1,560.27 จุด ลดลง 12.40 จุด (-0.79%) โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ 1,577.10 จุด ต่ำสุดที่ 1,559.64 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 55,686.41 ล้านบาท
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีเอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงจากความกังวลเศรษฐกิจทั่วโลกถดถอยและจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดของจีนกลับมาสูงขึ้น ประกอบกับมีแรงขายของนักลงทุนต่างชาติหลังเงินบาทอ่อนค่าหนักสุดในรอบ 5 ปี 6 เดือน ซึ่งหากเงินบาทยังอ่อนค่าลงอีกจะทำให้นักลงทุนต่างชาติขายออกมากขึ้นก็จะเป็นปัจจัยกดดันตลาดเพิ่มขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายวันนี้ยังค่อนข้างเบาบางและลักษณะตลาดซึมลง
นอกจากนี้นักลงทุนคาดว่า งบการเงินของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ในไตรมาส 2/65 น่าจะชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้น พร้อมทั้งเก็งว่าตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน มิ.ย.อาจสูงขึ้นเป็น 7.45% จากเดือน พ.ค.อยู่ที่ 7.1% หากเป็นเช่นนั้นจะเป็นปัจจัยให้การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย และเมื่อดอกเบี้ยมีแนวโน้มสูงขึ้นก็จะกระทบมูลค่าหุ้น วันนี้จึงมีแรงขายลดความเสี่ยงออกมา
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเงินเฟ้อในไตรมาส 3/2565 จะสูงกว่าไตรมาส 3/2564 ที่มีฐานต่ำเพราะเป็นช่วงระบาดโควิดสายพันธุ์เดลต้า สำหรับแนวโน้มในวันพรุ่งนี้ ( 5 ก.ค.) หากตลาดยืนไม่อยู่ระดับ 1,560 จุดดัชนีน่าจะไหลลงต่อ มองแนวรับที่ 1,550-1,544 จุด แต่หากตลาดยืนได้ก็มองแนวต้านที่ 1,568 และ 1,575 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
- PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,364.88 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
- ADVANC มูลค่าการซื้อขาย2,273.00 ล้านบาท ปิดที่ 200.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
- JASIF มูลค่าการซื้อขาย 2,204.41 ล้านบาท ปิดที่ 9.10 บาท ลดลง 0.40 บาท
- TU มูลค่าการซื้อขาย 2,011.63 ล้านบาท ปิดที่ 15.50 บาท ลดลง 1.10 บาท
- JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,724.81 ล้านบาท ปิดที่ 3.12 บาท ลดลง 0.48 บาท