"ยืนไม่ไหว" PLT ปิดตลาดต่ำจอง 18%
แม้โบรกฯ แนะนำ "ซื้อ" เคาะเป้า 2-2.10 บาท
หลังคาดการณ์กำไรสุทธิจะโตต่อเนื่อง

.
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น PLT หรือ บริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน) หลังจากที่เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก ซึ่งในช่วงของเปิดทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันแรก ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.19 บาท หรือ 12.26% เมื่อเทียบกับราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอที่ 1.55 บาท
.
แต่อย่างไรก็ตามในช่วงการปิดตลาดราคาหุ้นกลับปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจองซื้อ โดยราคาหุ้นปิดตลาดที่ 1.26 บาท ลดลง 18.71% หรือลดลง 0.29 บาท ต่ำกว่าราคาจองซื้อพีโอที่ 1.55 บาท
.
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า ความน่าสนใจในการลงทุน PLT 1. เป็นธุรกิจที่มีรายได้และกำไรอย่างสม่ำเสมอจากสัญญาระยะยาวจากลูกค้าหลักแตกต่างกับบริษัทเดินเรือทั่วไปที่รายได้และกำไรขึ้นลงตามวัฏจักร
.
2. เป็นผู้นำและมีความเชี่ยวชาญในการขนส่งก๊าซ LPG ในประเทศที่ครอบคลุมทั้งทางบกและ น้ำโดยบริษัทมีประสบการณ์ในการให้บริการขนส่ง LPG นานกว่า 10 ปีมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจกับ CLMV
.
3. Barrier to entry สูง และมีผู้เล่นในตลาดน้อยราย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงต้องมีความชชำนาญและประสบการณ์โดยปัจจุบัน market share ของบริษัทอยู่ที่ราว 60%
.
4. ผู้ใช้ LPG ปลายทางมาจากโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม LPG ตามด้วยโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งโตตาม GDP ของประเทศ และ LPG มีแนวโน้มความต้องการมากขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่ม CLMV ต่างจากอุตสาหกรรม LPG แก๊สรถยนต์ที่โตช้าลง
.
5. ได้ร่วมลงนาม MOU กับผู้นำเข้าและจำหน่ายก๊าซ LPG รายใหญ่ในประเทศเวียดนาม คาดว่าเริ่มดำเนินธุรกิจได้ช่วงครึ่งหลังของปี 2566
.
ทั้งนี้ประเมินแนวโน้มผลประกอบการในปี 2566 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 103 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 65.6% ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนกองเรือ กองรถ และการขยายธุรกิจไปยังประเทศเวียดนาม
.
ขณะที่ปี 2567 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 121 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 17.7% จากการเพิ่มขึ้นของกองเรือและการได้รับสัญญาธุรกิจเดินเรือในประเทศและกลุ่ม CLMV เพิ่ม
.
ทั้งนี้ใช้วิธี P/E ratio ประเมินมูลค่าหุ้น PLT ได้ราคาเหมาะสมปี 2566 ที่ 2.1 บาท จากการอิง EPS ปี 2566 ที่ 0.11 บาท และ P/E ที่ 19.4เท่า คิดเป็น PEG ที่ 1เท่า (CAGR ปี 2565–2569 อยู่ที่ 19.4%) ทั้งนี้เราได้ทำกรอบ P/E sensitivity เพื่อประกอบการตัดสินใจการลงทุน
.
ขณะที่ในมุมมของ บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดกำไรปี 65-67 จะเติบโตโดดเด่น มากกว่า 40% CAGR โดยเราประมาณกําไรปี 66-67 จะอยู่ที่ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อน และ 120 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21% จากรายได้และ GPM ที่จะปรับตัวดีขึ้น
.
นอกจากนั้น การเติบโตในระยะยาวยังมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากมีสัญญาระยะยาวถึง 15 ปี และมีโอกาสขยายธุรกิจไปต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะเวียดนามที่ PLT ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
.
ทั้งนี้ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2566 ที่ 2.00 บาท อิง PER ที่ 20.0 เท่า โดยเปรียบเทียบกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกันด้ํานเรือขนส่งน้ำมันและสินค้าเคมี ได้แก่ AMA และ PRM ซึ่งมีค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 4-5 ปีในอดีตที่ 19.6 เท่ํา