World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

—สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มเปิดลบในวันนี้ (30 พ.ค.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนจากกระบวนการทางกฎหมายเกี่ยวกับมาตรการภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งล้วนกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุน

บรรดานักลงทุนจะจับตาข้อมูลเงินเฟ้อพื้นฐานของกรุงโตเกียวในเดือนเม.ย.อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่าอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้หรือไม่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ

-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (30 พ.ค.) ว่า จีนตกลงจะเริ่มกระบวนการเพื่อกลับมานำเข้าสินค้าประมงจากญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยจะยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้าที่เคยบังคับใช้ หลังจากญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเล

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้เปิดเผยว่า ทางการจีนคาดว่าจะออกประกาศสาธารณะเพื่อผ่อนคลายคำสั่งห้ามนำเข้าแบบครอบคลุมทั้งหมดที่เริ่มใช้ตั้งแต่เดือนส.ค. 2566 และเตรียมเปิดให้โรงงานญี่ปุ่นที่แปรรูปและถนอมอาหารทะเลทำการลงทะเบียนได้ในเร็ว ๆ นี้

-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาสหรัฐอย่างเร็วที่สุดในวันนี้ (30 พ.ค.) หากศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางไม่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเพื่อให้ปธน.ทรัมป์สามารถเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อไปในระหว่างที่ศาลกำลังพิจารณาคดีดังกล่าว

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เชิญเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เข้าพบที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (29 พ.ค.)

อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการหารือกันระหว่างปธน.ทรัมป์และพาวเวล ขณะที่เฟดออกแถลงการณ์ยืนยันการพบกันดังกล่าว แต่เน้นว่าทั้งสองไม่มีการหารือกันเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต

-- แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สมาชิก 8 ชาติของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 411,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค. ในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันเสาร์นี้ (31 พ.ค.)

สมาชิก 8 ชาติของกลุ่มโอเปกพลัส ได้แก่ รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอลจีเรีย อิรัก คาซัคสถาน คูเวต โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเคยตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 2 ครั้งก่อนหน้านี้ และขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการเพิ่มกำลังการผลิต จะจัดการประชุมในวันที่ 31 พ.ค. โดยคาดว่าที่ประชุมจะเห็นพ้องสำหรับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 411,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ค.และมิ.ย.

-- อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานหมุนเวียนของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กล่าวยืนยันว่า ติมอร์-เลสเตจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกชาติที่ 11 ของอาเซียนในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งถัดไปในเดือนต.ค.

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2568 เมื่อวานนี้ (29 พ.ค.) โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัว 0.2% ในไตรมาสดังกล่าว ขณะที่ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ระบุว่าหดตัว 0.3% หลังจากมีการขยายตัว 2.4% ในไตรมาส 4/2567

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่หดตัวในไตรมาส 1/2568 ได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งตัวเลขนำเข้าที่พุ่งขึ้น 42.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 จากการที่บริษัทต่าง ๆ พากันนำเข้าสินค้าก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ในเดือนเม.ย.

-- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ดิ่งลง 6.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 71.3 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 1.0% และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีร่วงลง 2.5% ในเดือนเม.ย.

-- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 240,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 226,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 250 ราย สู่ระดับ 230,750 ราย

-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะเปิดเผยในวันนี้ (30 พ.ค.) ได้แก่ เกาหลีใต้เปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. และยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ญี่ปุ่นเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนเม.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานของกรุงโตเกียวเดือนพ.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. และยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., เยอรมนีเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., อินเดียเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2568 และสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน