ห้องเม่าปีกเหล็ก

ฟันธง! “หุ้นเวียดนาม” ฟื้นไข้ ‘ราถูก-กำไรโต’…

โดย เจ้าชายกบ
เผยแพร่ :
97 views

ฟันธง! “หุ้นเวียดนาม” ฟื้นไข้ ‘ราถูก-กำไรโต’…

แนะลงทุนได้ไม่ต้องรอ 10 ปี มีโอกาสเห็น 10% ต่อปี !!!

.

สาระ Fund วันละนิด: “เวียดนาม” ดาวรุ่งแห่งเอเชียตลาดที่นักลงทุนทั่วโลกไม่อาจละสายตา และเป็นหนึ่งในพิกัดการลงทุนที่ต้องนึกถึง

.

ด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตสูงลำดับต้นๆ ของโลก แม้ในช่วง COVID-19 ก็ยังหยุดการเติบโตไว้ไม่ได้ ในปี23 คาดการณ์การเติบโตระดับสูงที่ 5.8% และ 6.5% ในปี24 เหนือกว่าเศรษฐกิจทั่วโลก

.

“หุ้นเวียดนาม” เองเจอมรสุมหนักในปีที่ผ่านมาจนตลาดดิ่งแรงกว่า -40% แต่ปีนี้ก็กระเตื้องขึ้นมาแล้วกว่า +15% แต่ก็ยังห่างจากจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 1,500 จุด อีกมากทีเดียว เข้าตำรา “ของถูก-ราคาดี” ที่ชาวสวน (Contrarian investor) น่าจะชื่นชอบ

.

ปัจจุบันที่ “ดัชนี VN30” ที่แอบปรับขึ้นมาปีนี้แล้วกว่า 15% สู่ระดับ 1,500 จุด ยังไม่ช้าและเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนที่ยังไม่สาย

.

เมื่อมรสุมใหญ่ในปีที่แล้วเริ่มซา ฟ้าก็เริ่มเปิด “หุ้นเวียดนาม” กลับมาอยู่ในเรดาห์ของนักลงทุนทั่วโลกอีกครั้ง ไปร่วมค้นหาคำตอบกับทีมงาน ‘Wealthythai’ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนพร้อมๆ กันได้เลย

.

“หุ้นเวียดนาม”: ของดี-ราคาถูก...โอกาสดีในการลงทุน

.

โดย “เจษฎา สุขทิศ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฟินโนมีนา (Finnomena) มองว่า จะหาของดีราคาถูกในโลกของการลงทุนนั้นไม่ง่าย แต่ ณ จุดนี้พูดได้ว่า “ตลาดหุ้นเวียดนาม” เป็นเพียงไม่กี่

.

ตลาดที่อยู่ในโซน “ถูกและดี” ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเวียดนามมีปัจจัยเชิงโครงสร้างที่สนับสนุนการเจริญเติบโตระยะยาวที่แข็งแกร่ง แต่ภาพระยะสั้นถูกกระทบบ้างจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวตามวัฏจักร ซึ่งดัชนีราคาหุ้นเวียดนามได้ซึมซับสิ่งเหล่านี้ไปมากแล้ว ดังนั้น ในมุมมองของการลงทุนแบบ “Contrarian investor” ที่เน้นเข้าลงทุนตอนที่ราคายังถูกในสินทรัพย์พื้นฐานดี ตลาดหุ้นเวียดนามเวลานี้ ถือเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจมาก

.

“หุ้นเวียดนาม ปัจจุบันมี Forward P/E ของ VN30 Index ยังอยู่ที่ 10.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 10 ปีที่ 12.25 เท่า และต่ำกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นโลกที่ 16.4 เท่า ซึ่งจะหาตลาดหุ้นที่ถูกมี P/E 10 เท่า มีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งตอนนี้ก็ต้องเวียดนาม”

.

“หุ้นเวียดนาม” ตลาดแห่งการเติบโต...ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี ในอีก 10 ปีข้างหน้า

.

เช่นเดียวกับ “ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร” นักลงทุนวีไอชั้นนำของไทย ผู้บุกเบิกการลงทุนในหุ้นเวียดนาม ก็มองว่า “หุ้นเวียดนาม” เป็นตลาดแห่งการเติบโต เหมือนไทยในอดีตเมื่อ 20 ปีก่อน แต่เศรษฐกิจโตเร็วมาก ปัจจุบันเศรษฐกิจเวียดนามแค่ 2 ใน 3 ของไทย ตลาดหุ้นประมาณครึ่งของไทย แต่เป็นเศรษฐกิจที่มีการเติบโตสูงมากและจะแซงไทยในอนาคตอย่างแน่นอน เป็นประเทศที่เศรษฐกิจโตได้ 7-8% สูงติดอันดับโลก ในขณะที่ “หุ้นเวียดนาม” ยังเป็นตลาดชายขอบ (Frontier Market) ที่กำลังจะขยับสู่ “ตลาดเกิดใหม่” (Emerging Market) ในอนาคต ซึ่งคาดว่าน่าจะเข้าได้ในช่วงปี24-25 หากสามารถแก้กฎระเบียบเรื่อง Foreign Limit ได้ นั่นจะทำให้มีมีเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนทั่วโลกไหลเข้ามาลงทุนในหุ้นเวียดนามอีกมากจากปัจจุบัน เพราะยังมีนักลงทุนต่างชาติอีกมากที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในหุ้นเวียดนาม แต่เข้ามาไม่ได้

.

“หุ้นไทย 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ไปไหนเลย และเป็นไปได้ว่าอาจจะไม่ไปไหนไกลอีก 10 ปีข้างหน้า เช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่นเคยเจอตลาดหุ้นไม่ไปไหนมากว่า 20 ปี เพิ่งมาฟื้นช่วงชินโซะ อาเบะ แต่ถ้าจะมองหาการ

.

ลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูง ‘หุ้นเวียดนาม’ น่าจะตอบโจทย์เป็นตลาดที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยระดับ 10% ต่อปี ในช่วง 10 ปี ข้างหน้าได้”

.

“หุ้นเวียดนาม” ปัญหาเริ่มคลี่คลาย...ความเชื่อมั่นเริ่มกลับมา

ด้าน “ชาตรี มีชัยเจริญยิ่ง” หัวหน้าการลงทุน ฝ่ายตราสารทุน บลจ.พรินซิเพิล ยอมรับว่า ปี22ที่ผ่านมา “หุ้นเวียดนาม” เจอมรสุมค่อนข้างมาก ทั้งปัญหาหุ้นกู้ การส่งออกที่ชะลอตัวจาก COVID-19 และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวซึ่งเวียดนามพึ่งพิงการส่งออกค่อนข้างมาก ตลอดจนการจัดการเรื่องปั่นหุ้น ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงมากกว่า -40% ในช่วงไตรมาสที่1/23 ที่ผ่านมา sentiment ก็ยังดูไม่ดีนัก แต่ในไตรมาสที่2/23 เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ปัญหาต่างๆ ได้รับการแก้ไข “หุ้นเวียดนาม” ตั้งแต่ต้นปีก็ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า +15% ความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็เริ่มกลับมาสังเกตได้จากมูลค่าการซื้อขายต่อวันของนักลงทุนรายย่อยปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ปี20 โยมูลค่าซื้อขายต่อวันก็เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากไตรมาส1/23 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ สัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาตินับตั้งแต่ต้นปี22 ก็เติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน

.

“หุ้นเวียดนาม ปีก่อนปรับตัวลงมามากกว่า -40% แต่ปีนี้ปรับขึ้นมาแล้ว +15% ในปีนี้เริ่มเห็นนักลงทุนสถาบันสนใจกลับเข้ามาดูหุ้นเวียดนามมากขึ้น เพราะหุ้นเวียดนามถูกในขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตดี แม้ปีนี้จะถูกปรับลดคาดการณ์กำไรลงเหลือ +16% จากที่เคยคาดไว้ว่าจะโต +20% แต่งมองไปในปีหน้าก็ยังคาดว่าจะโตได้ +25% และเป็นตลาดที่มีสัดส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูงที่สุดในเอเชียอีกด้วย จึงเป็นตลาดที่ไม่ควรละเลยและจังหวะนี้เป็นโอกาสดีในการเข้าลงทุนเพราะยังห่างไกลจาก ‘จุดสูงสุดเดิม’ ที่ระดับ 1,500 จุด ค่อนข้างมาก”

.

“หุ้นเวียดนาม” มีความสัมพันธ์กับหุ้นโลกต่ำ...ช่วย “กระจายความเสี่ยง-เพิ่มผลตอบแทน”

.

เช่นเดียวกับ “วศิน ปริธัญ” หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ บลน.ฟินโนมีนา (Finnomena) ที่มองว่า โอกาสลงทุนระยะยาวใน “หุ้นเวียดนาม” ยังมีอีกมาก แม้นักลงทุนอาจจะรู้สึกว่าหุ้นเวียดนามเป็นตลาดที่เสี่ยงสูง ซึ่งเป็นซึ่งหากมองจากความผันผวนของราคาในอดีต และการที่เวียดนามยังถูกจัดว่าเป็น “ตลาดชายขอบ” (frontier market) ก็พอจะสะท้อนว่าความเสี่ยงสูงจริง แต่ในมุมของ Asset Allocation การนำหุ้นเวียดนามมาเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตจะทำให้ผลตอบแทนคาดหวังเทียบกับความเสี่ยงสูงขึ้นด้วยโอกาสการเติบโตระยะยาวที่สูงกว่าตลาดอื่น แต่ค่าความสัมพันธ์ของราคาหุ้นเทียบกับตลาดหุ้นโลกต่ำ ทำให้การลงทุนในเวียดนาม เป็นทั้งการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม และทำให้พอร์ตกระจายความเสี่ยงดีขึ้น โดยเฉพาะหากนักลงทุนได้ลงทุนในกลุ่มหุ้นผันผวนสูง เช่น กลุ่มหุ้นเทคฯ อยู่มากแล้ว

.

“สำหรับกองหุ้นเวียดนามที่มีผลงานเกิน 3 ปี ปัจจุบันมี 3 กอง แต่ที่น่าสนใจได้แก่ ‘กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้’ (PRINCIPAL VNEQ) ที่มีการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนศักยภาพสูงของเวียดนามโดยตรง Company & Site Visits ที่เวียดนามโดยตรง และมีทีมผู้จัดการกองทุนที่เป็นชาวเวียดนามร่วมทีมด้วย

.

ซึ่งถือเป็นตัวเลือกการลงทุนเพื่อคว้าโอกาสการสร้างผลตอบแทนที่ดี ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา outperform ดัชนีหุ้นเวียดนามรวม ปัจจุบันแม้จะมีกองหุ้นเวียดนามเป็นจำนวนมาก หลากหลายสไตล์ แต่ไปลงทุนในตลาดเดียวกัน ผลตอบแทนก็ต่างกันพอสมควร ดังนั้นการเลือกกองทุนจึงสำคัญเช่นเดียวกัน”

.

ใครที่ชอบลงทุนแนวสวนตลาด หรือแนว Contrarian คงไม่พลาด “หุ้นเวียดนาม” ในปัจจุบัน ซึ่งราคาลงมาต่ำ กำไรเติบโตสูง มีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมากมารองรับ แม้ระยะสั้นอาจจะต้องเผชิญกับความผันผวนอยู่ แต่เหล่าผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าหากใครจะรอให้ตลาดปรับตัวลงแรง เพื่อหาจังหวะเข้าใหม่อีกครั้งหลังจากนี้ อาจจะไม่ง่ายนัก ใครชอบ “หุ้นเวียดนาม” ไม่ต้องรอ สามารถทยอยเข้าลงทุนเพื่อหวังผลระยะยาวได้เลย

 

 


เจ้าชายกบ