ห้องเม่าปีกเหล็ก

ฝันร้าย KBANK

โดย ROCK POINT
เผยแพร่ :
524 views

ฝันร้าย KBANK | ออฟเรคคอร์ด

 

 

บรรดา หุ้นแบงก์ใหญ่ กำลังเตรียมเปิดงบ ไตรมาส 2 ปี 2566 ทำให้นักลงทุนเตรียมเกาะติดกันเพราะแนวโน้มและตามคาดการณ์ “กำไรจะเติบโต” และมีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากเทรนดอกเบี้ยขาขึ้น

๐๐๐ ฝันร้าย KBANK 

   บรรดา หุ้นแบงก์ใหญ่ กำลังเตรียมเปิดงบ   ไตรมาส 2 ปี 2566   ทำให้นักลงทุนเตรียมเกาะติดกันเพราะแนวโน้มและตามคาดการณ์ “กำไรจะเติบโต” และมีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากเทรนดอกเบี้ยขาขึ้น 

  แต่ที่น่าจับตา คือ   งบ KBANK   ที่รอบนี้มีแรงซื้อและผสมแรงขายผิดไปจากแบงก์ใหญ่รายอื่น  หากอิงกับปัจจัยการเมืองเทขายทำกำไรคงไม่แปลก

    แต่มีกระแสมาเพิ่มว่างบที่จะออกเจอ “เซอร์ไพรส์” ถ้าดีคือกำไรโตกว่าคาด แต่ที่ “เกินการณ์” ตัวเลข หนี้เสีย อาจพาตะลึง 

     ช่วงไตรมาส 1/2566 รับผลกระทบสินเชื่อธุรกิจต้องตั้งสำรองฯ ทันที ประเมินแล้วจากอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ จึงใช้สำรองส่วนเกิน Management overlay ที่ตั้งไว้เผื่อราว 20% ของสำรองทั้งหมด

    ถ้างบคราวนี้ ตั้งสำรองฯ ที่เหลือ ทั้งหมดจะ กระทบกำไร ขนาดไหน ... งบออก 21 ก.ค. รู้กัน

๐๐๐

        ตลาดหุ้นไทยกลับมาอยู่โหมดระมัดระวังหลังดัชนีหุ้นปรับตัวต่อเนื่องรับข่าว เปลี่ยนแกนนำรัฐบาล  ซึ่งได้มีการกำหนด “โหวตนายกฯ” รอบ 3  วันที่ 27 ก.ค. 2566 

๐๐๐

     ด้าน 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาลเตรียมประชุมหารือ  ซึ่งพรรคเพื่อไทยรระบุยังให้สิทธิพรรคก้าวไกล ดำเนินการทุกกระบวนการว่าจะมีท่าทีอย่างไร แต่มีการคาดการณ์ออกมาแล้วว่า เงื่อนไขจับขั้วทางการเมืองเพื่อขึ้นเป็นนายกฯ และรัฐบาลรอบที่ 3 ถูกบังคับให้กลายเป็น “เพื่อไทย+ภูมิใจไทย+พลังประชารัฐ” มากขึ้นเพราะการมีพรรค “ก้าวไกล”อาจไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากส.ว

๐๐๐

ด้าน ตลาดหุ้นไทยยังกลับมาแกว่งตัว รอความชัดเจน และมีการเทขายทำกำไรลดความเสี่ยง ดัชนีมาปิดตลาด 1,521.18 จุด ลดลง 15.46 จุด  เปลี่ยนแปลง 1.01 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 45,364.01 ล้านบาท โดยมีสถาบันขายสุทธิ 1,028.41   ล้านบาท  พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ  170.23  ล้านบาท  รายย่อยซื้อสุทธิ  2,551.97   ล้านบาท และต่างชาติขายสุทธิ 1,702.73   ล้านบาท 

๐๐๐

     พักการเมืองจับตางบ Q2/2566   ของ แบงก์ใหญ่ ทั้ง KBANK-BBL-SCB-KTB    แรงหนุนจาก NIM  ที่เพิ่มสูงขึ้นและผู้ว่า ธปท. ประเมินเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่าคาดแต่แค่ชั่วคราว ทำให้คาดการณ์การส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ช่วง ส.ค. พุ่งเป้าไปที่ BBL ที่คาดว่าจะโชว์กำไรเติบโตแซงหน้าเพื่อนในกลุ่ม 

      บล.พาย “ซื้อ” BBLมูลค่าพื้นฐาน190 บาท  กําไรสุทธิ Q 2/2566 ออกมาดีกว่า 1,1293 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62 % จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 6,961.07 ล้านบาท  จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ(NII)ที่สูงขึ้นและการตั้งสํารองหนี้ฯที่ลดลงแม้จะมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย(non-NII)อ่อนแอก็ตาม

๐๐๐

      ด้าน “หุ้นไฟแนนซ์”  เจอแรงขายถล่ม ทั้ง MTC  ราคาหุ้นปิด  36.50  บาทลดลง 3.31 % SAWAD ปิด 47.50  บาทลดลง 3.06  %   หลังธปท.เตรียมออกมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนมีผล 1 ม.ค. 2567 รวมถึงมาตรการแก้หนี้เรื้อรังภายใน 1 เม.ย. 2567

     บล.ดาโอ     มองผลกระทบกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นในกลุ่มธนาคารที่จะได้รับผลกระทบเรียงจากมากไปน้อย อิงสัดส่วนสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล คือ KTB (23% ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของราชการ ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่าบุคคลธรรมดา), BAY (11%), KBANK (9%), SCB (6%) และ TTB (4%) 

     อย่างไรก็ดีคาดว่าประเด็นดังกล่าวจะกระทบต่อกำไรสุทธิในกลุ่มไม่มาก ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาด” เลือก BBL (ซื้อ/เป้า 195.00 บาท) และ KTB (ซื้อ/เป้า 21.00 บาท) เป็น Top pick

 

 


ROCK POINT