ทองคำในมุมมองคุณพิชัย จาวลา (Update ล่าสุด**) ต้องอ่านครับ

ทฤษฎีผลประโยชน์คือการอ่านใจ/ความคิดคน ส่วนตัวผมสรุปว่าคนส่วนใหญ่ความคิดอยู่ด้านชวนซื้อ1ส่วน ด้านชวนขาย3ส่วน เมื่อคนส่วนใหญ่ขาย/ไม่ซื้อ/ไม่กล้า คนส่วนน้อยmatchด้านตรงข้ามราคาก็ไต่ขึ้นมาเรื่อยๆจนถึง1900 ความกล้าก็เพิ่มขึ้น ความกลัวก็เพิ่มขึ้นด้วยควบคู่กันไป กลายเป็นความเครียด

ผมได้รับโทรศัพท์จากคนไกล้ตัวหลายคนที่ไม่เคยถาม และเป็นคนมีฐานะ อย่างน่าแปลกใจ ว่า มีทอง (แท่ง และรูปพรรณ) ควรเอาออกขายไปก่อนหรือไม่เพราะได้ราคาดี ตกมาค่อยซื้อคืน ผมแนะว่าไม่ ให้มองข้ามมองยาวไปเลย ตกก็ไม่เป็นไร

สิ่งเดียวที่ผมสามารถconfirm ได้คือถ้าหลับตาไปเลย+-3ปี ข้างหน้า ทองคำจะขึ้นถึง4-50000 บาทได้ เป็นอย่างน้อย ซึ่งก็ไม่ได้มากเท่าไร เมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่จะได้จากหุ้น แต่ถ้ายาวกว่านั้นก็มากกว่านั้นอีกได้ ส่วนหนึ่งจากการที่เงินบาทจะอ่อนค่าจริงจังด้วย เรืองทองผมสามารถตอบได้เท่านี้เองครับ

ถ้าใครมีอยู่แล้วแนะนำถือลืม ถ้าใครอยากซื้อ อาจจะติดดอยที่ตรงนี้หรือตรงไหนสูงกว่านี้ นานหลายเดือนหรือหลายปีก็ได้ จึงเป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่าย ส่วนผมขายไปซื้อหุ้นแล้วก็เลยตามเลย แต่ถ้าเมื่อใดได้ซื้อต่ำกว่า1700 ค่อยพิจารณา

การคาดการณ์ทิศทางราคาทองไม่มีvaluations ให้คำนวนเหมือนหุ้น ถ้าไม่ใช้ ทฤผ ก็ต้องโยง/weight เหตุการณ์ เหตผล ตัวเลข ต่างๆเพื่อให้ได้คำตอบ จุดอ่อนคือทุกfactor เปลี่ยนแปลง ดิ้นตลอด อีกทั้งเรายังคำนวนบนfactor ที่เห็นได้เท่านั้น ที่ไม่เห็นและโผล่ปรากฎใหม่ๆทีหลังก็มี การโยงผลกระทบไปมากับราคาแบบนี้ในตลาดหุ้นก็นิยมทำ แต่warren buffet ไม่เชื่อในหลักการนี้ และไม่เคยใช้ เมื่อใช้ไม่ได้กับหุ้น กับทองก็ต้องไม่ได้เช่นกัน ถ้าเราเชื่อwarren ก็ลองapply ทฤผ ที่มีสิ่งยึดที่เหนียวแน่น ซึ่งก็คือผลประโยชน์ของคนส่วนน้อย ในการคาดการณ์ราคาทองคำระยะยาว ด้วยตัวเองลองดูครับ