เปิดมูลค่า ‘5 อุตสาหกรรมดิจิทัล’ ในประเทศไทย ด้านไหนต้านวิกฤตไม่ไหว ด้านไหนอยู่ในแดนบวก
ได้ยินหลายคนเรียกช่วงเวลาที่โรคระบาดครั้งใหญ่ยังไม่จากเราไปไหนว่า ‘ยุคโควิด’ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและชีวิตประจำวันมากกว่าการระบาดครั้งไหนๆ และในจังหวะที่ทั้งโลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (4IR) ‘เทคโนโลยีดิจิทัล’ ที่ทั่วโลกนำมาปรับใช้ในด้านต่างๆ มากขึ้น ทำให้ ‘อุตสาหกรรมดิจิทัล’ เติบโต แต่ใช่ว่าทุกไลน์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้จะเติบโตไปซะหมด
เหลียวดูผลการสำรวจ 5 อุตสาหกรรมดิจิทัล ปี 2561-2562
DEPA เผยข้อมูลที่ได้จากการสำรวจตลาดดิจิทัลว่า มูลค่าตลาดอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยในปี 2561 มีมูลค่ารวม 637,676 ล้านบาท ขณะที่ปี 2562 มีมูลค่ารวม 647,952 ล้านบาท
แสดงให้เห็นการขยายตัวโดยเฉลี่ย 1.61%
ส่วนปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยปี 2561-2562 นั้น มาจาก 1) ปริมาณความต้องการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่สังคมดิจิทัล 2) หน่วยงานต่างๆ เล็งเห็นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) อีกทั้ง 3) ผู้คนเริ่มคุ้นเคยและใช้บริการดิจิทัลมากขึ้น
โดยทาง DEPA แบ่งอุตสาหกรรมดิจิทัลออกเป็น 5 ด้าน และเผยมูลค่าของอุตสาหกรรมแต่ละด้านไว้ดังนี้
-
อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
ปี 2561 มีมูลค่ารวม 118,917 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8.10% เมื่อเทียบกับปี 2560 ขณะที่ปี 2562 มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 134,817 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 13.37% -
อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ
ปี 2561 มีมูลค่ารวม 325,261 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 7.29% จากปี 2560 ขณะที่ปี 2562 มีมูลค่าตลาดรวม 299,343 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าเฉลี่ย 7.97%โดยเฉพาะสินค้าที่เป็น คอมพิวเตอร์ มีมูลค่าตลาดลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านจำนวนเครื่องและมูลค่า ขณะที่อุปกรณ์อัจฉริยะ หรือ สมาร์ทดีไวซ์ ซึ่งแม้จะมีอัตราเติบโตดีแต่ก็ยังติดลบในปี 2562 เพราะการนำเข้าลดลง รวมถึงการย้ายฐานการผลิตที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทผู้จำหน่ายฮาร์ดแวร์ในประเทศไทย
-
อุตสาหกรรมบริการดิจิทัล
ปี 2561 มีมูลค่ารวม 153,497 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 24.17% จากปี 2560 ขณะที่ปี 2562 มีมูลค่ารวมกว่า 169,536 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10.45% จากปี 2561 -
อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์
ปี 2561 มีมูลค่า 27,872 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 11.31% จากปี 2560 ขณะที่ปี 2562 มีมูลค่ารวมกว่า 31,080 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 11.51 จากปี 2561 -
อุตสาหกรรมบิ๊กดาต้า
ปี 2561 มีมูลค่ารวม 12,129 ล้านบาท เติบโต 2.45% จากปี 2560 ขณะที่ปี 2562 มีมูลค่า 13,176 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8.63% เมื่อเทียบกับปี 2561
แลไปข้างหน้า ด้านมูลค่าตลาดดิจิทัลไทยในปี 2563-2565
-
อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
ปี 2563 จะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 133,199 ล้านบาท หดตัวเฉลี่ย 1.2% สาเหตุมาจากวิกฤตโควิด-19
แม้จะมีการทำงานแบบรีโมทมากขึ้นและนำซอฟต์แวร์บางด้านมาประยุกต์ใช้ เช่น การประชุมผ่านระบบออนไลน์ CRM, Document แต่ซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ที่องค์กรใช้กันก็มาจากต่างประเทศ ปลายทางของรายได้จึงไหลไปยังต่างแดน เราจึงไม่มีข้อมูลแสดงรายได้ในประเทศ
-
อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ
คาดว่าจะมีมูลค่า 268,989 ล้านบาท เติบโตลดลง 10.1% โดยได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นกัน ส่งผลให้มีการนำเข้าฮาร์ดแวร์ลดลงอย่างมาก และองค์กรก็หันไปใช้บริการ Cloud Computing มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าทั้งสองอุตสาหกรรมจะกลับมาขยายตัวตามปกติในอนาคต
ที่น่าจับตาคือ คาดการณ์ว่าสินค้ากลุ่ม IoT จะขยายตัวเด่นกว่ากลุ่มอื่นในปี 2564-2565
แต่อย่างไรก็ตาม สินค้ากลุ่มนี้อาจต้องเผชิญทั้งปัจจัยบวกและลบ
ปัจจัยบวก – การเข้ามาของ AI ทำให้เกิดระบบอัตโนมัติมากขึ้น ทั้งยังมีการลงทุน 4G อย่างต่อเนื่องก่อนการประมูล 5G ซึ่งรองรับความต้องการใช้งานของผู้บริโภค และภาครัฐยังลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เอื้อต่อการใช้งานสมาร์ทดีไวซ์มากขึ้น
ปัจจัยลบ – การขาดผลิตภัณฑ์ที่จะมากระตุ้นความต้องการซื้อ ความผันผวนของค่าเงิน ปัญหาเศรษฐกิจ และสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา
-
อุตสาหกรรมบริการดิจิทัล
ปี 2563 จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 20.5% ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงที่สุดในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่สำรวจ โดยมูลค่ารวมจะอยู่ที่ 204,240 ล้านบาท
วิกฤตโควิด-19 ทำให้สังคมปรับตัวสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเร็วขึ้น คาดว่าจะมีการใช้บริการดิจิทัลมากขึ้น โดยมูลค่าตลาดที่ประเมินไว้คือ จะขยายตัวสูงกว่า 258,470 ล้านบาท ในปี 2565
- อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์
จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10.1% ในปี 2563 คิดเป็นมูลค่ารวม 34,229 ล้านบาท สอดคล้องกับตลาดเกมและบิ๊กดาต้าในตลาดโลกที่มีอัตราการขยายตัวต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ตลาดแอนิเมชันเติบโตลดลง ทำให้ออร์เดอร์จ้างผลิตลดลง และมูลค่าคาแร็กเตอร์ก็ลดลงด้วย โดยเป็นผลมาจากสติกเกอร์ไลน์ที่เริ่มถึงจุดอิ่มตัว
- อุตสาหกรรมบิ๊กดาต้า
ปี 2563 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงรองลงมาจากอุตสาหกรรมบริการดิจิทัล โดยเติบโต 13.2% และมูลค่าตลาดจะขยับสู่ 16,871 ล้านบาทในปี 2564 จากแรงหนุนที่ทุกภาคส่วนเล็งเห็นประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบกับการมีทางเลือกให้ใช้บริการแบบเช่าใช้ ซึ่งง่ายต่อการตัดสินใจลงทุน
ส่งผลให้มูลค่ารวมอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นเป็น 18,558 ล้านบาทในปี 2565 เนื่องจากสถานการณ์ความผันผวนทางเศรษฐกิจและการระบาดของโรคโควิด-19 จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
จำนวนบุคลากร สะท้อนภาพอุตสาหกรรมดิจิทัล
ปี 2562 ไทยมีจำนวนบุคลากรในอุตสาหกรรมดิจิทัล รวม 381,620 คน โดยเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะมากที่สุดถึง 196,852 คน ทั้งนี้เพราะมีพนักงานในอุตสาหกรรมการผลิตและขายปลีกอุปกรณ์เป็นจำนวนมาก
หากมองย้อนกลับไป จำนวนบุคลากรด้านดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2560 ที่มี 283,636 คน เป็น 299,728 คนในปี 2561 บ่งบอกว่า อุตสาหกรรมดิจิทัลได้สร้างงานหลากหลายอาชีพ ทั้งแรงงานด้านไอทีและพนักงานทั่วไป
โดยเฉพาะใน อุตสาหกรรมบริการดิจิทัล ที่มีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากปี 2562 จำนวนบุคลากรบริการดิจิทัลเพิ่มขึ้น 455% เป็น 71,054 คน อันมีผลมาจากการเติบโตของบริการด้านธุรกรรม (e-Transaction) ที่อาจปรับเปลี่ยนรูปแบบการจ้างงานเป็นพนักงานที่อยู่ในระบบมากขึ้น จากเดิมที่ใช้บริการ Outsource
ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ว่า ในทัศนะของ รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการ สถาบันไอเอ็มซี ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สังคมปรับตัวสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเร็วขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมดิจิทัลเติบโตมากขึ้น สำหรับปี 2564 แม้มีแนวโน้มว่าจีดีพีของประเทศจะปรับตัวดีขึ้น แต่อัตราการขยายตัวอย่างก้าวกระโดดในปี 2563 จะทำให้ตัวเลขการเติบโตของปี 2564 อาจไม่สูงเท่ากับปีก่อนหน้า
ปี 2565 แนวโน้มการเจริญเติบโตด้านบริการดิจิทัลจะอยู่ในอัตราที่ดี แต่อาจไม่สูงเท่ากับที่เคยทำได้มาก่อน เพราะเป็นอัตราการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้วการสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลเป็นผลงานที่ดีป้าจัดทำต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 3 เพื่อเป็นข้อมูลบ่งชี้สถานภาพปัจจุบันของอุตสาหกรรม และข้อมูลคาดการณ์ที่บ่งชี้แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทยในแต่ละปี โดยดีป้าจะขยายขอบเขตการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัลให้ครอบคลุมมิติอื่นเพื่อให้ผู้สนใจได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น
การสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลเป็นงานที่ DEPA จัดทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 เพื่อเป็นข้อมูลบ่งชี้สถานภาพปัจจุบันของอุตสาหกรรม และเป็นข้อมูลคาดการณ์ที่บ่งชี้แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทยในแต่ละปี
นอกจากนี้ DEPA ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา Digital Pulse แหล่งรวบรวมข้อมูลทั้งดัชนีชี้วัดระดับสากล และฐานข้อมูลที่ DEPA สำรวจเอง ทั้งในฝั่งของผู้ประกอบการที่จะเป็นฐานข้อมูล แนวโน้มอุตสาหกรรมดิจิทัล และความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมดิจิทัลที่สำรวจและนำเสนอผลรายไตรมาส ตลอดจนการสำรวจฝั่งผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรม โดยจะโฟกัสที่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการผลิตเป็นอันดับแรก และจะขยายผลสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ต่อไป
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก