ห้องเม่าปีกเหล็ก

ล็อกเป้าเทรดกลุ่มเดินเรือ หลัง BDI นิวไฮรอบปี

โดย 98 Degree
เผยแพร่ :
64 views

ล็อกเป้าเทรดกลุ่มเดินเรือ หลัง BDI นิวไฮรอบปี

 

ฝืนแรงขายในช่วงการซื้อขายภาคบ่ายไม่ไหว (พุธ 16 พ.ย.) SET index จึงพลิกกลับมาปิดในแดนลบ ด้วยวอลุ่มขายที่เข้ามาในฝั่งหุ้นมาร์เก็ตแค็ปใหญ่อย่าง ADVANC , SCC และ AOT ผิดไปจากในช่วงตลาดภาคเช้า ที่ตลาดมีสัญญาณรีบาวด์ทางเทคนิค

 

ปัจจัยกดดันภาพรวมตลาดในด้านหนึ่งก็คือ การที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จน Dollar index ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีเรียบร้อยแล้ว ภายใต้กระแสการโยกย้ายเม็ดเงินลงทุนเข้าหาสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์ ที่ถูกมมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากนโยบาย “โดนัลด์ ทรัมป์” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 45 ของสหรัฐฯ

 

ขณะที่หุ้น “บลูชิพ” ของไทย จะมีกรอบการเคลื่อนไหวที่จำกัด กับหุ้นหลายตัวที่เผชิญ “Sell on facts” และหมดแรงกระตุ้นในระยะสั้นหลังจบฤดูผลประกอบการ กลายมาเป็นโอกาสของหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีปัจจัยสนับสนุนเฉพาะ กลับมาได้รับความสนใจมากขึ้น

 

“กลุ่มเดินเรือ” เป็นหุ้นอีกหนึ่งกลุ่มที่ราคาหุ้น Outperform ตลาดในระยะสั้น ตอบรับดัชนีค่าระวางเรือ BDI ในสัปดาห์นี้ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี เข้ามาเสริมความคาดหวังต่อผลประกอบการของหุ้นในกลุ่ม

 

“เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)” มีมุมมองบวกในหุ้น TTA โดยนักวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มผลงานไตรมาส 4 จะฟื้นตัวตามปัจจัยหนุน BDI ที่ฟื้นต่อเนื่อง ช่วยหนุนกลุ่มธุรกิจเรือเทกองเข้าใกล้จุดคุ้มทุนได้ เมื่อ BDI เข้าใกล้ระดับ 1,200 จุด ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ทั้ง 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจเดินเรือ ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจสาธารณูปโภค จะมีกำไรพร้อมกัน

 

ส่วน “วิกิจ ถิรวรรณรัตน์” ที่ดูแลงานวิเคราะห์แห่งค่าย “บัวหลวง” บอกกับ Money Channel ว่า สาเหตุที่ค่าระวางเรือ BDI ปรับตัวขึ้น น่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นสอดคล้องไปกับราคาถ่านหินที่ส่งสัญญาณพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และกำลังฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับ ตามความต้องการใช้ในจีน แต่ปัจจุบันยังไม่เห็นตัวเลขปริมาณการใช้ถ่านหินและเหล็กที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เขาจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นแค่การฟื้นตัวขึ้นในเชิง Sentiment ระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งคงต้องกลับมาติดตามว่าในปีหน้าความต้องการใช้จะเพิ่มขึ้นได้ตามคาดหรือไม่

 

และแม้ดัชนีค่าระวางเรือ BDI จะปรับตัวขึ้น แต่คุณวิกิจเชื่อว่าจะไม่ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มเดินเรือที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมากนัก เพราะเป็นกองเรือที่มีขนาดเล็ก ขณะดัชนี BDI เป็นการสะท้อนค่าระวางเรือขนาดใหญ่ นั่นจึงไม่ได้เป็นปัจจัยชี้วัดผลการดำเนินงานที่ชัดเจน

 

สำหรับหุ้น บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) และ บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) ฝ่ายวิจัยฯ "บัวหลวง" มองว่าธุรกิจยังไม่เข้าสู่ขาขึ้นชัดเจน หลังดูจากประมาณการตัวเลขผลประกอบการทั้ง 2 บริษัท ยังฟื้นตัวได้ไม่เด่นชัด โดยสรุปมุมมองได้ดังนี้ :

 

TTA (ราคาเหมาะสม 11.70 บาท) : นักวิเคราะห์ปรับลดประมาณการปี 2559 พลิกเป็นขาดทุน 228 ล้านบาท จากเดิมคาดมีกำไรสุทธิ 305 ล้านบาท เพราะไม่เชื่อว่าธุรกิจในกลุ่มจะดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนส่งทางเรือ ธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งที่อ่อนตัว  รวมถึงธุรกิจของ บมจ.พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ (PMTA) และ บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) ที่แม้จะดูดีขึ้น แต่ก็ยังไม่เห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่งผลให้ในปี 2560 ทาง “บัวหลวง” ได้ปรับลดกำไรลงมาอยู่ที่ 286 ล้านบาท จากเดิมที่คาดอยู่ที่ 837 ล้านบาท

 

PSL (ราคาเหมาะสมปี 60 ที่ 8.20 บาท) : ในไตรมาส 3 บริษัทฯ ขาดทุน 860 ล้านบาท และในปี 2559 นักวิเคราะห์คาดว่าจะขาดทุนสุทธิ 2,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะขาดทุน 2,585 ล้านบาท ก่อนในปีหน้าคาดว่าจะพลิกมีกำไร 126 ล้านบาท

 

********************************

ทีม Business&Finance, Money Channel


98 Degree