เข้าใจ 5 จิตวิทยา
ในโลกการลงทุน
.
1.กลัวความเสี่ยง (Snake Bite Effect)
ทฤษฎีนี้ใช้อธิบายพฤติกรรม ‘กลัวความเสี่ยง’ ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังจากการขาดทุนอย่างหนัก เปรียบเหมือนการถูก ‘งูฉก’ (Snake Bite) ในพงหญ้า ก็จะทำให้เราไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ ๆ พงหญ้าอีกต่อไป
.
2.กล้าเสี่ยงมากขึ้นเมื่อมีกำไร (House Money Effect)
House Money หมายถึง เงินของเจ้ามือ ซึ่งมักถูกใช้ในบริบทที่เกี่ยวข้องกับการพนันหรือคาสิโน โดยนักลงทุนจะมีแนวโน้มลงทุนแบบเสี่ยงมากขึ้นหลังจากได้กำไร เพราะเหมือนกับนำเงินของคนอื่นมาลงทุน
.
3.พยายามเอาคืน (Trying to Break Even Effect)
การพยายามเอาคืนหลังจากขาดทุนอย่างหนัก จะทำให้นักลงทุนพยายามที่จะเพิ่มความเสี่ยง เพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้นแต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม เนื่องจากทำการซื้อขายด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล จิตวิทยาข้อนี้เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของบ่อนการพนัน
.
4.ต้นทุนจม (Sunk Cost Effect)
เมื่อนักลงทุนขาดทุนมาก ๆ จะไม่ยอมขาย ซึ่งตรงกับจิตวิทยาเรื่องการหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด (ข้อถัดไป) โดยเมื่อนักลงทุนเริ่มขาดทุน ความเจ็บปวดจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อขาดทุนมากขึ้นและนานขึ้น ความเจ็บปวดจะลดลง ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ทนถือส่วนที่ขาดทุนได้อย่างยาวนาน
.
5.หลีกเลี่ยงความเจ็บปวด (Disposition Effect)
จิตวิทยาข้อนี้อธิบายการขาดทุนของใครหลายคนได้เป็นอย่างดี โดยธรรมชาติ ผู้คนจะหลีกเลี่ยงการกระทำที่ก่อให้เกิด ‘ความเสียใจ’ และแสวงหาการกระทำที่ทำให้เกิด ‘ความภูมิใจ’ (Regret and Pride) ดังนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่จะขายสินทรัพย์ที่ได้กำไรทิ้งเพื่อสร้างความภูมิใจ และถือตัวขาดทุนไว้เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด

บทความโดย คุณานันต์ CoinPro Today