ห้องเม่าปีกเหล็ก

ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปัจจัยเสี่ยงที่ “ยัง” ไม่ควรถูกมองข้าม

โดย ชายคนนั้น
เผยแพร่ :
140 views

ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปัจจัยเสี่ยงที่ “ยัง” ไม่ควรถูกมองข้าม

 

 

ในช่วงต้นปี 2566 ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยลดลง หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

และผลสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์โดยส่วนใหญ่โดย Bloomberg ที่ให้โอกาสของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้าลดลงในประเทศเศรษฐกิจ 

ประมาณการเศรษฐกิจ โดย IMF และโอกาสที่ประเทศเศรษฐกิจหลักจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

ยังมีความกังวลว่า อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมาย ทำให้ธนาคารกลางต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง ปัญหาเสถียรภาพของธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรป และปัญหาความไม่สงบเชิงภูมิรัฐศาสตร์ อาจจะเป็น
ตัวเร่งให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยเร็วขึ้นก็เป็นได้

ดังนั้น จึงยังต้องติดตามสัญญาณทางการเงินและเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจที่อาจส่งสัญญาณเตือนถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย  โดยจะพิจารณาที่ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 1 ของโลก ได้แก่ 


1.Inverted Yield Curve คือ ปรากฎการณ์ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น เมื่อนักลงทุนมีความกังวลว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวและภาวะตลาดมีความผันผวนรุนแรง จะเพิ่มการลงทุนในพันธบัตรระยะยาวมากกว่าปกติ

จึงทำให้เกิดภาวะ Inverted Yield Curve ข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ 17 มี.ค. 2566  ส่วนต่างระห่างอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปี กับ 2 ปี ติดลบ 0.42% โดยเริ่มติดลบตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ในขณะที่ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปี กับ 3 เดือน ติดลบ1.13% โดยเริ่มติดลบตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2565 ซึ่งอาจจะยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะใกล้นี้ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

ส่วนต่างระห่างอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปี กับ 2 ปี และ 10 ปี กับ 3 เดือน

2.High Yield Credit Spread คือ ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ภาคเอกชนที่ให้ผลตอบแทนสูง (High Yield) กับพันธบัตรรัฐบาล เนื่องจากตราสารหนี้ประเภทนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับที่ลงทุนได้ (Below Investment Grade) หรือไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated) พบได้มากในประเทศสหรัฐฯ

เมื่อส่วนต่างนี้กว้างขึ้น บริษัทย่อมมีต้นทุนทางการเงินมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณา High-Yield Credit Spread ควบคู่กับภาวะ Inverted Yield Curve ระดับในปัจจุบัน ยังไม่สะท้อนถึงความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระยะสั้น จากข้อมูลในอดีตเมื่อส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ภาคเอกชนที่ให้ผลตอบแทนสูง (High Yield) กับพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นมากกว่า 5.00% และยังคงสูงต่อเนื่องจะนำไปสู่สัญญาณเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย

3.ดัชนีนำเศรษฐกิจ (Leading Indicator) ในที่นี้จะพิจารณาถึง The Conference Board’s Leading Economic Indicators (LEI) ของสหรัฐฯ ที่ออกแบบมาเพื่อพิจารณาสัญญาณจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของวัฎจักรเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งสัญญาณล่วงหน้า 7 เดือน

ข้อมูลล่าสุดพบว่าการเปลี่ยนแปลงของดัชนีนำเศรษฐกิจลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 และค่าการเปลี่ยนแปลงติดลบมากกว่า -3.5% นับตั้งแต่เดือนเดือนสิงหาคม 2565 ถึงกุมภาพันธ์ 2566  เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

ดัชนีนำเศรษฐกิจสหรัฐฯ (Conference Board Leading Indicators)

4.ตลาดแรงงาน เมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย การจ้างงานจะลดลง อัตราการว่างงานจะสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เครื่องชี้ภาวะตลาดแรงงานโดยส่วนใหญ่จะเป็นดัชนีตามเศรษฐกิจ นั่นหมายความว่า เมื่อเศรษฐกิจถดถอยแล้วจึงจะเกิดอัตราการว่างงานสูง ดังนั้น จึงอาจเป็นเพียงสิ่งยืนยันว่าได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว หากพิจารณาถึงตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง ยังเป็นปัจจัยที่สนับสนุนเศรษฐกิจในปัจจุบัน

จากข้อมูลข้างต้นเครื่องชี้สภาวะเศรษฐกิจและการเงินบางส่วนได้ชี้นำถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แม้ว่าตลาดแรงงานจะยังแข็งแกร่งมาก แต่หากดอกเบี้ยสูงขึ้นจนกระทบต่อต้นทุนภาคธุรกิจสูงขึ้นจนส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท อาจจะนำไปสู่การลดต้นทุนโดยการเลิกจ้างงานในที่สุด

ในขณะเดียวกันหากปัญหาสภาพคล่องทางการเงินตึงตัวมากย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจในที่สุด ดังนั้น การเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นด้วยการติดตามข้อมูลเศรษฐกิจและการเงินอย่างใกล้ชิด รับรู้ข่าวสารและข้อมูลให้ถี่ถ้วนเพื่อที่จะวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้น จะช่วยนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนและลดความเสี่ยงในการลงทุน 

 

 


ชายคนนั้น