ห้องเม่าปีกเหล็ก

PTTGC โชว์งบไตรมาส 3/66 พลิกมีกำไร

โดย POWER
เผยแพร่ :
177 views

PTTGC โชว์งบไตรมาส 3/66

พลิกมีกำไรสุทธิ 1.42 พันลบ.

หลังมีกำไรสต็อกน้ำมัน-ปรับมูลค่าสินค้า

.

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/2566 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 160,392 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากไตรมาส 2/2566 แต่ปรับตัวลดลงร้อยละ 12 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

.

โดยรายได้รวมในไตรมาสนี้ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นผลหลักจากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้น โดยเฉพาะธุรกิจโรงกลั่นที่ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปรับตัวเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น

.

นอกจากนี้ปริมาณการขายในภาพรวมปรับตัวสูงขึ้น สอดคล้องกับอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นของกลุ่มธุรกิจโอเลฟินส์และกลุ่มธุรกิจโพลิเมอร์ปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาสนี้ แม้ว่าจะมีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงงานอะโรเมติกส์แห่งที่ 2 ในไตรมาสนี้

.

อีกทั้งในไตรมาส 3/2566 ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในระดับที่สูง บริษัทฯเริ่มการดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการปรับปรุงโรงโอเลฟินส์หน่วยที่ 2 หรือ Olefins 2 Modification Project (OMP) ซึ่งทำให้บริษัทฯ สามารถใช้โพรเพนเป็นวัตถุดิบในการผลิตได้เพิ่มขึ้น โดยโครงการดังกล่าวเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้วัตถุดิบและเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารต้นทุนของบริษัทฯ

.

ทั้งนี้ไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ รายงาน Adjusted EBITDA อยู่ที่ 12,307 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าร้อยละ 80 โดยหลักจากค่าการกลั่นที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งค่าการกลั่นเฉลี่ยของไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 12.6 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

.

ขณะที่ธุรกิจอะโรเมติกส์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากปริมาณการขายปรับลดลงจากการหยุดซ่อมบำรุงตามที่กล่าวข้างต้นเป็นหลัก นอกจากนี้ผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์และเคมีภัณฑ์มีผลประกอบการปรับสูงขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณขายที่เติบโตขึ้นร้อยละ 10

.

ด้านราคาเม็ดพลาสติกโพลิเอทีลีน เฉลี่ยปรับลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อยจากอุปสงค์ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน กอปรกับยังคงมีอุปทานส่วนเกินในตลาด

.

สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นกลางมีผลประกอบการดีขึ้น โดยหลักจากธุรกิจโมโนเอทิลีนไกลคอลที่กลับมาดำเนินการผลิตหลังจากหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ตามแผน และผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษปรับเพิ่มขึ้น จากการขายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า

.

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจปิโตรเคมีโดยรวมยังคงอยู่ในภาวะอ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความกดดันจากปัจจัยทั้งในด้านภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ปลายทางของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและการเริ่มดำเนินการของกำลังการผลิตใหม่ในตลาดโดยเฉพาะจาก ประเทศจีน

.

บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในไตรมาสนี้จำนวน 179 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยหลักจากการดำเนินงานของบริษัทร่วมทุนในธุรกิจปิโตรเคมีที่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย บริษัทฯ มีผลกำไรจากการดำเนินงานปกติจำนวน 1,614 ล้านบาท

.

โดยบริษัทฯ รับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติ ได้แก่ ผลกำไรจากสต๊อกน้ำมัน และรายการกำไรจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (Stock Gain Net NRV) รวม 3,674 ล้านบาท ผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยง 2,729 ล้านบาท ผลขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนและผลกำไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงินรวมเป็นขาดทุน 1,146 ล้านบาท บริษัทฯมีการบันทึกรายการพิเศษในไตรมาส 3/2566 รวม 625 ล้านบาท

.

โดยหลักจากรายการขาดทุนจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์อันเนื่องมาจากเหตุขัดข้องการเตรียมดำเนินการโครงการคลังสินค้า ส่งผลให้ในไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ รายงานกำไรสุทธิ 1,427 ล้านบาท

 

 


POWER