ห้องเม่าปีกเหล็ก

คิดเป็น เห็นก่อน

โดย ชัจจ์ปัณฑ์
เผยแพร่ :
60 views

ขึ้นมาแรงถึงเวลาต้องพักกันก่อน..

สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังคงมีเรื่องราวมากมายให้ติดตามตลอดเวลา การปรับตัวขึ้นของ Set Index อย่างรวดเร็วและร้อนแรง กว่า 50 จุดจนทดสอบแนวต้าน 1,800 จุดในระยะเวลาเพียงแค่ 3-4 วัน มันเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่วันนี้เริ่มจะมีคำถาม รวมถึงคำแนะนำของนักวิเคราะห์ให้ระวังการปรับฐานของตลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงนี้ได้ แต่โดยภาพรวมก็ไม่ได้มีอะไรให้ต้องเป็นวิตกกังวลแต่อย่างใดครับ

อาการของตลาดที่เหมือนช็อคเอาดื้อๆ หลังจากพยายามทะลุแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา 1,800 จุด แต่ยังไม่สามารถตีฝ่าขึ้นไปยืนได้ แต่แรงซื้อขายก็ยังมีเข้ามาหนาแน่น จึงมองเป็นเรื่องของการขายล็อกทำกำไรบ้างของนักลงทุน ขยับปรับพอร์ตให้คล่องตัวและมีความยืดหยุ่นขึ้น  โดยเฉพาะกองทุน ที่เริ่มโยกปรับหมุนกลุ่มหุ้นเข้าลงทุนอย่างเห็นได้ชัด สำหรับต่างชาติที่ยังดูจะสนุกกับขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง จะเป็นเกมพยายามเขย่ากดเอาของเพื่อจะได้ต้นทุนที่ต่ำบ้างก็เป็นไปได้

อย่างไรก็ตามด้วยความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังดี และภาพเศรษฐกิจโดยรวมก็ยังฟื้นตัว  อีกทั้งตลาดหุ้นไทยเพิ่งจะเป็นตลาดที่ดัชนีปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่  ตามหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ยังปรับตัวขึ้นทำนิวไฮไม่หยุดอยู่ในขณะนี้ ในเอเชียทั้งตลาดหุ้นญี่ปุ่น และ ฮ่องกงก็ทำนิวไฮไปแล้ว  ยิ่งตลาดหุ้นในกลุ่มคู่แข่งของตลาดหุ้นไทย  ทั้งตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ต่างก็ทำนิวไฮใหม่ไปแล้วก่อนหน้าตลาดหุ้นบ้านเราเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นด้วยแนวโน้ม โมเมนตั้มที่ยังมีอยู่ หากดัชนีจะมีการแกว่งตัวบ้างก็ไม่ได้เสียหายอะไร

นอกจากนี้ปัจจุบันเรายังคงอยู่ในสถานการณ์ของ  สภาพคล่องล้นโลกอยู่  จากการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE มาอย่างต่อเนื่อง แม้ ปัจจุบันจะมีเพียง สหรัฐฯ ที่หยุดนโยบาย  QE  และกำลังจะลดงบดุลของตัวเองเพื่อดึงสภาพคล่องกลับก็ตาม แต่ประเทศเศรษฐกิจหลักของโลกอย่างในยุโรป และญี่ปุ่นก็ยังคงเดินหน้านโยบาย QE อยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเรื่องสภาพคล่องในโลกยังคงไม่น่ากังวลแต่ประการใด และนั่นทำให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นยังคงมีความน่าสนใจอยู่นั่นเอง

สำหรับการแกว่งตัวขึ้นลงของตลาดย่อมต้องมีขึ้นลงเป็นเรื่องธรรมดา อยู่ที่ใครจะมีสติ มีเหตุผล มีความเชื่อมั่นในการเล่นหุ้นมากกว่ากัน และพร้อมที่จะฉกฉวยทำกำไรกันในยามที่คนอื่นตกใจกลัวกัน  บ่อยครั้งเมื่อตลาดมีอาการอ่อนทรุดลงจะเป็นจุดที่ทำให้ใครหลายๆคน  สามารถทำมาหากำไรจากตลาดหุ้นออกไปได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ  สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้เห็นกันอยู่เสมอๆ

ส่วนนักลงทุนที่ตื่นตระหนก ตกใจง่ายจิตใจไม่มั่นคง ตัดสินใจด้วยอารมณ์เหนือเหตุผล สุดท้ายแล้วการลงทุนก็จะผิดทิศผิดทาง เข้าผิดจังหวะ ขายถูก ซื้อแพง เป็นที่น่าเสียดาย การที่หุ้นปรับตัวขึ้นหรือลง เราต้องเรียนรู้ถึงภาวการณ์เป็นไปของหุ้นว่ามีสาเหตุใดที่ทำให้หุ้นขึ้นหรือลง ภาวการณ์ลงทุนแบบนี้เราจำต้องจดจำเป็นกรณีศึกษาเรียนรู้แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขจุดอ่อน พัฒนาจุดแข็งให้กับการลงทุนของตัวเองต่อไปครับ

การลงทุนที่ดีนั้น นักลงทุนต้องมีจุดยืนในหลักคิดที่ถูกต้อง และสอดคล้องกับแนวทางของตนเอง ไม่สะเปะสะปะ สามารถวางกรอบกลยุทธ์การลงทุน ที่พร้อมในทุกสถานการณ์ทันต่อภาวะของตลาดอยู่เสมอ พร้อมที่จะดักช่วงชิงจังหวะสร้างความได้เปรียบบนการลงทุนที่เราประเมินรู้ได้อย่างแท้จริง สามารถดักช้อนซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดี ในเวลาที่ราคาปรับตัวต่ำลงเกินกว่าพื้นฐานที่แท้จริง ก็จะทำให้เราสามารถบริหารพอร์ตการลงทุนของเราให้เติบโตและประสบความสำเร็จได้

สิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของหุ้น พฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนทั้งหลาย ทั้งมือใหญ่ กองทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนรายย่อย ทั่วไป เราต้องพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากอะไร และอะไรที่เป็นจุดแข็ง อะไรที่เป็นจุดอ่อน แล้วลองนำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพัฒนาตนเอง ให้เกิดภูมิความรู้ที่พร้อมจะสู้กับหุ้นต่อไป ที่ผ่านมาใครสามารถดักจังหวะซื้อหุ้นได้ในราคาที่ต่ำ แล้วสามารถขายทำกำไรได้ก็ถือว่าการลงทุนนั้นประสบความสำเร็จด้วยดี ผิดกับผู้ที่ตกใจเททิ้งขายหุ้นดีๆที่ถืออยู่ด้วยทุนที่ต่ำ แต่เกิดความวิตกกังวลหวั่นเกรง โดยขาดการคิดไตร่ตรองที่รอบคอบ ก็มักจะขาดทุนมากมาย และต้องมานั่งเสียดายเมื่อหุ้นดีๆเหล่านั้นราคาพลิกกลับขึ้นมาให้เห็นอยู่เป็นประจำ  จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่นักลงทุนที่จะประสบความสำเร็จต้องเข้าใจความเป็นไปของตลาด ของตัวหุ้น และวางกรอบการลงทุนที่ดีตามสิ่งที่ตัวเองพึงปรารถนาให้ได้ครับ


ชัจจ์ปัณฑ์