TSMC ฟอร์มเทพ ! กำไร 2Q25 ทุบสถิติใหม่
- TSMC รายงานกำไร 2Q25 พุ่ง 61% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดยมีกำไรสุทธิ 398.3 พันล้านไต้หวันดอลลาร์สูงกว่าคาด และเป็นการเอาชนะประมาณการนักวิเคราะห์ติดต่อกันทุกไตรมาสตั้งแต่ปี 2021
ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 933.8 พันล้านไต้หวันดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 38.6% YoY หนุนโดยยอดขายจากเทคโนโลยีชิปขั้นสูง (Advanced node) ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 73% เป็น 74% ของรายได้เวเฟอร์ โดยเฉพาะ 3nm ที่เพิ่มจาก 22% เป็น 24% และ 5nm คิดเป็น 36%
แม้จะเผชิญแรงกดดันจากค่าเงิน TWD ที่แข็งค่าขึ้นมาก แต่ Gross Margin ยังอยู่ในระดับสูงที่ 58.6% มากกว่าคาด เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ดีขึ้นและการควบคุมต้นทุนผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แรงขับเคลื่อนหลักมาจากความต้องการชิป AI ที่ร้อนแรงต่อเนื่อง
โดยเฉพาะกลุ่ม High Performance Computing (HPC) ที่เติบโต 14% QoQ และมีสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 60% ซึ่ง C.C. Wei (CEO) ย้ำว่าคำสั่งซื้อ AI ยัง “ร้อนแรง”
นอกจากนี้กลุ่ม Smartphone (+7% QoQ), IoT (+14%) และ Consumer Electronics (+30%) ต่างก็เติบโตดี สะท้อนดีมานด์ที่ฟื้นตัวในวงกว้าง
ด้านค่าใช้จ่ายมีการควบคุมได้ค่อนข้างดี Expenses to Sales ลดลงจากจาก 10.2% เหลือ 9.1%
- TSMC ยังคงลงทุนเชิงรุกเพื่อรองรับดีมานด์ AI ทั่วโลก
โดยประกาศแผนลงทุนเพิ่มอีก $100 bn ในโรงงานที่ Arizona พร้อมกับการขยายกำลังผลิตในญี่ปุ่น เยอรมนี และไต้หวัน ล่าสุดยังได้เปิดตัวกระบวนการผลิตชิปรุ่นใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า “A14” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับ 2nm ที่ใช้โครงสร้างทรานซิสเตอร์แบบ GAA (Gate-All-Around) ที่ล้ำหน้ากว่ารุ่นก่อนหน้า โดยออกแบบมาเพื่อรองรับงานประมวลผลที่ซับซ้อน เช่น AI และ HPC โดยเฉพาะ
นอกจากนี้ TSMC ยังได้จัดตั้ง “TSMC-UTokyo Lab” ร่วมกับมหาวิทยาลัยโตเกียว เพื่อเร่งการวิจัยและสร้างบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์ในระยะยาว ทั้งนี้ แม้จะเผชิญความเสี่ยงด้านนโยบายการค้าและภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ แต่ TSMC ยังแสดงจุดยืนชัดเจนในการปรับตัวผ่านการกระจายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร
Implication
ถึงแม้งบของ ASML เมื่อวานนี้ ผู้บริหารจะมีมุมมองที่ไม่สดใสในปี 2026 แต่เรามองว่าเกิดจากปัจจัยเฉพาะตัวที่บริษัทพึ่งพาลูกค้าเพียงไม่กี่ราย อีกทั้งเราเห็นสัดส่วนรายได้จากไต้หวันของ ASML ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เราจึงคาดว่าการส่งมอบเครื่องผลิตชิปรุ่นใหม่ล่าสุดระบบแรกนั้น น่าจะเกิดขึ้นกับ TSMC สะท้อนภาพของการที่เบอร์ 1 ของโรงงานผลิตชิปยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการผลิต 2nm แบบ Mass Production ที่จะเกิดขึ้นในปี 2026 ขณะที่บริษัทอื่นอาจจะชะลอคำสั่งซื้อออกไปจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนตามที่ CEO ของ ASML กล่าว
