เปิดรายชื่อหุ้นเด่นที่เหมาะลงทุน
เพื่อหาโอกาสขายทำกำไรกลางเดือนพ.ค.

.
ในช่วงเดือนพ.ค.เป็นช่วงที่ประเทศไทยมี Event ขนาดใหญ่อย่าง “เลือกตั้ง” ทำให้บรรยากาศในช่วงนี้คึกคักเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามในแวดวงตลาดทุน จะมีหุ้นกลุ่มไหนน่าลงทุนกันบ้าง คอลัมน์ “โพยหุ้น” ประจำวันจันทร์ ได้มีเคล็ดลับการเทรดในช่วงเดือนนี้มาฝากนักลงทุนแล้ว
.
สะท้อนจากวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ประเมินหุ้นที่แนะนำถือครองและเก็งกำไรในเดือนพฤษภาคม โดยมองกรอบการแกว่งตัวของ SET ในเดือนพ.ค.ที่ระดับ 1,500-1,630 จุด ซึ่งระดับ 1,630 จุด ถือเป็นระดับดัชนี SET ที่เหมาะสมในกรณีดีสุด (Best case) ของเราใหม่
.
ทั้งนี้แนะนําถือครองหุ้นที่ได้เข้าสะสมมาก่อนหน้านี้ ที่บริเวณแนวรับ 1,580 จุด กับ 1,550 จุด เพื่อคาดหวังการ Take profit ในช่วงกลางเดือนพ.ค. หรืออย่างช้าหลังจากการเลือกตั้ง 1 สัปดาห์
.
โดยกลุ่มหุ้นที่แนะนําถือครองยังคงได้แก่ กลุ่มภาคบริการของไทยที่ยังคงเห็น Demand แข็งแกร่ง ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น ทนทานต่อแรงกดดันเงินเฟ้อ และมักอยู่ในธีม Election rally ในอดีต อย่างกลุ่มธนาคาร (BBL, KTB) โรงพยาบาล (BH, BDMS) และค้าปลีก (CPALL, MAKRO, BJC)
.
ผสมผสานกับกลุ่มหุ้นที่มีธีมสนับสนุนในช่วง 1 เดือนข้างหน้า อย่างหุ้นที่คํานวณว่าจะถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี SET50 ได้แก่ TLI และ WHA สวนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเลือกตั้งที่อาจเป็นสีสันสําหรับการเก็งกําไรในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือน มองไปยัง SC, SIRI, PR9 เป็นต้น
.
เห็นสัญญาณ BUY IN MAY
ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ประเมินว่า โดยปกติเดือน พฤษภาคม ตลาดหุ้นไทยมักย่อตัว เช่นเดียวกับ คำกล่าว “Sell in May” แต่ปีนี้มีโอกาสแตกต่างออกไป และมีหลายปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ SET น่าสะสม หรือ Buy in May มากขึ้น ด้วยเหตุผลต่างๆ ดังนี้
.
1.งบไตรมาส 1/66 มีแนวโน้มฟื้นตัวเด่น ผิดจากงบไตรมาส 4/65 ที่ต่ำสุดในรอบ 5 ไตรมาสจากการเข้าสู่การรายงานกำไรบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 1/66 เบื้องต้นมีการรายงานออกมาภาพรวมดีกว่าที่ตลาดคาดราว 15% รวมถึงฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไรไตรมาส 1/66 จากการทำ Earning Preview 1 ใน 3 ของ Market Cap ตลาดพบว่า กำไรไตรมาส 1/66 เติบโตถึง 79%จากไตรมาสก่อน และ 2.0%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
.
2.เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ในอดีตหุ้นมักปรับตัวขึ้น โดยนโยบายต่างๆ ที่พรรคการเมืองหาเสียง ส่วนใหญ่เป็นการเน้นแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พร้อมกับใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจให้จุดติดแบบจัดเต็ม อีกทั้งสถิติในอดีตบ่งชี้ว่า SET Index มีแนวโน้มที่ดีในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งในอดีตก่อนการเลือกตั้ง 2 สัปดาห์ หุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 2.09% ด้วยความน่าจะเป็น 80% และหลังเลือกตั้ง 1 สัปดาห์ มีโอกาสปรับตัวขึ้น 3.8% ด้วยความน่าจะเป็น 80% เช่นกัน พร้อมกับ Fund Flow ที่ไหลเข้ามาสนับสนุนเสมอ
.
3.แรงกดดันจากหุ้น DELTA ลดลง หลังเดือน เม.ย. 66 DELTA ย่อตัวลงมากว่า -36% จาก 114.2 บาท เหลือ 72.75บาท กดดัน Market Cap เหลือ 9 แสนล้านบาท (ลงมาเป็นอันดับ 2 รองจาก AOT) และราคาปัจจุบันเริ่มเข้าใกล้ราคาเป้าหมายที่ Consensus ประเมินไว้ที่ 55 – 79 บาท (เฉลี่ย 61 บาท)
.
และ 4. ปัจจุบัน SET Index อยู่ที่ 1500 ต้นๆ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในไตรมาส 1/66 ที่ 1645 จุดพอสมควร ขณะที่แรงกดดันต่างๆ น้อยลงทั้งเรื่อง วิกฤตธนาคารโลก, การขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงในประเทศงบไตรมาส 1/66 มีโอกาสฟื้นเด่น และยังเป็นช่วง Election Rally
.
ดังนั้นทั้ง 4 ปัจจัยล้วนเป็นแรงหนุนให้ SET Index ในเดือน พ.ค. 66 น่าสะสมมากขึ้น พร้อมกับคาดหวัง Fund Flow กลับมาพยุงดัชนีอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงหลังวันเลือกตั้ง