ห้องเม่าปีกเหล็ก

[จับตา] หุ้น STA กำลังจะวิ่งแรงในรอบหลายสิบปี

โดย Tokenkung
เผยแพร่ :
67 views

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1250 จุด ตามแรงกดดันของราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ความคาดหวังในการเปิดธุรกิจหลังจากตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิท 19 รายใหม่เพิ่มขึ้นต่ำกว่า 30 ราย ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการจำกัดการแพร่ระบาด โดยมีแนวต้านที่ 1280 และ 1300 จุดเป็นแนวต้านสำคัญ แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1250 จุดลงไป จะมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1220 และ 1200 จุด

 

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ STA หรือ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยางธรรมชาติแบบครบวงจร (Full Supply Chain) ในหลากหลายประเทศ เริ่มตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำการทำสวนยางพาราในประเทศไทย ธุรกิจกลางน้ำการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติ ทั้งยางแท่ง (TSR) ยางแผ่นรมควัน (RSS) และน้ำยางข้น (Concentrated Latex) รวมถึงธุรกิจปลายน้ำในการผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยาง และสินค้าสำเร็จรูป

 

ผลการดำเนินงาน ปี 2562 มีรายได้รวม 61,304 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิ 149 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 0.10 บาท พลิกเป็นขาดทุนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 61 ที่มีรายได้รวม 75,188 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,064 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.34 บาท

น.ส.ทิพย์วดี สุดเวหา ผู้จัดการกลุ่มงานนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปี 63 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ จากปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 148.54 ล้านบาท จากปริมาณการขายถุงมือยางในปีนี้ที่คาดจะเพิ่มเป็น 28,000 ล้านชิ้น จากสิ้นปี 62 อยู่ที่ 19,913 ล้านชิ้น และผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติเพิ่มเป็น 1.3-1.4 ล้านตัน จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 1.1 ล้านตัน

 

ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลทำให้มีความต้องการใช้ถุงมือยางเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายจากการส่งออกคิดเป็น 90% ของยอดขายรวม และที่เหลือมาจากในประเทศ แต่ปีนี้คาดว่าสัดส่วนยอดขายในประเทศจะเพิ่มขึ้นราว 1-2% อย่างไรก็ตามแม้ว่าบริษัทจะมีสัดส่วนการส่งออกค่อนข้างสูง แต่ในภาวะที่ในประเทศมีความต้องการถุงมือยางค่อนข้างมากยืนยันว่าจะให้ความสำคัญกับการขายในประเทศเพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนอย่างแน่นอน

 

บริษัทยังเดินหน้าที่จะลงทุนในปีนี้ 1,300 ล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิตถุงมือยางเพิ่มเป็น 33,000 ล้านชิ้นต่อปี คาดจะเห็นกำลังการผลิตใหม่ได้ในช่วงเดือน เม.ย.นี้ จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 27,000 ล้านชิ้นต่อปี และเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต 100% แล้ว รวมถึงจะใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติด้วย

 

แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/63 คาดว่าจะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก เห็นได้จากการเดินเครื่องกำลังการผลิตเต็มที่ 100% มาระยะหนึ่งแล้ว ขณะเดียวกันราคายางธรรมชาติก็ปรับตัวลดลงสอดคล้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลดีต่อต้นทุนวัตถุดิบ อีกทั้งค่าเงินบาทก็อ่อนค่าต่อเนื่อง

 

ส่วนการเข้าจดทะเบียนของ บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) บริษัทในเครือ บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 444,780,000 หุ้น โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในปีนี้

 

โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ STGT ณ วันที่ 2 ธ.ค.62 ประกอบด้วย STA ถือหุ้น 725,037,300 หุ้น คิดเป็น 73.2% หลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 50.7%, บริษัท รับเบอร์แลนด์โปรดักส์ จำกัด (RBL) ถือหุ้น 77,663,400 หุ้น คิดเป็น 7.8% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 5.4% และกลุ่มครอบครัวสินเจริญกุล ถือหุ้น 89,285,900 หุ้น คิดเป็น 9.0% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 6.3%

 

STA มีราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus อยู่ที่ 13.88 บาท โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 16.30 บาท และมีราคาเป้าหมายต่ำสุดที่ 12.00 บาท

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้นหลังจากปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 9.00 ตามโครงสร้างการเคลื่อนไหวในระยะยาว ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 14.00-14.30 ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญของแนวโน้มขาลงในระยะยาว ถ้าสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 17.00 แต่มีแนวรับสำคัญที่ 11.00 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค


Tokenkung