


จากความผันผวนที่เพิ่มขึ้นจากวัฎจักรขึ้นอัตราดอกเบี้ย มาตรการ QT ของ Fed ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงผลจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อและมาตรการล็อกดาวน์ของจีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราจึงคงเป้า SET index สิ้นปี 2565 ของเราไว้ตามเดิมที่ 1,680 จุด คำนวณด้วย EPS ที่ 98.9 บาท และ EYG ที่ -0.875SD ตลาดปรับเพิ่มประมาณการ EPS ล่วงหน้า 12 เดือน ขึ้นเป็น 98.9 (+3% MoM) จากการปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิ (ส่วนใหญ่ของกลุ่มพลังงาน) และปรับปีฐาน EPS ขึ้นเป็นสิ้นเดือน มี.ค.2565 จากเดือน ก.พ.2565 อัตราตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย ระยะเวลา 10 ปี เพิ่มขึ้น 34 bps MoM มาอยู่ที่ 2.54% เมื่อวันที่ 28 มี.ค. หนุนจากแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อและอัตราตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะเวลา 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นก่อนที่จะลดลงมาอยู่ที่ 2.4% ขณะนี้ จากความกังวลเรื่องภาวะถดถอยผลจาก inverted yield curve ของพันธบัตรสหรัฐฯ 2-10 ปี เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ดังนั้น เราจึงคงเป้า SET Index ไว้ตามเดิมที่ 1,680 จุด เพราะ EPS ที่สูงขึ้นหักล้างอัตราลดที่เพิ่มขึ้น

SET Index ปรับเพิ่มขึ้นมาแตะระดับก่อนเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ 1,690-1,700 จุด จากความคาดหวังที่ว่าการเจรจาสันติภาพจะสำเร็จไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ดี ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ยังคงอยู่และคาดชาติตะวันตกจะไม่ยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซียโดยง่ายเพราะผ่านช่วงที่จะหันหลังกลับไม่ได้แล้ว (เช่น ความเสียหายในยูเครน การอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซีย คำสั่งห้ามใช้ swift และแผนการของยุโรปที่จะลดการนำเข้าก๊าซจากรัสเซีย 2/3 ภายในช่วงสิ้นปี 2565) การคว่ำบาตรรัสเซียจะช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์และคาดจะส่งผลให้เกิดภาวะ stagflation (อัตราเติบโตต่ำแต่อัตราเงินเฟ้อสูง) ธนาคารกลางจำเป็นต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อจำกัดผลกระทบ หากอัตราเงินเฟ้ออยู่ระดับสูงเกินไป อาจสร้างความเสียหายให้กับตลาดและ/หรือกับสภาวะเศรษฐกิจและส่งผลให้เกิดภาวะถดถอย Yield curve inversion ของพันธบัตรสหรัฐฯ 2-10 ปี ล่าสุดส่งสัญญาณที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย สมมติฐานดังกล่าวคาดจะส่งผลเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยและทัวโลก
6 ธีมการลงทุนและหุ้นที่ KS แนะนำ..

เราคาดว่า BE8 จะรายงานกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้น 57%/44% ในปี 2565-66

หุ้นปันผลมักจะเคลื่อนไหวดีกว่าตลาดในช่วงที่ตลาดอ่อนตัวลง

หุ้น Defensive จะช่วยป้องกันความเสี่ยงหากเศรษฐกิจถดถอยเพราะกำไรยังโตได้

การเปิดเศรษฐกิจ การผ่อนคลายข้อจำกัดในการเดินทางและอุปสงค์ที่อั้นไว้คาดจะช่วยหนุนยอดขายของ AMATA อัตราการเข้าพักและ ADR ของ MINT จำนวนผู้ป่วยของ BH และจำนวนผู้โดยสารของ BEM

คาดผู้ส่งออกและนำเข้าจะได้ประโยชน์จากค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่ลดลง ดัชนี SCFI ลดลง 14% YTD จากปัญหาท่าเรือแออัดที่ผ่อนคลายลงและอุปสงค์ที่เติบโตขึ้น

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นจากการคว่ำบาตรรัสเซียคาดจะส่งผลบวกต่อ BCP และ PSL