กลุ่มพลังงาน : CCS แนวทางสู่การปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์
CCS และ CCU คืออะไร? การดักจับและการจัดเก็บคาร์บอน หรือ “CCS” เป็นเทคโนโลยีที่ดักจับก๊าซเรือนกระจกคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และเก็บไว้ใต้ดินอย่างปลอดภัย โดย CCS สามารถดักจับ CO2 จากแหล่งปล่อยก๊าซที่มีความเข้มข้นหรือจากอากาศโดยตรงได้
ขณะเดียวกัน การดักจับคาร์บอนและการนำมาใช้ประโยชน์ หรือ “CCU” หมายถึงเทคโนโลยีที่ดักจับ CO2 แล้วแปลงเป็นรูปแบบอื่นๆ เช่น เคมีสังเคราะ เมทานอล และคอนกรีต เป็นต้น เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอื่นต่อไป
ปัจจัยของความสำเร็จที่สำคัญของ CCS หากเน้นไปที่ CCS มี 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่
1) การดักจับ CO2 - มีวิธีการดักจับที่ได้รับการพิสูจน์แล้วหลายวิธีโดยอิงตามแหล่งการปล่อยก๊าซ
2) การขนส่ง - ทางท่อหรือทางเรือ
3) การอัดกลับและการจัดเก็บ - จัดเก็บในชั้นหินใต้ดินที่สามารถจัดเก็บได้อย่างปลอดภัยและถาวร เช่น ชั้นกักเก็บน้ำเกลือและชั้นกักเก็บน้ำน้ำมันและก๊าซ
4) การประเมินผล ตรวจวัด และตรวจสอบ (MMV)
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจรายใดที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในขั้นตอนทั้ง 4 นี้ จะมีความได้เปรียบในการเข้าสู่ธุรกิจ CCS
ไทยเหมาะกับ CCS หรือไม่? รัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี พ.ศ.2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2608 โดยจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวโดยไม่ใช้เทคโนโลยี CCS
ทั้งนี้ หากอิงตามการคาดการณ์ของหน่วยงานรัฐบาล ไทยจำเป็นต้องมี CCS ที่ 60 ล้านตันต่อปีภายในปี 2608 ขณะเดียวกัน Global CCS Institute ระบุว่าอ่าวไทยและพื้นที่บางส่วนของประเทศดูเหมือนจะมีความเหมาะสมสำหรับการจัดเก็บ CO2 แต่ยังคงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อเร่งให้เกิดการพัฒนา
ใครคือผู้เล่นไทยที่ได้เริ่มเข้าสู่ธุรกิจนี้? สำหรับธุรกิจ CCS มีผู้ประกอบการไทย 2 รายที่พัฒนาธุรกิจนี้อย่างจริงจังที่โครงการผลิตก๊าซของบริษัท ได้แก่ PTTEP และ BANPU
โดย PTTEP กำลังพัฒนา CCS ที่โครงการผลิตก๊าซแหล่งอาทิตย์ โดยมีกำลังการกักเก็บคาร์บอนที่ 1 ล้านตันต่อปี โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2569-70
ขณะเดียวกัน BANPU มีโครงการ CCS 2 โครงการ ได้แก่ Barnett Zero และ Cotton Cove ในสหรัฐฯ โดยมีกำลังการกักเก็บคาร์บอนรวม 0.3 ล้านตันต่อปี ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้จะเริ่มดำเนินการในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ
คงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มพลังงาน เราคิดว่าธุรกิจ CCS จะทำให้เกิด upside ในระยะสั้นต่อ BANPU เนื่องจากโครงการจะเริ่มดำเนินการได้ภายใน 3-15 เดือน และมีแหล่งที่มาของรายได้ที่ชัดเจนคือจากเงินอุดหนุนของรัฐบาล
ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนทางการเงินของโครงการ CCS ของ PTTEP ยังคงมีความไม่แน่นอน เนื่องจากรูปแบบธุรกิจและแหล่งที่มาของรายได้ยังไม่ชัดเจน แต่โครงการจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อทำให้ประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ได้
