รวบรวมข้อมูลจาก Business Insider
เขียนโดย Lance Roberts, STA Wealth Management
สรุปใจความสำคัญโดย SiTh LoRd PaCk
---------------------------
1) Jeffrey Gundlach, DoubleLine
"เคล็ดลับในการรับความเสี่ยง คือ กระจายความเสี่ยงลงไปในตะกร้าแต่ละใบ"
นี้คือหลักการลงทุนขั้นพื้นฐานอย่างแน่นอน นั้นคือ กระจายความเสี่ยง หรืออย่าวางไข่ไว้ในตะกร้าเพียงใบเดียว เพราะการจัดการกับความเสี่ยงเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ได้หมายถึงคุณจะทำเงินได้มากเท่าไร แต่มันจะพูดถึงคุณจะเสียเงินได้เท่าไรเมื่อคุณผิด ในโลกของการลงทุน คุณสามารถ"เล่น"กับมันได้ตราบเท่าที่เงินของคุณยังไม่หมด แต่ถ้าคุณเงินหมดเมื่อไรนั้นคือเกมจบ และปัญหาของการทำให้เกมจบมาจากการไม่จัดการกับความเสี่ยง ..
จงโลภเมื่อคนอื่นกลัว และจงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ นี้เป็นประโยคที่ใช้ได้ดีเสมอในโลกของการลงทุน แต่ความยากคือเราไม่รู้ว่าเมื่อไรเราควรจะโลภ หรือควรจะกลัว
2) Ray Dalio, Bridgewater Associates
"สิ่งที่ผิดพลาดมากที่สุดสำหรับนักลงทุน คือ พวกเขาชอบเชื่อว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ปัจจุบันมันก็จะเกิดขึ้นอีกครั้ง พวกเขาชอบคิดเอาเองว่าสินทรัพย์ที่เคยสร้างผลตอบแทนที่ดีในอดีต ปัจจุบันและอนาคตมันก็จะเป็นแบบนั้น อะไรที่ราคายิ่งสูงแสดงว่ามันจะต้องแพงได้อีก อะไรที่มันมีราคาถูกแสดงว่ามันไม่ดี"
ในโลกของการลงทุนไม่มีอะไรที่ดีตลอดไปหรือแย่ตลอดไป จุดที่ผิดพลาดของนักลงทุนคือ ชอบคิดว่า "ครั้งนี้มันจะไม่เหมือนครั้งก่อน" ในความเป็นจริงคือ เศรษฐกิจมันจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป โลกจะต้องหมุนต่อไปและเส้นทางในอดีตไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่ามันจะต้องเกิดขึ้นอีกครั้ง ท้ายที่สุดแล้ว อะไรที่มันชึ้นไปมากๆ สักวันมันก็ต้องลง
วอลสตรีทคือสถานที่เดียวที่ส่งเสริมให้คุณซื้อๆขายๆตลอดเวลาเพื่อที่พวกเขาจะได้ค่านายหน้าและค่าธรรมเนียมจากนักลงทุนเหล่านั้น อย่างไรก็ตามนักลงทุนที่มีประสบการณ็์อยางโชกโชน เขาจะคิดอยู่เสมอว่า "ราคาคือสิ่งที่คุณจ่าย มูลค่าคือสิ่งที่คุณได้รับ" ท้ายสุดแล้วบริษัทที่ดี มันก็จะมีแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว ส่วนที่เหลือ คือ รอ!
3) Seth Klarman, Baupost
“Most investors are primarily oriented toward return, how much they can make and pay little attention to risk, how much they can lose.”
นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่า ผมจะทำเงินได้เท่าไร แต่กลับไม่เคยสนใจเลยว่าพวกเขารับความเสี่ยงได้มากเท่าไร นักลงทุนผู้ชาญฉลาดจะคิดถึงเรื่องความเสี่ยงก่อนจะคิดถึงกำไร"
พฤติกรรมของนักลงทุนถูกขับเคลื่อนด้วยความโลภและความกลัว และสิ่งสำคัญที่สุดคือละเลยความเสี่ยงในการลงทุน จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมนักลงทุนถึงซื้อที่จุดสูงสุดและขายที่จุดต่ำสุดทุกครั้งไป
ดังนั้น ถ้าอยากชนะตลาด จงกล้าที่จะเปลี่ยนทัศนคติและเรียนรู้เรื่องจิตวิทยาในการลงทุน ที่สำคัญคือ คิดถึงเรื่องความเสี่ยงก่อนกำไรเสมอ ทุกครั้งที่ลงทุนต้องถามตัวเองว่า ความเสี่ยงของหุ้นตัวนี้คืออะไร ก่อนจะคิดว่าผมจะทำกำไรที่จุดสูงสุดได้อย่างไร
4) Jeremy Grantham, GMO
คุณจะไม่ทำเงินจากความเสี่ยง แต่คุณจะทำเงินจากการซื้อสินทรัพย์ถูกๆที่มีส่วนลดและหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าเท่านั้น ซื้อสินทรัพย์ที่มีส่วนลดนั้นหมายความว่าความเสี่ยงต่ำไปแล้ว ในขณะเดียวกันสินทรัพย์ที่ราคาขึ้น มีแต่ข่าวดี แสดงว่าพวกมันมีความเสี่ยง และเมื่อมันมีความเสี่ยงที่มาเกินไปสุดท้ายมันจะจบลงที่การขาดทุน
นักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จจะหลีกเลี่ยง "ความเสี่ยงที่มากเกินไป" อยู่ตลอดเวลา ทำไมพวกเขาถึงชอบสินทรัพย์ที่ราคาลงต่ำมาอย่างยาวนาน ไม่เป็นที่สนใจของวอลสตรีทและแพ้ดัชนี S&P500 มาโดยตลอด สื่อต่างๆของวอลสตรีทต่างพูดกันว่า คุณควรจะไล่ล่าผลตอบแทนในระยะสั้น แต่ในความเป็นจริงคือการซ้อๆขายๆและไล่ล่าผลตอบแทนจะทำให้ความเสี่ยงมากขึ้น เท่ากับว่าไล่ล่าผลตอบแทนระยะสั้นเพื่อให้ระยะยาวแพ้ตลาด ไม่ต่างอะไรกับการยืนอยู่ขอบปากเหว..
5) Jesse Livermore, Speculator
ศัตรูของนักเก็งกำไร คือ ความละเลย ความโลภ ความกลัว และความหลัง ไม่ว่าเราจะทำยังไงก็ตามก็ไม่สามารถหลีกหนีจากนิสัยเหล่านี้ได้
การฝังรากลึกกับนิสัยเหล่านี้เป็นสูตรสำเร็จแห่งความล้มเหลวสำหรับนักเก็งกำไร ดังนั้นสิ่งที่มนุษย์คนหนึ่งที่จะทำได้ คือ การฝึกฝน กลยุทธ์และการจัดการกับความเสี่ยง
---
รอติดตามตอนที่ 2 เร็วๆนี้ครับ