ห้องเม่าปีกเหล็ก

Secured Debt VS Unsecured Debt

โดย Vira
เผยแพร่ :
64 views

Secured Debt VS Unsecured Debt

 

                   ปัจจุบันการจัดหาเงินของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากการออกหุ้นเพิ่มทุนแล้ว อีกแบบหนึ่งที่นิยมทำกัน คือ การออกตราสารหนี้ เพื่อ ป้องกัน  dilution effect ซึ่งการออกตราสารหนี้มี 2 ประเภทหลัก คือหนี้ที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ความแตกต่าง คือการมีหรือไม่มีสินทรัพย์บางอย่างซึ่งเจ้าหนี้สามารถบังคับเรียกได้ กรณีที่ผู้ออกตราสารผิดนัดชำระ

 

 

ตราสารหนี้มีหลักประกัน

             ตราสารหนี้ที่มีหลักประกันคือลูกหนี้ที่กู้พร้อมด้วยสัญญาว่าจะวางทรัพย์สินบางส่วนเป็นหลักประกันการกู้ สำหรับตราสารหนี้ที่มีหลักประกันหมายความว่าในกรณีที่ผิดนัดผู้ให้กู้สามารถใช้สินทรัพย์นี้เพื่อชำระคืนเงินที่กู้ได้ ประเภทของตราสารหนี้ที่มีหลักประกันทั่วไป เช่น การจำนองและสินเชื่อรถยนต์  ด้วยเงินกู้รถถ้าผู้กู้ไม่สามารถชำระเงินได้ทันเวลาผู้ออกเงินกู้จะได้รับกรรมสิทธิ์ในยานพาหนะในที่สุด เมื่อบุคคลหรือธุรกิจดำเนินการจดจำนองทรัพย์สินที่เป็นปัญหาถูกนำมาใช้เพื่อคืนเงื่อนไขการชำระคืน (ดอกเบี้ยทางการเงิน) ในทรัพย์สินจนกว่าจะมีการชำระเงินจำนองเต็มจำนวน หากผู้กู้ผิดนัดในการชำระเงินผู้ให้กู้สามารถยึดทรัพย์สินและขายเพื่อชดใช้เงินที่ค้างชำระได้

 

              ความเสี่ยงในการผิดนัดหนี้ที่มีหลักประกันซึ่งเรียกว่าความเสี่ยงของคู่สัญญาต่อผู้ให้กู้มีแนวโน้มที่จะค่อนข้างต่ำเนื่องจากผู้กู้ต้องสูญเสียมากขึ้นโดยละเลยภาระทางการเงินของตน การจัดหาเงินกู้ที่มีหลักประกันโดยปกติจะง่ายสำหรับบริษัทและผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่จะได้รับ เนื่องจากเงินกู้ชนิดนี้มีความเสี่ยงน้อยกว่าสำหรับผู้ให้กู้อัตราดอกเบี้ยมักจะต่ำกว่าสำหรับเงินกู้ที่มีหลักประกัน

 

 

                ผู้ให้กู้มักต้องการให้สินทรัพย์ต้องได้รับการบำรุงรักษาหรือเป็นผู้ประกันตนภายใต้ข้อกำหนดเฉพาะเพื่อรักษามูลค่าของสินทรัพย์ไว้ ตัวอย่างเช่นผู้ให้กู้จำนองบ้านมักจะต้องกู้เพื่อนำออกประกันเจ้าของบ้าน โดยการปกป้องทรัพย์สินนโยบายรักษามูลค่าทรัพย์สินของผู้ให้กู้ ด้วยเหตุผลเดียวกันผู้ให้กู้ที่ออกเงินกู้รถยนต์ต้องได้รับความคุ้มครองบางอย่างเพื่อที่ว่าในกรณีที่ยานพาหนะมีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดพลาดธนาคารจะสามารถกู้คืนยอดคงเหลือส่วนใหญ่ได้ถ้าไม่ครบถ้วน

 

ตราสารหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน

               หนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ไม่จำเป็นต้องมีการวางทรัพย์สินใดไว้เป็นหลักประกัน เพื่อการรักษาความปลอดภัยตามที่ ชื่อ หากผู้กู้ผิดนัดหนี้ประเภทนี้ผู้ให้กู้ต้องดำเนินการฟ้องคดีเพื่อเรียกเก็บหนี้ที่ค้างชำระ ผู้ให้กู้ออกกองทุนในเงินกู้ที่ไม่มีหลักประกันโดยยึดตามความน่าเชื่อถือของผู้กู้และสัญญาว่าจะชำระคืน สำหรับบริษัทจดทะเบียน จะมีการจัดทำ credit rating ดังนั้นธนาคารมักจะเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในการกู้ยืมเงินเหล่านี้ และจะทำเฉพาะกับผู้กู้ที่น่าเชื่อถือมากที่สุดโดยมากมักเป็นบริษัทใหญ่ มีฐานะการเงินมั่นคง

 

             เนื่องจากการลงทุนในตราสารลักษณะนี้นี้มีเพียงความเชื่อถือได้และเครดิตของผู้ออกตราสารหนี้ตราสารหนี้ที่ไม่มีหลักประกันเช่นพันธบัตรนั้นมีความเสี่ยงสูงกว่าคู่สัญญาที่มีการวางหลักประกัน ความเสี่ยงที่ผู้ให้กู้จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเงินกู้ที่มีหลักประกันอัตราดอกเบี้ยของหนี้สินที่ไม่มีหลักประกัน

 

 

               อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยของตราสารหนี้ต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของกิจการที่ออกหลักทรัพย์ เงินให้กู้ยืมที่ไม่มีหลักประกันแก่บุคคลอาจ มีความเสี่ยงสูงที่จะผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่ตั๋วเงินคลังของรัฐบาลที่ออกให้โดยรัฐบาลจะมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่ามาก แต่รัฐบาลก็มีอำนาจที่จะปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมหรือเพิ่มภาษีเพื่อชดเชยภาระหนี้ซึ่งทำให้ตราสารหนี้ประเภทนี้ไม่มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน

 

               โดยสรุปการออกตราสารหนี้ที่มีหลักประกันจะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ที่ถือตราสารหนี้ของบริษัท หากมีความผิดพลาดที่บริษัทไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามที่ตกลง ผู้ถือตราสารหนี้จะมีสิทธิที่จะบังคับเอาจากหลักทรัพย์ที่ใช้เป็นหลักประกัน ขณะที่ตราสารหนี้ไม่มีหลักประกัน จะเอื้อประโยชน์กับผู้ออกตราสารหนี้มากกว่า ส่วนมากมักทำโดยบริษัทขนาดใหญ่ น่าเชื่อถือ และมักมีดอกเบี้ยที่แพงกว่าตราสารหนี้ที่มีหลักประกัน ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่หลายๆท่าน^^

 

 

 - Vira -

อ้างอิง: What is the difference between secured and unsecured debts? , Michael Kyle

 

 

 


Vira