บริษัทค้าปลีกน้ำมัน ผู้ได้ประโยชน์สูงสุดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
มุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน
เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อกลุ่มธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน เนื่องจาก
1) โอกาสในการเข้าตรึงค่าการตลาดน้ำมันโดยรัฐบาลชุดใหม่ลดลง
2) แนวโน้มกำไรระยะสั้นที่สดใส
3) ประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศฝั่งตะวันตก
โดยภายใต้สภาพแวดล้อมดังกล่าว เราคาดว่าหุ้นกลุ่มค้าปลีกน้ำมันน่าจะได้รับการปรับเพิ่มตัวคูณมูลค่าหุ้น อย่างไรก็ตาม downside ที่สำคัญ ได้แก่ ค่าสาธารณูปโภคและค่าแรงที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ผู้ได้ประโยชน์สูงสุดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
กำไรของบริษัทค้าปลีกน้ำมันได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความยืดหยุ่นมากกว่าหุ้นกลุ่มพลังงานอื่นๆ ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจาก
1. โดยปกติแล้วราคาน้ำมันที่ลดลงจะเพิ่มค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกให้สูงขึ้น
2. ราคาน้ำมันที่ลดลงจะจูงใจให้ผู้ใช้รถขับรถมากขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมันให้เพิ่มสูงขึ้นด้วย
โดยผลประโยชน์ดังกล่าวจะยิ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้นภายใต้สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะอยู่ในเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศฝั่งตะวันตก ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศแถบเอเชียยังคงค่อนข้างดีอยู่
มุมมอง KS
คงคำแนะนำ “ซื้อ” OR และ PTG ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและภาพรวมของอุตสาหกรรมพลังงาน
เราคาดว่าหุ้นกลุ่มผู้ค้าปลีกน้ำมันเป็นทางเลือกในการลงทุนที่ดี เนื่องจากเราคาดว่าอาจมีการปรับเพิ่มตัวคูณมูลค่าหุ้นใหม่ เมื่อตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงค่าการตลาดโดยรัฐบาลชุดใหม่ ขณะที่โมเมนตัมกำไรระยะสั้นที่สดใสมีแนวโน้มที่จะป้องกันไม่ให้เกิด downside อย่างมีนัยสำคัญต่อราคาหุ้นในปัจจุบัน
ดังนั้น เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับทั้ง OR และ PTG ด้วยราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 25.50 บาท และ 16.20 บาท ตามลำดับ โดยปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ค่าสาธารณูปโภคและค่าแรงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกิจกรรมการขยายธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (non-oil) ที่ช้ากว่าคาด
