อนาคตประเทศไทย
----------------------------------------------------------------
ผมนั่งอ่านบทความอาจารย์นิเวศน์ ประจวบกับ The Economist ฉบับล่าสุด ซึ่งถอดบทเรียนเรื่องการวิเคราะห์ประเทศผ่านเลนส์ Geopolitics ได้อย่างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เนื้อหาเกริ่นว่าสาเหตุใดทำไมแค่ช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ยุโรปถึงได้ถดถอยในบทบาทเวทีเศรษฐกิจโลก เดิมธุรกิจ Top100 ในยุโรปมีขนาด Market Cap ใกล้เคียงสหรัฐ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงหนึ่งในสี่ ซึ่งผมคิดว่ามีแนวคิดดี ๆ นำมาปรับใช้ได้จำนวนมาก
1. เหตุผลแรกบริษัทในยุโรป มีการบริหารจัดการด้อยกว่า ในการแข่งขันในอุตสาหกรรมเดียวกันตลอด 20 ปี ลองนึกถึงบริษัทอย่าง SIEMENS, NOKIA, Carrefour เทียบกับบริษัทชั้นนำของอเมริกา
2. ยุโรปเลือก "ผิดอุตสาหกรรม" โดยพัฒนาอุตสาหกรรมที่ล้าสมัย หรือเรียกว่า old economy ขาดการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เช่น Tech, Consumer Internet
3. เหตุผลที่สาม ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลหลัก ที่นำไปสู่ความผิดพลาดในสองเหตุผลแรกคือ ยุโรปขาด "บริษัทใหม่ๆ" การที่เน้นให้บริษัทเดิม ๆ มีอายุยืน ๆ อาจจะทำให้ผู้คนขาดความเป็นเจ้าของกิจการ ขาดความกล้าคิด สร้างสรรค์ บริษัทใหญ่ ๆ ในอเมริกาเช่น Tesla, Amazon, Netflix, Facebook ล้วนมีผู้นำและ founder อายุน้อยๆ เกิดใหม่ แตกต่างจากบริษัทในยุโรปที่มีแต่ผู้บริหารระดับสูงอายุมากที่ต้องไต่เต้าขึ้นมาในสายบังคับบัญชา หรือไต่เต้าขึ้นมาตามระบบครอบครัว
นอกจากนั้นยังมีเหตุผลอื่น ๆ เช่น ผู้ประกอบการในยุโรปไม่ได้คิดคำว่า "European Union" แต่คิดเฉพาะตลาดในประเทศเป็นหลัก ทำให้หลายบริษัทขาด Economies of Scale เช่นอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในยุโรปมีมากกว่า 100 แห่ง อุตสาหกรรมค้าปลีกก็มีเป็น 100 บริษัท แตกต่างจากอเมริกา (หรือจีน) ที่มีจำนวนไม่กี่บริษัท ทำให้เกิดความได้เปรียบต่อขนาดเป็นอย่างมาก
และอีกเหตุผลย่อย ๆ คือ ยุโรปให้โอกาส "ผู้พ่ายแพ้" น้อยกว่าประเทศอเมริกาหรือจีน คนจึงกลัวความล้มเหลว สังคมไม่ให้รางวัลหรือไม่ให้โอกาสคนที่กล้าเสี่ยง ผู้คนจึงนิยมเลือกทำงานประจำ รับเงินเดือนและให้ระบบรัฐสวัสดิการดูแลตอนเกษียณ (อันที่จริงปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากระบบรัฐสวัสดิการ ทำให้ยุโรปป่วยมายาวนาน)
Economist ตั้งชื่อบทความว่า The land that ambition forgot บางครั้งเราอาจจะต้องสมดุลระหว่าง Work - Life Balance และที่สำคัญกว่านั้นคือ "การเลือก" ที่ถูกต้อง
ในเล่มนี้ยังพูดถึงความล้มเหลวของประเทศที่ตรงกันข้ามจากยุโรป คือบราซิลอีกด้วย ประเทศที่มีแต่คนรุ่นใหม่อายุน้อย ไม่ได้ขาดความทะเยอทะยานแบบยุโรป แต่เหตุผลคือนโยบายรัฐที่มองระยะสั้น ประเทศซึ่งขาดผู้นำใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพ (ประชาชนต้องเลือก Who is lesser evil) ทำให้บราซิลในปัจจุบันมี GDP per capita เล็กกว่าไทยแล้ว ผมยังไม่อยากเชื่อเลยครับ
ใครมีโอกาสชักชวนให้อ่านครับ และชักชวนให้คิดต่อว่าอนาคตประเทศไทยจะเป็นไปในทางไหน และเราจะอยู่ตรงไหนของจิกซอว์นั้น
ณ ขณะนี้คนส่วนมากจะเริ่มได้ไปฉีดวัคซีนแล้ว เป็นโอกาสดีที่จะเป็นจุดที่เราตระหนักคิดวางแผนว่าปีหน้า สิบปีข้างหน้า ชีวิตบทใหม่ Post Covid จะมีหน้าตาเป็นอย่างไรครับ