จริงๆการเพิ่มขึ้นของกำไรขนาดนั้นไม่ใช่อะไรหรอก มาจากฐานที่ต่ำมากกว่า กล่าวคือ ไตรมาส 3/61 มีกำไรเพียงแค่ 1.09 ล้านบาท พอมาปีนี้กำไรอยู่ที่ 258.19 ล้านบาท ทำให้ดูเหมือนว่ากำไรพุ่งขึ้นมาแรง
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2561 บริษัทมีกำไร 448 ล้านบาท พอมาปีนี้กำไรพุ่งขึ้นมาเป็น 1.204 พันล้านบาท กระโดดขึ้นมา 169% โดยบริษัทชี้แจงว่าค่าการตลาดดีขึ้น (ตรงนี้เป็นหัวใจสำคัญ) ทำให้ราคาค้าปลีกน้ำมันปรับตัวได้สอดคล้องกับต้นทุน อีกทั้งธุรกิจ Non-Oil อย่างร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟพันธุ์ไทย คอฟฟี่เวิล์ด รวมถึงร้านอาหารที่ซื้อกิจการมา ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายของ PTG จะเน้นหนักที่ธุรกิจ Non-Oil เพื่อให้กลายมาเป็นรายได้หลักของบริษัท อย่างปีที่ผ่านมาโตดีมากถึง 51.7% คิดเป็นสัดส่วน 12.9% ของกำไรขั้นต้น
สัดส่วนของธุรกิจ Non-Oil มีอะไรบ้างมาดูกัน
- ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ร้านกาแฟ คิดเป็น 3.6%
- แก๊ส LPG 4.2%
- ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ Max Mart และธุรกิจอื่นๆ 5.1%
ส่วนธุรกิจปาล์มคอมเพล็กซ์ ยังอยู่ตามแผนงาน ไม่มีการดีเลย์ หรือเลื่อนการผลิตออกไป .. เรียกว่ามีข่าวดีเข้ามาต่อเนื่อง และเหมือนรายได้ของบริษัทจะยังโตต่อไป
แต่ถ้าดูผลประกอบการที่ผ่านมาของ PTG ต้องยอมรับว่า Net Margin ของบริษัทค่อนข้างต่ำประมาณ 1.2-1.5% แต่ทั้งอุตสาหกรรมก็อยู่ราวๆนี้ ขายน้ำมันไม่ได้กำไรเยอะจึงไม่แปลกที่จะเห็นบริษัทพยายามหันออกไปทำอย่างอื่น เช่นกาแฟพันธุ์ไทย แต่ของเขาก็อร่อยจริงๆต้องยอมรับ ก็หวังว่าจะติดตลาดและมีสาขาใหม่ๆเข้ามามากขึ้น เคยได้ยินผู้บริหารเปรยๆไว้เหมือนกันว่าอยากเอาธุรกิจ Non-oil เข้าตลาด ตรงนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไป
มาดูกันว่าบทวิเคราะห์มองหุ้น PTG อย่างไรกันบ้าง ....
บล.เคทีบี แสดงความเห็นว่า PTG รายงานผลประกอบการใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด ประเมินว่าไตรมาส 4/62 ปริมาณการขายน้ำมันจะเพิ่มมากขึ้น ค่าการตลาดสูงขึ้นเป็นผลบวกต่อ PTG อีกทั้งราคาหุ้นยังมีความน่าสนใจ ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น market cap ต่อสาขาเพียง 15 ล้านบาทเท่านั้นถือว่าไม่แพงถ้าเทียบกับการก่อสร้างสถานีน้ำมันที่มีต้นทุนก่อสร้าง 15-20 ล้านบาทต่อแห่ง ให้ราคาเป้าหมาย 27.75 บาท
บล.ทิสโก้ วิเคราะห์ว่า PTG กำลังเข้าสู่ช่วง High season ในไตรมาส 4 และยังมีอัพไซส์จากธุรกิจปาล์มคอมเพล็กทีเดินเครื่อง 100% ธุรกิจ Non-oil ที่จะมีบทบาทมากขึ้น คงคำแนะนำ "ซื้อ" ให้เราคาเป้าหมาย 24 บาท
ปัจจุบันราคาหุ้นมี P/E 24 เท่า P/BV 5 เท่า และปันผลประมาณ 1.1%
โดยรวมถ้าดูเฉพาะส่วนของ "สรุปกำไร" จะเห็นว่าเติบโตขึ้นเยอะมาก แต่ถ้าไปเจาะดูแล้วมาจากฐานที่ต่ำในปีก่อน ธุรกิจ Non-oil ที่มีบทบาทมากขึ้นและคาดหวังการเติบโตได้ ธุรกิจปาล์มคอมเพล็กที่ทำได้ตามแผนงาน และบทวิเคราะห์ก็มีมุมมองเชิงบวกในผลประกอบการไตรมาส 4
นักลงทุนยังต้องติดตามกันต่อไปครับ ....