เปิดรายชื่อ 6 หุ้นได้ประโยชน์ วันตรุษจีน
คาดเงินสะพัด 3.4 หมื่นล้านบาท

.
วันตรุษจีน หรือ วันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน นับเป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งจะมีการจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเนื้อหมู เนื้อเป็ด และเนื้อไก่ ซึ่งจะถูกนำไปทำอาหารเพื่อประกอบพิธีและบริโภค ตลอดจนการเดินทางเพื่อท่องเที่ยว หรือเยี่ยมเยือนญาติผู้ใหญ่
.
ทำให้ช่วงก่อนถึงวันตรุษจีน นักลงทุนบางกลุ่มอาจหาจังหวะเหมาะในการลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น หุ้นหมู-ไก่ หุ้นท่องเที่ยว หุ้นบริการทางการแพทย์ เป็นต้น วันนี้ Wealthy Thai จึงมีมุมมองและกลยุทธ์การลงทุน รวมถึงหุ้นเด่นที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากวันตรุษจีนมาฝาก
.
โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ใกล้เข้าสู่เทศกาลตรุษจีนปี 2567 (วันขึ้นปีใหม่ของจีน) ในทางจิตวิทยาเป็นบวกในส่วนความคึกคักการจับจ่ายเนื้อสัตว์, อาหารและผลไม้ โดยเป็นเทศกาลหยุดยาวของผู้ที่มีเชื้อสายจีน ซึ่งจะออกไปท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ จึงคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนการใช้บริการทั้งทางด่วน, ปั๊มน้ำมัน, ห้างสรรพสินค้า, สายการบิน, โรงแรม รวมถึงการซื้อสินค้าอย่างเสื้อผ้า
.
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประเมินระหว่างวันที่ 8–16 ก.พ. 67 จะมีเม็ดเงินสะพัดราว 3.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (0.3% ของ Real GDP ไทยปี 2565) และคาดว่าชาวต่างชาติจะเดินทางเที่ยวไทยราว 1 ล้านคน (นำโดยจีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน) นอกจากนี้ในปี 2567 ยังเป็นปีที่มีความพิเศษคือ ปีมังกร ซึ่งนำมาสู่ความต้องการมีบุตรที่เพิ่มสูงขึ้นมากเป็นพิเศษ
.
ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์ ประเมินกระแสการเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลตรุษจีนปี 2567 มีความน่าสนใจ โดยได้ทำการศึกษาสถิติผลตอบแทนหุ้นไทยในช่วงตรุษจีนย้อนหลัง 5 ปี (62-66) พบว่าก่อนเทศกาลตรุษจีน 1 และ 2 สัปดาห์ SET Index ให้ผลตอบแทน +0.85% และ +0.89% ตามลำดับ
.
โดยกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลปรับขึ้นในทางเดียวกันและกลุ่มที่ปรับขึ้นมากที่สุด คือ โรงแรม +3.3% และ +4.15% ตามด้วยกลุ่มเกษตร +1.95% และ +0.21% และกลุ่มอาหาร +0.98%, และ +1.04%
.
สำหรับกลยุทธ์ลงทุน แนะนำเก็งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลตรุษจีน เน้นกลุ่มธุรกิจค้าเนื้อสัตว์ เช่น CPF ราคาเป้าหมาย 20 บาท, GFPT ราคาเป้าหมาย 13.4 บาท กลุ่มท่องเที่ยวและสนามบิน เช่น MINT ราคาเป้าหมาย 40 บาท, AOT ราคาเป้าหมาย 73.25 บาท หุ้นกลุ่มบริการทางการแพทย์กลุ่มที่มีบุตรยาก เช่น GFC Consensus 14 บาท, SAFE Consensus 25 บาท
.
ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของ CPF บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ยังคงระมัดระวังกับธุรกิจของ CPF ในประเทศจีน เพราะภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงจะกระทบกับอุปสงค์การบริโภคและราคาเนื้อสัตว์
.
โดยมองว่าการที่ CPF ตัดสินใจขายบริษัทลูกที่มีผลขาดทุนออกไปจะส่งผลบวกต่อผลประกอบการของบริษัทในปี 2567 ทำให้ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจาก 4 บริษัทนี้อีกต่อไป คาดกำไรสุทธิในปีนี้ที่ 1.03 หมื่นล้านบาท พลิกจากขาดทุนปีก่อน ให้คำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 19.90 บาท
.
ถัดมา GFPT บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) คาดไตรมาส 1/67 กำไรหลักจะเพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นำโดยอัตรากำไรและกำไรที่สูงขึ้นในบริษัทร่วม ทั้งนี้คาดอัตรากาไรขั้นต้นในไตรมาส 1/67 ที่ 11.5% เพิ่มขึ้นจาก 10.4% ในไตรมาส 1/66 จากแรงหนุนราคาวัตถุดิบที่ลดลง ประเมินกำไรปี 2567 ที่ 1,495 ล้านบาท โต 13% จากปีก่อน โดยแนะนำให้ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมายที่ 15.50 บาท
.
MINT บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรปี 2567 ที่ 7.8 พันล้านบาท โต 21% จากปีก่อน จากการเติบโตของตลาดยุโรป และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนเต็มปี หนุนให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาดไทย คาดธุรกิจในไทยฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจร้านอาหารในจีนคาดรายได้และ SSSG จะกลับมาโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ผ่านนโยบายกระตุ้นต่างๆ ของภาครัฐ จึงคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 35 บาท
.
AOT บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดผู้โดยสารเดือนธ.ค. 66-มี.ค. 67 ยังเติบโตดีต่อเนื่อง รวมถึงเดือนเม.ย. 67 จะได้ผลบวกจากนโยบาย soft power “เทศกาลสงกรานต์เฟสติวัลตลอดเดือน” ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาลที่เข้าสู่ช่วง high season ของการท่องเที่ยว
.
ทั้งนี้ จากสถิติข้อมูลในอดีต เดือนที่จะมีจำนวนผู้โดยสารสูงสุดของปีจะเป็นเดือนมี.ค. เดือนม.ค. และ เดือนธ.ค. ตามลำดับ ส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1-2 ของปีนี้ จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยประเมินกำไรปี 2567 ที่ 2 หมื่นล้านบาท โต 130% จากปีก่อน แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 79 บาท
.
GFC บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดกําไรสุทธิปี 2567 ที่ 105 ล้านบาท โต 50% จากปีก่อน จากผลการเปิดสาขาใหม่ สุวรรณภูมิ-พระราม 9 และอุบลราชธานี ตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/67 อีกทั้งการนําเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ขยายห้อง LAB ที่เป็นมาตรฐานสากล จะทําให้มีลูกค้าต่างชาติเข้าขอรับบริการเป็นปีแรก คงคําแนะนํา ซื้อ ราคาเป้าหมาย 12 บาท
.
และ SAFE บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดกําไรสุทธิปี 2567 ที่ 281 ล้านบาท โต 32.6% จากปีก่อน โดยได้ปัจจัยหนุนจาก 1. คาดรายได้จากรักษาการมีบุตรยากด้วยวิธี ICSI โต 20% จากลูกค้าในและนอกประเทศ 2. คาดรายได้ค่าบริการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อนและทารกเพิ่มขึ้น 30% จากการตรวจพันธุกรรมเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้น
.
อีกทั้งบริษัทมีแผนลงทุนขยายสาขา 2-4 แห่ง และให้บริการด้านห้อง Lab Outsource อีก 3-4 แห่ง และมีแผน M&A คลินิก IVF ทั้งในและต่างประเทศ ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า จึงคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 25 บาท