ห้องเม่าปีกเหล็ก

เจาะ Business Model AMATAV

โดย Vira
เผยแพร่ :
69 views

เจาะ Business Model AMATAV

 

เจาะโมเดลธุรกิจ  AMATAV ธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม กับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล 

 

          AMATAV ประกอบธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น  (Holding Company) โดยถือหุ้นในบริษัท อมตะ เวียดนาม ร้อยละ 89.99 ซึ่งประกอบธุริจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมAmata City ประเทศเวียดนาม

 

 

 

บริษัทมีรายได้จาก

1.การขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม เขตพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย

2.การให้บริการเช่า โรงงานสำเร็จรูป  อาคารสำนักงาน

3.การบริการสาธารณูปโภค

 

Business Model  คุณสมหะทัย  พานิชชีวะ : ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อมตะวีเอ็น

   พัฒนาที่ดิน และเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติมาลงทุน 90% เป็นนักลงทุนจากต่างชาติ หลักๆ คือ ญี่ปุ่น AMATAV มีความได้เปรียบจากการที่ทำนิคมในเวียดนาม มากว่า 20 ปี มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลกลาง บริษัทมีบริการคำแนะนำต่างๆที่จะช่วยให้ลูกกค้าไห้ลูกค้าได้รับใบอนุญาตได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น

 

 

          การเลือกพื้นที่ในการตั้งนิคม ในลักษณะเดียวกับการเลือกพื้นที่ตั้งค่ายของทหารสหรัฐอเมริกา คือ พื้นที่สูง มีน้ำตลอดปี ใกล้ท่าเรือน้ำลึก  สนามบิน เพื่อความสะดวกในการขนส่ง  ปัจจุบันมีพื้นที่พัฒนาและขายแล้วกว่า 4,000 ไร่  และพื้นที่รอการขายอีกประมาณ  600  ไร่

 

         ปัจจุบันมีบริษัทมีนโยบายกระจายความเสี่ยงไปลงในพื้นที่อื่นๆของเวียดนาม โดย AMATAV ได้รับสิทธิในการพัฒนาพื้นที่ทางภาคเหนือที่รอการพัฒนาอีกกว่า 37,000 ไร่

 

หลักในการเลือกที่ดินเพื่อพัฒนา คือ

1.ติดถนนหลัก เพื่อความสะดวกในการอธิบายเส้นทางกับลูกค้า

2.ใกล้การคมนาคม ขนส่ง สนามบิน  ท่าเรือน้ำลึก รถไฟ

3.อยู่ในเขตเศรษฐกิจ

 

การบริหารจัดการเงินลงทุน

1.ระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์

2.เงินกู้จากธนาคารทั้งในเวียดนามและไทย D/E  = 0.7  ต้นทุนทางการเงิน  ประมาณ 7%-8%  กำไรขั้นต้นเฉลี่ย 60% แต่จะเริ่มเห็นในเฟสที่ 2-3 ของโครงการ ระยะเวลาคืนทุน 4-5 ปี ระหว่างนั้น AMATAV จะมีรายได้จากการให้เช่าโรงงาน และมีส่วนแบ่งรายได้จากปันผลของบริษัทลูกที่จะเข้ามาในรูปของเงินปันผล

 

          ส่วนที่เป็นกังวลในแง่ของการที่รัฐบาลสหรัฐยกเลิก TPP นั้น มีผลกระทบน้อยกับ AMATAV เนื่องจากนักลงทุนในนิคม ไม่ได้ใช้สิทธิประโยชน์จาก TPP ที่ส่วนใหญ่ที่เป็น Textile ลูกค้าของ AMATAV จะเป็นบริษัทผลิตสินค้าอุปโภค บริโภค ชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ สีและเคมีภัณฑ์ เป็นส่วนใหญ่

 

กลยุทธ์การเติบโตในระยะ 3-5 ปี

          บริษัทมองการเติบโตรายได้ 50% ต่อปีจากปีนี้ AMATAV มองภาพธุรกิจของตัวเองเป็นเมือง มีทั้งเขตอุตสาหกรรม เขตพาณิชยกรรม ที่อยู่อาศัย ทั้งหมดนี้จะเชื่อมเข้าด้วยกันด้วยระบบสาธารณูปโภค คาดหวังการโตของกำไรสุทธิ 15% ต่อปี

 

มุมมองจาก  ดร.นิเวศน์   เหมวชิรวรากร

          กลยุทธ์หลักของเวียดนาม คือ หานักลงทุนต่างชาติมาลงทุน ผลิตสินค้าแล้วส่งออก เป็นฐานการผลิตต้นทุนต่ำ เพราะเวียดนามเองไม่มีผู้ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ กิจการขนาดใหญ่ทั้งหมดเกือบ 100% รัฐบาลเป็นเจ้าของ ทำให้รัฐบาลต้องพึ่งพา FDI อย่างมากในการเติบโต

 

 

 

          AMATAV มีที่ดินในมือมากพอ มีศักยภาพในการบริหาร แต่ประเด็น คือ มีบริษัทไทยหรือญี่ปุ่นที่ลงทุนในเวียดนามไม่มากเมื่อเทียบกับ เกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ ซึ่งบริษัทเหล่านี้เลือกใช้นิคมที่มาจากสิงคโปร์มากกว่า เนื่องจากความคุ้นเคย ความใกล้เคียงของภาษา รู้สึกถึงการเป็นพรรคพวกเดียวกัน และด้านเงินทุน จุดนี้เอง ที่เป็นจุดอ่อนสำคัญของ AMATAV

 

มุมมองจาก ดร.วิศิษฐ์  องค์พิพัฒนกุล

          ภาพใหญ่ของประเทศเวียดนาม GDP 5 % -7% ต่อปี จุดอ่อน คือดุลการค้าที่ผันผวนมาก จากการที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบเพื่อส่งออก  ประชากร 90 ล้าน 60%-70% อยู่ในวัยทำงาน FDIเป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ จุดนี้เองที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก

 

         

 

          โครงสร้างรายได้ AMATAV จากยอดขายที่ดิน ประมาณ 52% จากการให้เช่าโรงงาน ประมาณ 20% ปัจจุบันมีที่ดินที่พัฒนาแล้วพร้อมขาย ลูกค้าส่วนใหญ่เป็น ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ราคาขายเฉลี่ย 85 ดอลล่าร์ต่อตารางเมตร ต้นทุนขายเฉลี่ย 25 ดอลล่าร์ต่อตารางเมตร แต่ปัจจุบันยังนับว่าขายได้ค่อนข้างช้า

 

 

- ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ business Model Money Channal  -


Vira