เปิดมุมมองโบรกฯ ประชุมกนง.บ่ายนี้ มีผลต่อศก. - ตลาดหุ้นแค่ไหน?
โบรกฯ คาดประชุมกนง.บ่ายนี้ มีโอกาสขึ้นดบ.0.25% มากกว่า 0.50% จับตาอาจเพิ่มเป้าจีดีพีไทยตามเวิลด์แบงก์ - จับตา SET ผันผวนในกรอบ 1,600-1,620 จุด ส่วนระยะสั้นอาจทำบาทอ่อน - เงินนอกไหลออก ส่วนกลุ่มแบงก์จ่อรับอานิสงส์

.
***ASPS ประเมิน 2 กรณี กนง.ขึ้นดอกเบี้ย มองหุ้นไทยผันผวน
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า มองดัชนีหุ้นไทยน่าจะผันผวนในกรอบ 1,600-1,620 จุด โดยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าจนเข้าใกล้ 38 บาทต่อดอลลาร์ อาจเป็นแรงกดดันให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ พิจารณาถึงระดับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายว่าควรเป็น 0.25% หรือ 0.5% โดยตลาดหุ้นไทย ระดับของการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะมีผลต่อการคำนวณดัชนีเป้าหมายปลายปีนี้
.
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยใช้ Market Earning Yield Gap ในการคำนวณ โดยสมมติฐานหลักที่ใช้ กำหนดให้กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยรวมในปีนี้ที่ 0.75% มาอยู่ที่ 1.25% ณ สิ้นปี และกำหนด Market Earning Yield Gap เท่ากับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 4.2% สมมติฐานดังกล่าวจะให้ SET Index เป้าหมายที่ 1,730 จุด แต่หากปรับขึ้นมากกว่านั้นอีก 0.25% ในการประชุมครั้งใดครั้งหนึ่งขึ้น 0.5% จะทำให้เป้าหมาย SET Index ลงมาอยู่ที่ 1,652 จุด ดังนั้นการประชุมรอบนี้จึงมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนค่อนข้างมาก
.
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยได้แบ่งสถานการณ์ตลาดหุ้นออกเป็น 2 กรณีการขึ้นดอกเบี้ยในระดับต่างๆ ประกอบด้วย
.
- หาก กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามตลาดคาด ฝ่ายวิจัยประเมินดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวช่วงสั้น แต่ยังมีความเสี่ยงในมุมค่าเงินบาทอ่อนค่า เนื่องจากตลาดซึมซับปัจจัยลบนี้มาในระดับหนึ่ง จากการปรับฐานลงมากว่า 62 จุด หรือ 3.7% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ส่วนต่างดอกเบี้ยสหรัฐกับไทยยังกว้างอยู่ อาจส่งผลให้ค่าเงินบาทยังมีความเสี่ยงที่จะอ่อนค่าต่อเช่นกัน โดยฝ่ายวิจัยประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวในช่วงสั้น กรอบ 1,610-1,650 จุด
.
- หากกนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ซึ่งสูงกว่าตลาดคาด จะเกิดความเสี่ยงในมุมมอง Valuation ตลาดหุ้น โดยฝ่ายวิจัยประเมินดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสผันผวนมากขึ้น เนื่องจากตามกลไกดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดทุกๆ 0.25% จะกดดันให้ MEYG ระหว่างหุ้นกับตลาดตราสารหนี้แคบลง หรือกดดันเป้าหมายดัชนีให้ลดลงได้ถึง 78 จุด ช่วงสั้นฝ่ายวิจัยประเมินกรอบแนวรับทยอยสะสมที่ 1,600 จุด และ 1,580 จุด
.
ด้านกลยุทธ์การลงทุนวันนี้แนะนำหุ้น Defensive มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น AOT , ADVANC , HMPRO เป็น Top pick วันนี้
.
***กสิกรคาดขึ้นดบ. 0.25% ดันกำไรปี 66 กลุ่มแบงก์ 5-7%
ด้านบล.กสิกรไทย ระบุว่า วันนี้ให้น้ำหนักการประชุม กนง.ช่วง 14.00 น. โดยกสิกรไทย และตลาดคาดจะเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% โดยให้ติดตาม คือ
.
1.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยปี 65-66 ขึ้นหรือไม่ หลังจากเมื่อวานนี้ ธนาคารโลก ปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้อยู่ที่ 3.1% จากเดิมคาด 2.9% และปี 66 อยู่ที่ 4.1%
.
กสิกรไทย คาดธปท.มีโอกาสปรับขึ้นจากตัวเลขภาคการท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสำนักเศรษฐกิจคาดสิ้นปีมีนักท่องเที่ยว 10-12 ล้านคน จากปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้ว 6 ล้านคน โดยประเมินเป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นไทย
.
2.ติดตามการคาดการณ์เงินเฟ้อไทยของ ธปท.
3.รอดูท่าทีของธนาคารพาณิชย์จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นตามหรือไม่ หากปรับขึ้นตาม 0.25% คาดจะบวกกับกำไรสุทธิในปี 66 ของธนาคารใหญ่ 5-7% แต่หากยังไม่สามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ได้อาจเห็นแรง Sell on fact กลุ่มธนาคารใหญ่ ในทางตรงกันข้ามจะเห็น Buy on fact ในกลุ่มการเงินและอสังหาริมทรัพย์
.
***บล.พาย มองแบงก์ขนาดใหญ่ได้ประโยชน์
บล.พาย ระบุว่า หากกนง.ตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% มองว่าจะไม่มีผลอะไรกับตลาดมากนัก แต่เงินบาทจะมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องจากส่วนต่างดอกเบี้ยระหว่างไทยกับสหรัฐที่ค่อนข้างห่าง มองกลุ่มส่งออกได้ประโยชน์ แต่หากกนง.ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย 0.5% มองว่าจะส่งผลเชิงลบกับตลาดหุ้นและเงินบาทมีโอกาสพลิกกลับมาแข็งค่าระยะสั้น ส่วนกลุ่มที่ได้ประโยชย์ไม่ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.5% ได้แก่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น BBL,KBANK,SCB โดยคาดว่าธนาคารพาณิชย์จะปรับเพิ่มดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากเพื่อชดเชยผลกระทบจากต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
.
ทั้งนี้ ประเมินกลุ่มธนาคารใหญ่จะได้ประโยชน์ เนื่องจากปล่อยสินเชื่อที่คิดดอกเบี้ยลอยตัว แต่ต้นทุนจะปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง
.
***บล.ยูโอบี มองขึ้น 0.25% ทำบาทอ่อนค่าต่อ-เงินไหลออกระยะสั้น
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุว่า การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะให้ภาพเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่กนง.ให้น้ำหนัก ตลาดมองความเป็นไปได้ของการขึ้นดอกเบี้ยวันนี้ใน 2 กรณี ได้แก่
.
1.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% (ความน่าจะเป็น 80%) ซึ่งบ่งชี้ว่ากนง. ให้น้ำหนักกับการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินบาทในระยะสั้น อ่อนค่าลงต่อ รวมถึงอาจเห็นเงินทุนไหลอกในระยะสั้น
.
2.ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% (ความน่าจะเป็น 20%)ทางเลือกนี้บ่งชี้ว่า กนง.จะเริ่มให้น้ำหนักกับเสถียรภาพของเงินบาทและการไหลออกของค่าเงิน ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินบาทในระยะสั้นทรงตัวถึงแข็งค่าขึ้น แต่คาดจะเป็นปัจจัยลบกับหุ้นกลุ่มการเงินจากความกังวลต้นทุนทางการเงิน รวมถึงหนี้เสียที่จะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ให้น้ำหนักกับทางเลือกแรก คือขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% อย่างไรก็ตาม คาดตลาดซึมลงตามการเคลื่อนไหวของหุ้นภูมิภาค
***********************************