ห้องเม่าปีกเหล็ก

SAWAD จับ SCAP ควบรวม BFIT พร้อมคืนใบอนุญาตธุรกิจเงินทุน

โดย DAVINCI
เผยแพร่ :
63 views
SAWAD จับ SCAP ควบรวม BFIT พร้อมคืนใบอนุญาตธุรกิจเงินทุน
 
 
 
บริษัท ศรีสวัสดิ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ SAWAD แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติ พิจารณาอนุมัติให้บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ จํากัด (มหาชน) หรือ BFIT ซึ่งเป็นบริษัทย่อย (บริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน BFIT ถือหุ้นในสัดส่วน 81.64%) คืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุน เลขที่ 8/2516 ซึ่งครอบคลุมการประกอบธุรกิจเงินทุน 4 ประเภท และเลิกประกอบธุรกิจเงินทุนดังกล่าว ได้แก่ กิจการเงินทุนเพื่อการพาณิชย์ ,กิจการเงินทุนเพื่อการพัฒนา,กิจการเงินทุนเพื่อการจําหน่ายและการบริโภค และกิจการเงินทุนเพื่อการเคหะ
.
โดยการคืนใบอนุญาตดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนและขึ้นอยู่กับ (1) การได้รับมติอนุมัติให้คืนใบอนุญาตจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ BFIT และ (2) การได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
.
ในเบื้องต้น บริษัทฯ คาดว่า BFIT จะดําเนินการดังกล่าวแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปี 65 ทังนี้ เนืองด้วยสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน BFIT ได้ชะลอการปล่อยสินเชื่อและมีความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อเป็นอย่างมาก ซึ่งส่งผลกระทบให้นโยบายในการดําเนินธุรกิจในอนาคตของกลุ่มบริษัทฯ มีความไม่คล่องตัว จึงทําให้ต้องมีการพิจารณานโยบายในการดําเนินธุรกิจให้ชัดเจน เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มบริษัทฯ ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) ของกลุ่มบริษัทฯ โดย BFIT มีความประสงค์จะคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุน
.
ซึ่งหากการคืนใบอนุญาตดังกล่าวแล้วเสร็จ BFIT มีแผนจะประกอบธุรกิจ (1) ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) แก่บุคคลรายย่อยทั่วไปทีต้องการซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่จากผู้จัดจําหน่าย (Dealers) โดยกรรมสิทธิในทรัพย์สินดังกล่าวจะโอนให้แก่ผู้เช่าซือ เมือผู้เช่าซื้อจ่ายค่างวดครบถ้วนตามสัญญา และ (2) ให้บริการสินเชือส่วนบุคคลภายใต้การกํากับของ ธปท. ซึ่งเป็นสินเชือที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นพนักงานประจําที่มีรายได้ที่มั่นคงและแน่นอน
.
ทั้งนี้ แผนการประกอบธุรกิจใหม่ของ BFIT ดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนและขึ้นอยู่กับการได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกํากับจากธปท. และความสําเร็จในการเข้าทําธุรกรรม
.
นอกจากนี้เห็นชอบให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัทฯ (1) จําหน่ายหุ้นสามัญของ SCAP ทีบริษัทฯ ถืออยู่ทั้งหมด จํานวน 39,000,000 หุ้น มูลค่าทีตราไว้หุ้นละ 5 บาท คิดเป็น 65% ของจํานวนหุ้นทีออกและชําระแล้วทังหมดของ SCAP ในราคาหุ้นละ 300 บาท รวมมูลค่ารายการ 11,700 ล้านบาท ให้แก่ BFIT
.
โดย BFIT จะออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บริษัทฯ ในลักษณะการจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจํากัด (Private Placement) เป็นค่าตอบแทน
.
สําหรับหุ้น SCAP ดังกล่าวแทนการชําระด้วยเงินสด และ (2) เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BFIT จํานวน 487,500,000 หุ้น มูลค่าทีตราไว้หุ้นละ 5 บาท ในราคาหุ้นละ 24.00 บาท โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ถือหุ้นจํานวนร้อยละ 81.64 ของสิทธิออกเสียงทังหมดใน BFIT
.
ภายหลังจากกระบวนการดังกล่าวดําเนินการแล้วเสร็จ สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ จะลดลงเป็น72.05% ของสิทธิออกเสียงทังหมดใน BFIT รวมมูลค่ารายการได้มาซึ่งหุ้นสามัญเพิมทุน 11,700 ล้านบาท (ธุรกรรมการแลกหุ้น) และอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงนามในสัญญาทีเกียวข้องกับธุรกรรมการแลกหุ้นแบบมีเงื่อนไขบังคับก่อนธุรกรรมการแลกหุ้นข้างต้นและธุรกรรมการได้หุ้น 35% ผ่าน BFIT จะเกิดขึ้นต่อเมือเงื่อนไขบังคับก่อนตามที่จะระบุไว้ในสัญญาที่เกียวข้องกับธุรกรรมการแลกหุ้นและธุรกรรมการได้หุ้น 35% ผ่าน BFIT ครบถ้วนสมบูรณ์
.
ในเบื้องต้น บริษัทฯ คาดว่าธุรกรรมการแลกหุ้นจะดําเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปี 65 หากเงื่อนไขต่าง ๆ ทุกข้อบรรลุเป็นผลสําเร็จ โดยภายหลังธุรกรรมการแลกหุ้นแล้วเสร็จ BFIT มีแผนจะรวมธุรกิจโดยการรับโอนกิจการทังหมด ของ SCAP มาเป็นของ BFIT
.
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า บริษัทฯตระหนักถึงการประกอบกิจการเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมองภาพการพัฒนาธุรกิจแบบองค์รวม ไม่พึ่งพิงเพียงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง และได้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง
.
ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาอนุมัติให้บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) (BFIT) คืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุนที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้เกิดความคล่องตัวของธุรกิจและขยายกิจการได้มากขึ้น โดยมีแผนจะประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) แก่บุคคลรายย่อยทั่วไปที่ต้องการซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่จากผู้จัดจำหน่าย และธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของ ธปท.
.
โดยบริษัทฯจะทำการจำหน่ายหุ้นสามัญของ SCAP ที่บริษัทถืออยู่ทั้งหมด จำนวน 39,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท คิดเป็น 65% ให้แก่ BFIT โดยการออกหุ้นใหม่ของ BFIT เพื่อแลกกับหุ้นของ SCAP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ
.
ก้าวสำคัญในการควบรวมธุรกิจครั้งนี้ของ BFIT และ SCAP เป็นส่วนหนึ่งในแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อผลักดัน SCAP ที่ดูแลธุรกิจด้านสินเชื่อซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและโดดเด่นได้ดำเนินธุรกิจอย่างคล่องตัว โดยจะขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น SAWAD และ BFIT ในการควบรวมกิจการช่วงเดือน มิ.ย.นี้ และเมื่อผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติ บริษัทฯจะดำเนินการสวอปหุ้นตามแผน คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 65 โดยโครงสร้างใหม่จะทำให้เกิดการแยกธุรกิจอย่างชัดเจน โดย SAWAD จะดูแลธุรกิจจำนำเป็นหลัก ส่วน BFIT จะรุกธุรกิจด้านสินเชื่ออื่นๆ อาทิ ธุรกิจเช่าซื้อทุกประเภทแบบครบวงจร และ สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
.
นายธิติธรรม โรจนพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เงินทุน ศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BFIT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการได้อนุมัติให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมด 100% ในบริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด (SCAP) จาก SAWAD ในสัดส่วน 65% ,นายวิชิต พยุหนาวีชัย ผู้บริหาร SCAP และกรรมการของ SAWAD ในสัดส่วน 10% รวมทั้งผู้ถือหุ้นรายอื่นของ SCAP อีกจำนวน 9 ราย ในสัดส่วน 25% โดยอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการซื้อหุ้นของ SCAP แบบมีเงื่อนไขบังคับก่อน
.
สำหรับการเข้าซื้อหุ้นของ SCAP เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างการประกอบธุรกิจของกลุ่ม SAWAD ซึ่ง SCAP ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ซึ่งหากเข้าซื้อ SCAP เป็นผลสำเร็จ จะเกิดการควบรวมกิจการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีขององค์กร โดยผู้ถือหุ้น BFIT จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากศักยภาพของบริษัทฯที่จะเติบโตแบบไร้ขีดจำกัด ธุรกิจของSCAP ในปัจจุบันและอนาคตมีอัตราการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด และเป็นธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์และมีแนวโน้มเติบโตอย่างโดดเด่น ทั้งนี้ได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 23 มิถุนายน 2565 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้
.
นายวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ SCAP เปิดเผยว่า การควบรวมกิจการดังกล่าว ส่งผลดีต่อผู้ถือหุ้นที่จะได้รับผลประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากบริษัทฯอยู่ในระยะการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ยอดสินเชื่อใหม่รวมของทั้งบริษัทฯที่ปล่อยได้ในไตรมาสแรกของปี 2565 เติบโตมากกว่า 157 % เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้ว และเติบโตกว่า 79% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 64 สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้างเมื่อการควบรวมกับ BFIT แล้วเสร็จ
.
โครงสร้างองค์กรและประเภทธุรกิจที่ชัดเจนพร้อมเงินทุนที่มีอยู่จำนวนมากจะเป็นการเสริมศักยภาพการทำกำไรที่ดีเยี่ยม ส่งเสริมให้องค์กรมีประสิทธิภาพสูงสุด การควบรวมกิจการนี้จะเป็นก้าวย่างที่สำคัญอีกครั้งของ BFIT ที่จะผลักดันให้ BFIT เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อชั้นนำระดับประเทศ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นทันทีที่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น SAWAD และ BFIT ในช่วงเดือนมิ.ย. นี้ และธปท. รับคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุนของ BFIT
 

DAVINCI