ตลาดหุ้นกำลังพัฒนาไปในทางที่เสื่อมถอยหนักขึ้นทุกที เสื่อมถอยถึงขั้นการมอมเมาให้นักลงทุนก้าวไปสู่หายนะ ด้วยการซื้อขายเก็งกำไรรายวันหรือ “ เดย์เทรด “
ธุรกิจการจัดอบรมสัมมนาอบรมหลักสูตรการลงทุนเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยมักเป็นการสัมมนาให้ความรู้เรื่องการลงทุน การประเมินทิศทางตลาดหุ้น การวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคหรือการวิเคราะห์จากกราฟหุ้น
แต่ไม่นานมานี้ เริ่มมีการจัดอบรมหลักสูตร แนะการเล่นหุ้นรายวันหรือเดย์เทรด
การอบรมหลักสูตรสอนการซื้อขายเก็งกำไรรายวัน เป็นการต่อยอดของกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ร่วมก่อตั้งโครงการแข่งขัน“ ซุปเปอร์เทรดเดอร์ “ และจัดต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมวงโหนกระแส “ ซุปเปอร์เทรดเดอร์ “ สนับสนุนการจัดแข่งขันอย่างเต็มตัว
จุดขายของหลักสูตรการสอนเล่นหุ้นรายวันคือ การดึงผู้ชนะเลิศการแข่งขันซุปเปอร์เทรดเดอร์มาเป็นวิทยาการ เพื่อจูงใจนักลงทุนรุ่นใหม่และนำผู้ที่อ้างว่าไป ประสบความสำเร็จหรือร่ารวยจากการซื้อขายรายวันมาร่วมเป็นวิทยากรอบรมหลักสูตร
อัตราเข้ารับการอบรม กำหนดไว้สูง แต่จะแพงหูฉี่ระดับไหนไม่สำคัญเท่ากับการโน้มน้าวให้นักลงทุนกลายเป็นนักเก็งกำไร ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตราย และอาจสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนหน้าใหม่ที่ขาดประสบการณ์ ไม่มีความรู้ความเข้าใจการลงทุนอย่างลึกซึ้งได้
กลุ่มเดย์เทรดไม่ไช่นักลงทุนหุ้นมูลค่า หรือ “ วีไอ “ แต่เป็นนักเก็งกำไรเต็มตัว
เพราะหลักการของวีไอจะไม่ซื้อขายหุ้นรายวัน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานไม่ได้ปลี่ยนแปลงเพียงข้ามวัน
การลงทุนแบบวีไอเป็นการลงทุนระยะยาว ประเมินการลงทุนด้วยข้อมูลพื้นฐานเช่น ผลกำไรและเงินปันผล
แต่เดย์เทรดใช้วิธีการคาดเดาสถานการณ์หุ้นแต่ละตัวในแต่ละวันและเป็นการคาดเดาที่ไม่เคยมีในตำราเล่มไหนเขียนไว้
กลุ่มคนที่ซื้อขายเก็งกำไร และสามารถกอบโกยความร่ารวยได้ มักจะผูกขาดเฉพาะ “ เจ้ามือ “ นักลงทุนรายใหญ่ที่ปั่นหุ้น กลุ่มคนที่มีข้อมูลภายในหรือพวกอินไซเดอร์
ส่วนนักลงทุนทั่วไป อาจมีเพียง 1 ใน 1,000 คน ที่ประสบความสำเร็จจากเดย์เทรด
โครงการซุปเปอร์เทรดเดอร์ ออกแบบให้ผู้เข้าแข่งขันเก็งกำไรระยะสั้น โดยกำหนดลงทุนตราสารทุนที่มีลักษณะเก็งกำไรล้วนๆ เช่น เดริเวทีฟ วอร์แรนต์ หรือ ตราสารอนุพันธ์
ดังนั้นผู้ชนะเลิศการแข่งขัน จึงไม่อาจนำไปสู่ข้อพิสูจน์ว่า เป็นนักลงทุนที่เก่งจริง
เพราะการเฟ้นซุปเปอร์เทรดเดอร์ในแต่ละครั้ง ไม่แตกต่างจากการเปิดแข่งขันชกมวยเพื่อหาแชมป์หรือผู้ชนะ โดยรับสมัครเด็ก 100 คนที่รู้เรื่องการชกมวยแบบงูๆปลาๆมาชกกัน ไครแพ้คัดออก ซึ่งในที่สุดก็จะเหลือผู้ชนะ 1 คน
แต่ผู้ชนะ เมื่อขึ้นเวทีชกกับนักมวยอาชีพ จะยืนไม่ถึงยก
เช่นเดียวกัน คนที่ชนะการแข่งขันซุปเปอร์เทรดเดอร์ ไม่ได้หมายความว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นเซียนหุ้นรุ่นใหม่ในทันทีทันใด และแม้จะเป็นคนที่สร้างผลตอบแทนสูงสุดในการแข่งขันซุปเปอร์เทรดเดอร์ แต้ถ้าลงทุนจริงๆอาจขาดทุนถึงขั้นหมดตัวก็ได้
ในโลกโซเซียล จะมีกลุ่มเดย์เทรดโพสต์ข้อความอวดความสำเร็จอ้างว่าซื้อหุ้นหรือตราสารอนุพันธ์บางตัวไว้ และทำกำไรหลายหมื่นบาทในวันเดียว
เพื่อโน้มน้าวการเล่นหุ้นรายวัน แต่ไม่รู้ว่า วันที่ไม่ได้โพสต์ข้อความความสำเร็จ “ เจ๊ง “ ไปเท่าไหร่
คนที่เล่นเดย์เทรดแล้วรวย อาจจะมี แต่มีจำนวนน้อย ขณะที่คนคุยโม้เกินจริง มีจำนวนมาก ดังนั้นใครคุยฟุ้งว่าประสบความสำเร็จจากเดย์เทรด ต้องการพอร์ตให้ดูว่า เล่นเดย์เทรดแล้วรวยจริง ไม่ได้โม้
การอ้างความสำเร็จของนักเดย์เทรดเพียงบางคน โดยไม่พูดถึงความล่มสลายของนักลงทุนนับพันคนที่ซื้อขายเก็งกำไรรายวัน จึงเข้าข่ายโฆษณาชวนเชื่อ
เล่นหุ้นทุกวัน กำไรแทบทุกวัน น่าจะเป็นนิยายที่แต่งขึ้นมามากว่าที่จะเป็นเรื่องจริง
ใครที่คิด “ เดย์เทรด “ ต้องตั้งสติให้ดี เพราะเดย์เทรดอาจจะพาไปตายได้
ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์น่าจะตั้งคำถามตัวเองบ้าง การกระโดดโลดเต้นไปกับกลุ่มเดย์เทรด เป็นการเห็นดีเห็นงามกับการมอมเมาให้นักลงทุนกลายเป็นนักเก็งกำไรรายวันไช่หรือไม่
และจะเปลี่ยนปรัชญาของตลาดหุ้น จากแหล่งลงทุนเป็นบ่อนการพนันเต็มตัวไช่หรือไม่
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก คอลัมน์ " ชุมชนคนหุ้น " โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2560
2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com