ห้องเม่าปีกเหล็ก

เอาข้อมูล SORKON มาฝากครับ

โดย Rubio
เผยแพร่ :
72 views

SORKON เราดูแลคุณภาพจากฟาร์มถึงโต๊ะอาหารของคุณ

บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน)
ชื่อ:    นายเจริญ รุจิราโสภณ
ตำแหน่ง:    ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
Subject :    SORKON เราดูแลคุณภาพจากฟาร์มถึงโต๊ะอาหารของคุณ

กุมภาพันธ์ 2560

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ส. ขอนแก่นฟู้ดส์

ธุรกิจต่างๆ ของ ส.ขอนแก่น ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเราได้เพิ่มกำลังการผลิตลูกชิ้นปลาขึ้นถึง 50% จาก 9,000 ตันต่อปี เป็น 15,000 ตันต่อปี และในปัจจุบันกำลังการผลิตก็สูงกว่า 10,000 ตัน เราจึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการขยายธุรกิจในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เราคาดการณ์ว่าเรามีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 80% ในตลาด MODERN TRADE ในประเทศไทย และนอกเหนือจากนั้นเป็นตลาดส่งออก หลักๆ ก็คือสหรัฐอเมริกา ยุโรป ฮ่องกง ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และตลาดอื่นๆ จากจุดเริ่มต้นเมื่อ 20 กว่าปีก่อนที่เราเริ่มด้วยผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ได้แก่กุนเชียงและหมูยอ ตอนนี้เราก็ได้ย้อนกลับไปที่ธุรกิจต้นทางโดยการมีโรงงานอาหารสัตว์และฟาร์มของเราเอง นอกจากนั้นเรายังมุ่งเน้นตลาดเฉพาะ (Niche Market) ซึ่งเราสามารถเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้และเป็นแบรนด์ที่คนรู้จักและให้การยอมรับ ในระดับสากล เรามีฐานปฏิบัติการในยุโรปเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในภูมิภาคนั้น โดยมีโรงงาน กิจกรรมการตลาดและศูนย์กระจายสินค้า สุดท้าย ส.ขอนแก่นได้ขยายไปทำธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนและของขบเคี้ยวในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมาเพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจ


ช่วยอธิบายแนวกลยุทธ์สำหรับธุรกิจของขบเคี้ยว และมีแผนในอนาคตสำหรับธุรกิจนี้อย่างไรบ้าง
เนื่องจากผู้บริโภคในสังคมไทยเริ่มตื่นตัวในเรื่องของสุขภาพ โดยเฉพาะอาหารประเภทขบเคี้ยวที่บริโภคเป็นประจำนั้น จะมีฐานวัตถุดิบจากถั่ว แป้ง และมันฝรั่งเป็นหลัก ซึ่งโดยปกติแล้ว อาหารเหล่านี้ไม่เป็นคุณต่อสุขภาพของผู้บริโภค เนื่องจากส่วนใหญ่ผ่านกรรมวิธีการทอดน้ำมันเป็นหลัก และที่สำคัญคือวัตถุดิบที่ใช้เนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบซึ่งอุดมด้วยโปรตีน จะยังไม่ค่อยได้พบเห็นในท้องตลาด แต่ทางบริษัทฯ ของเราในฐานะเป็นผู้ผลิตเนื้อสุกรและอาหารทะเลแปรรูปเป็นหลัก บริษัทฯ จึงได้ออกสินค้าประเภทอาหารขบเคี้ยวที่ใช้เนื้อสุกรเป็นวัตถุดิบ โดยผลิตจากเนื้อแดงล้วนซึ่งมีโปรตีนสูงและไขมันต่ำภายใต้แบรนด์ “อองเทร่” เมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมาและประสบความสำเร็จตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และในปีนี้ ทางบริษัทฯ ก็จะริเริ่มทำอาหารขบเคี้ยวประเภท Sea Snack โดยเริ่มจากสินค้าหนังปลาทอดกรอบ และปรุงรสชาติที่หลากหลาย วางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “ไคเซน”

จากการที่ ส.ขอนแก่นใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการเพิ่มสาขาร้านอาหารบริการด่วน ช่วยอธิบายเพิ่มเติมว่าจะสามารถประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ได้อย่างไร
อาหารไทยนั้นมีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่ปัจจุบันเราไม่มีร้านอาหารหรือบริษัทไหนเลยที่เป็นผู้นำในธุรกิจอาหารไทย และนี่เป็นความมุ่งหวังของเรา ก่อนอื่นเราตั้งเป้าหมายที่จะสร้างฐานที่แข็งแรงในประเทศก่อนและตามด้วยภูมิภาค ASEAN จากนั้นจึงขยายออกไปในระดับสากล อย่างตลาดจีนหรือสหรัฐอเมริกา เราได้ใช้ความรู้และประสบการณ์ในผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์และอาหารทะเลในการเปิดตัวร้านอาหารสองแบรนด์ ได้แก่ แซ่บ ร้านอาหารไทย-อีสาน และร้านอาหารจีน ยูนนาน ปัจจุบันเรามีร้านแซ่บทั้งหมด 14 สาขาและในปีนี้เราตั้งเป้าหมายว่าจะเปิดเพิ่มหนึ่งสาขาในทุกๆ เดือน นอกจากนั้นเรากำลังพัฒนาบรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานสำหรับบริการส่งอาหารถึงบ้าน เนื่องจากตอนนี้อัตราส่วนของบริการส่งอาหารถึงบ้านคิดเป็น 20-25% ของยอดขายทั้งหมดของธุรกิจร้านอาหาร ส่วนร้านยูนนานนั้นเรามีทั้งหมด 32 สาขา รวมถึง 3 สาขาในประเทศกัมพูชาและ 2 สาขาในประเทศลาวอีกด้วย ในอนาคต เราวางแผนจะเปิดตัวร้านอาหารสไตล์ Kiosk เนื่องจากจะเป็นการสร้างโอกาสให้เราต่อยอดไปทำธุรกิจแฟรนไชส์และเข้าถึงผู้บริโภคในชุมชนได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ เรายังนำขาหมูพะโล้ตำรับยูนนานมาบรรจุซองเป็นอาหารพร้อมอุ่นรับประทานจำหน่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ผู้บริโภคในการซื้อหา และ เรายังลงทุนด้วยเงินจำนวนมากในการพัฒนาศูนย์ฝึกอบรม และว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยและพัฒนาอาหาร ตลอดจนการควบคุมคุณภาพ เพราะเราตระหนักดีว่าการที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น เราจำเป็นต้องมีบุคลากรที่มีความสามารถและมีระบบงานที่มีประสิทธิภาพ
อะไรทำให้ ส.ขอนแก่นแตกต่างจากคู่แข่ง?

การยึดมั่นในคุณภาพและสุขอนามัยเป็นปัจจัยที่สร้างความแตกต่างให้เรา ยกตัวอย่างเช่น เรามีส่วนแบ่งการตลาดสำหรับลูกชิ้นปลาในอัตราส่วนที่สูงที่สุดในตลาด Modern Trade แต่กลับมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 5% เท่านั้นสำหรับการขายในตลาดสด เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่จับจ่ายสินค้าในตลาดสดจะมองแค่ปัจจัยด้านราคาเป็นหลัก แต่ไม่ได้สนใจในเรื่องคุณภาพหรือความสะอาดเท่าไรนัก ดังนั้นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในครัวเรือนจึงลงทุนเพียงแค่ 200,000 บาทในการผลิตสินค้าที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ในขณะที่เราต้องลงทุนถึง 400 ล้านบาทในการซื้อเครื่องจักรสำหรับการผลิต เนื่องจากเราให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพและสุขอนามัยเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เราผ่านคุณสมบัติในการเป็นผู้ส่งออกสู่ตลาดโลก

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

อะไรคือความเสี่ยงที่มีนัยยะสำคัญต่อธุรกิจ?
คู่แข่งที่สำคัญที่สุดของเราก็คือตัวเราเอง และแม้ว่ารายได้ของบริษัทจะเพิ่มสูงขึ้นทุกปี แต่เราก็ยังต้องการที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด ในการทำเช่นนั้นเราจำเป็นต้องเปิดกว้างและมองหาคู่ค้าในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะเข้าถึงเครือข่ายธุรกิจในระดับสากล

คุณมองธุรกิจของ ส.ขอนแก่นในอีก 5 ปีข้างหน้าอย่างไรบ้าง?
มีโอกาสมากมายสำหรับเราไม่ว่าจะเป็นการสร้างการเติบโตควบคู่ไปกับคู่ค้าหรือเติบโตด้วยตัวเราเอง สำหรับธุรกิจอาหารไทยและอาหารทะเล เราก็จะยังคงมองหาตลาดใหม่และเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจอาหารขบเคี้ยว เราก็จะมุ่งมั่นเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และสุดท้ายก็คือธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน ซึ่งเรามองว่าเป็นธุรกิจหลักที่สร้างการเติบโต เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเปิด 300 สาขาในอีก 5 ปีข้างหน้า

The Executive Talk Interview จัดทำโดย ShareInvestor ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในเอเชียด้านสื่อออนไลน์ทางการด้านเงินและเทคโนโลยี และเป็นมีเครือข่ายนักลงทุนสัมพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถส่งอีเมล์มาที่ [email protected] เว็บไซต์: www.ShareInvestorThailand.com


Rubio