ห้องเม่าปีกเหล็ก

งบ BEAUTY - ตามคาด เหลือก็เพียงเรื่องของ "ความเชื่อมั่น"

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
63 views

งบ BEAUTY - ตามคาด เหลือก็เพียงเรื่องของ "ความเชื่อมั่น"
14 ส.ค. 2561 / 9.10 น.

Cr.Wattana Stock Page

BEAUTY ประกาศผลการดำเนินงาน ไตรมาส 2 มีกำไร 256 ล้านบาท ลดลง 6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้ว และลดลง 9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ที่ผ่านมา

ตัวเลขสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ Net profit margin ลงมาอยู่ที่ 29% เศษๆ จากที่เคยอยู่เหนือระดับ 30%

ตัวเลขที่ออกมา ก็ไม่ได้แตกต่างจากที่ถูกคาดการณ์ไว้ เพราะจากที่มีการแถลงข่าวของบริษัทก่อนหน้านี้ ผู้บริหารได้บอกไว้แล้วว่าไตรมาส 2 จะไม่ดีเหมือนไตรมาสแรก ซึ่งนักวิเคราะห์ก็มองกันที่ลดลงเล็กน้อยจนถึงเท่าเดิม

สาเหตุหลักที่ทำให้งบออกมาแย่ลง ก็มาจากยอดขายผ่านช่องทางค้าปลีก (ขายหน้าร้าน) เป็นหลัก แต่ช่องทางค้าส่ง ยังคงขยายตัวได้ โดยบริษัทบอกว่าเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นโดยรวมของผู้บริโภค หลังมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องการตรวจพบสารต้องห้ามในผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และยังทำให้ยอดของการสั่งซื้อเพื่อส่งไปขายยังประเทศจีนชะลอลง เพราะทางการจีนมีความเข้มงวดมากขึ้นในการตรวจสินค้า

แต่โดยรวมแล้ว งบก็ยังไม่เห็นอะไรที่ผิดปกติ

อ้อ บริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล จำนวน 0.162 บาท ซึ่งถ้าเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบันก็คิดเป็นอัตราผลตอบแทนถึง 2% เศษสำหรับงวดครึ่งปีแรก ซึ่งหากผลประกอบการทรงตัวเช่นนี้ไปเรื่อยๆ และบริษัทยังจ่ายปันผลออกมาในอัตราประมาณเดียวกัน จะทำให้ BEAUTY เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสูงถึง 4% กว่าๆเลยทีเดียว

เมื่อเรื่องของงบไตรมาส 2 ไม่ได้มีอะไรที่น่าตกใจ ทีนี้ก็เหลือปัญหาเรื่องของความเชื่อมั่นแล้วล่ะ ที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของราคาหุ้น BEAUTY นับจากนี้ โดยความกังวลที่ยังคงเหลือในเวลานี้ก็คือ

1. ผู้ถือหุ้นใหญ่จะขายหุ้นออกมาอีกหรือไม่ - อันนี้ไม่มีใครตอบได้ และแม้ตัวผู้ถือหุ้นใหญ๋จะออกมายืนยันว่าไม่ขายเพิ่ม แต่นักลงทุนก็มีสิทธิจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้

2. เรื่องการตกแต่งตัวเลข ทำสต็อกปลอม เพราะงบโตมากผิดปกติในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ร้านเหมือนจะไม่มีคนเข้า

3. แนวโน้มการเติบโตในอนาคต ซึ่งรู้กันอยู่แล้วว่า คงโตไม่ได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา แต่จะยังโตสักเท่าไหร่ หรือว่าจะแย่ลงไปกว่านี้ ตรงนี้มีผลอย่างมากต่อการประเมินราคาเหมาะสมของหุ้น

หลายคนมองว่า ราคาหุ้นบริเวณนี้ ถ้าสมมติให้บริษัทไม่เติบโตเลย และมีการจ่ายปันผลในระดับนี้ไปได้ตลอดนับจากนี้ ก็ถือว่าราคายังถูกเกินไป ราคาควรกลับไปอยุ่ ณ จุดที่มันควรเป็น

แต่หากมองว่า ธุรกิจจะยังคงเติบโต แต่ไม่ได้มากเหมือนที่ผ่านมา ราคา ณ ปัจจุบันก็ยิ่งถูกเกินไปกว่ากรณีแรก

แต่สิ่งที่คนกลัวก็คือ ผลประกอบการมันจะลดลงนับจากนี้น่ะสิ ถ้าเป็นเช่นนั้น ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน อาจเหมือนถูกในเวลานี้ แต่อาจจะแพงในวันข้างหน้าก็เป็ฯได้

ดังนั้น ใครจะให้ราคาหุ้นตัวนี้ที่เท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับว่า มองอนาคตของบริษัทเป็นอย่างไร

การอ่านบทวิเคราะห์ของโบรก และดูราคาเหมาะสม ต้องดูรายละเอียดลงไปด้วยว่า นักวิเคราะห์รายนั้นมีมุมมองต่อผลประกอบการในอนาคตของบริษัทเป็นอย่างไร เติบโตเท่าไหร่

ไม่ใช่อ่านแต่ตัวเลขราคาเหมาะสม แล้วซื้อหรือขายตามนั้นทันที โดยไม่อ่านสมมติฐานใดๆเลย


คนเล่นหุ้น