พาวเวลล์ “เปิดช่องขึ้นดอกเบี้ย

พาวเวลล์ “เปิดช่องขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 5.1%” หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯแข็งแกร่งเกินคาด

1.จีนปฏิเสธเพนตากอนเมื่อทางสหรัฐฯพยายามจัดให้มีการติดต่อทางโทรศัพท์ระหว่างรัฐมนตรีกลาโหม ลอยด์ ออสตินกับรัฐมนตรีกลาโหมของจีน หลังจากที่สหรัฐฯยิงบอลลูนสอดแนมของจีนตก

ทั้งนี้สหรัฐฯอ้างว่าบอลลูนดังกล่าวเป็นอุปกรณ์สอดแนม และเจ้าหน้าที่กล่าวว่าพวกเขาไม่มีข้อผูกมัดที่จะต้องแจ้งให้ปักกิ่งทราบก่อนที่จะยิงมันลงมา ขณะที่จีนอ้างว่าเป็นบอลลูนตรวจอากาศ ทำให้ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีนตกต่ำลงไปอีก

2. 2 เดือนหลังจากประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเยือนซาอุดิอาระเบีย ผู้นำฮ่องกง จอห์น ลี ก็ได้เดินตามรอยเท้าของเขาโดยมีเป้าหมายสำคัญอยู่ในใจ

จอห์น ลี เสร็จสิ้นการเดินทางเยือนซาอุฯเป็นเวล 2 วันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้แสดงท่าทีให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป้าหมายของเขาคือการโน้มน้าวบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง Saudi Aramco ให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง แม้ว่าจะมีคู่แข่งจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและลอนดอนก็ตาม

ทั้งนี้การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของ ลี ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมเป้าหมายของ สี จิ้นผิง ในการกระชับความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับซาอุฯ โดยทาง Aramco มีมูลค่าตลาดประมาณ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่า Tencent ถึง 4 เท่า ที่ปัจจุบันเป็นหุ้นที่มีมูลค่ามากที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง

3.Meta กำลังขอให้ผู้จัดการและกรรมการหลายคนเปลี่ยนงานเป็นผู้สนับสนุนรายบุคคลหรือลาออกจากบริษัท เนื่องจากบริษัทพยายามทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยกระบวนการนี้เป็นที่รู้จักกันเป็นการภายในว่า “flattening” แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้งานผู้สนับสนุนรายบุคคลจะไม่มีลูกน้องภายใต้บังคับบัญชา แต่จะมุ่งเน้นไปที่งานต่างๆ เช่น การเขียนโค้ด การออกแบบ และการวิจัยแทน โดย Meta ซึ่งเป็นเจ้าของ Facebook และ Instagram ได้ไล่พนักงานออก 13% ในเดือนพฤศจิกายน

ในข่าวเทคโนโลยีอื่นๆ Microsoft ได้เปิดตัว Bing เสิร์ชเอ็นจิ้นและเบราว์เซอร์ Edge เวอร์ชันใหม่ที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากผู้สร้าง ChatGPT อย่าง OpenAI

4.หุ้นในเอเชียเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดแบบผสมผสานหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นในช่วงท้ายตลาดที่ผันผวนหลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ ปฏิเสธโอกาสที่จะกดดันการมองโลกในแง่ดีของนักลงทุน

ดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ฮ่องกงร่วงลง ส่วนดัชนี S&P500 ปิดบวกมากกว่า 1% หลังจากระหว่างวันที่ปรับตัวลงถึง 0.6% ขณะที่ Nasdaq100 ที่เน้นหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นได้ดีกว่า โดยปิดบวกกว่า 2% ส่วนพันธบัตรออสเตรเลียปรับตัวลดลงในการซื้อขายช่วงเช้าตามการลดลงของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

Source: Bloomberg