ห้องเม่าปีกเหล็ก

หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เก็งข้ามช็อต GRM ฟื้นใน 4Q และปี 60

โดย 98 Degree
เผยแพร่ :
87 views

หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เก็งข้ามช็อต GRM ฟื้นใน 4Q และปี 60

 

 

ในช่วงฤดูประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 หุ้นกลุ่มโรงกลั่นถูกนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลประกอบการอาจไม่สดใสนัก แต่ยังน่าติดตามกันต่อในไตรมาส 4 และปีหน้า ที่มีลุ้นทิศทางค่าการกลั่น หรือ GRM จะเพิ่มขึ้นช่วยหนุนผลประกอบการ
 
คุณนลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส บอกกับ Money Channel ว่า หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นที่ถูกเก็งกำไรนั้น ด้วยเหตุผลที่เข้าสู่ปัจจัยบวกด้านฤดูกาล หรือ High Season ของธุรกิจ เพราะจากสถิติจะพบว่าค่าการกลั่นจะเข้าสู่ช่วงพีคตั้งแต่ปลายไตรมาส 4 ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสแรกปีหน้า ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่าจะอยู่ที่ 6-7 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ซึ่งอยู่ที่ 4-5 เหรียญต่อบาร์เรล ตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่าเป็นเพียงแค่ภาวะเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น
 
โบรกเกอร์รายนี้มองผลประกอบการกลุ่มโรงกลั่นไตรมาส 3 จะไม่สดใส เพราะค่าการกลั่นลดลงต่ำกว่าไตรมาส 2 เฉลี่ยประมาณ 0.50-1.00 เหรียญต่อบาร์เรล รวมถึงยังมีผลกระทบจาก Stock Loss ที่คาดจะเกิดขึ้นในบางบริษัทฯ โดยแรงเก็งกำไรเข้ามาเชื่อว่านักลงทุนมองข้ามปัจจัยลบผลประกอบการไตรมาส 3ไปแล้ว และสะท้อนปัจจัยบวกที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
 
ส่วนหุ้นที่ทาง “เอซีย พลัส” ยังแนะนำ ได้แก่ BCP (ราคาพื้นฐาน 38 บาท) โดยล่าสุดเพิ่งเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" เพราะราคาหุ้นลดลงมาจนมี Upside เมื่อเทียบกับมูลค่าพื้นฐาน และอีกหุ้นคือ TOP (ราคาพื้นฐาน 78 บาท) ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าธุรกิจทั้งสองบริษัทมีสัดส่วนโรงกลั่นถึง 70% ทำให้ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของค่าการกลั่นมากที่สุด ขณะราคายัง Laggard อยู่มากเมื่อเทียบกับกลุ่ม
 
ด้านคุณวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ หัวหน้านักวิเคราะห์ค่าย “บัวหลวง” ให้ข้อมูลกับ Money Channel ถึงหุ้นกลุ่มนี้ว่า แม้ภาพรวมค่าการกลั่นรวม (GRM)จะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ถ้าแยกธุรกิจของกลุ่มโรงกลั่นแล้ว พบว่าค่าการกลั่นสายเบนซิน ได้แก่ SPRC และ ESSO ที่ราคาหุ้นดีดขึ้นมาร้อนแรง มองว่าเป็นความเสี่ยงหากนักลงทุนจะเข้าไปไล่ราคา หลังประเมินค่าการกลั่นสายเบนซินได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้วเมื่อเดือน ม.ค. 58 แม้ว่าจะทรงตัวได้ แต่ถือว่ามี Downside มากกว่าโรงกลั่นที่อิงกับค่าการกลั่นสายดีเซลอย่าง TOP ที่มีกำลังผลิตดีเซลถึง 60% ของกำลังผลิตรวม 
 
โดย TOP เป็นหุ้นโรงกลั่นที่ผลิตดีเซลมากที่สุดในบรรดาโรงกลั่นไทย  ขณะปัจจุบันค่าการกลั่นสายดีเซลเพิ่งจะบวกขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน และมีโอกาสฟื้นตัวได้เด่นชัดตั้งแต่ไตรมาส 4/59 จนถึงปี 2560 
 
ปัจจัยสนับสนุนมาจากทิศทางเศรษฐกิจโลกขยายตัว หนุนการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนในการดำเนินธุรกิจมากขึ้นตามลำดับ ขณะที่ดีมานด์น้ำมันดีเซลจะเริ่มฟื้นตัวตามการขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า
 
สำหรับสเปรดอะโรเมติกส์ของ TOP ที่ยังคงทรงตัวในระดับไม่สูงนัก คุณวิกิจ มองว่า ปัจจุบันมี Downside จำกัดแล้ว เพราะคาดในปี 2560 สเปรดจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น สังเกตได้จากเมื่อปี 2556-2557 ที่มีปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย แต่ระดับเสปรดของผลิตภัณฑ์ PX ยังทรงตัวบวกลบแถวบริเวณ 400 เหรียญต่อตัน ซึ่งใกล้เคียงกับสเปรดในปัจจุบัน ทำให้เชื่อว่าในปี 2560 ซัพพลายจะเข้าในตลาดลดลง จึงเป็นปัจจัยหนุนสำคัญหนุนเสปรดอะโรเมติกส์ให้มีลุ้นขึ้นได้ถึง 600 เหรียญต่อตัน
 
เหตุผลดังกล่าว “บัวหลวง” จึงเล็งหุ้นเด่นกลุ่มโรงกลั่น คือ TOP  (ราคาพื้นฐาน 80 บาท ) โดยเพิ่มน้ำหนักเป็น “Overweight” ส่วนหุ้น SPRC และ ESSO ลดน้ำหนักเหลือแค่ “Neutral”
 
*********************************
ทีม Business&Finance, Money Channel

98 Degree