ภาพของธุรกิจ Banpu จะเปลี่ยนไป
จากธุรกิจรุ่นเก่าอย่างถ่านหิน มาเป็นพลังงานหมุนเวียนและโรงไฟฟ้า
น่าติดตามครับ
---------------------
BANPU วางงบลงทุน 5 ปี 4.25 หมื่นลบ. เน้นลงทุนพลังงานหมุนเวียน วางเป้ากำลังผลิตไฟฟ้าปี 68 แตะ 6,100 MW จากปีนี้ 4,317 MW คาดผลงานปีนี้แจ่ม ได้ธุรกิจเหมือง-ราคาก๊าซสูงขึ้น หนุน
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยในงาน แถลงผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2564 และทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ว่า บริษัทเตรียมเงินลงทุน 42,500 ล้านบาท สำหรับแผนธุรกิจ 5 ปี (64-68) แบ่งเป็นเงินที่จะได้จากการเพิ่มทุน 21,900 ล้านบาท และเงินจากการออกหุ้นกู้ 16,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้เพื่อลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน เน้นลงทุนใน green asset และธุรกิจเทคโนโลยี พลังงาน (Energy Technology)
โดยปี 65 จะมีเงินเพิ่มทุนที่ออกเป็นวอร์แรนต์ 8,500 ล้านบาท เน้นลงทุนพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจเทคโนโลยี พลังงาน ปี 66 เตรียมเงินเพิ่มทุนที่ออกเป็นวอร์แรนต์อีกชุดจำนวน 9,500 ล้านบาท ใช้ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เน้นลงทุนใน green asset ทั้งหมด
ส่วนธุรกิจเหมืองถ่านหินจะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่สร้างเองลงทุน
อย่างไรก็ตาม วงเงินดังกล่าวอาจจะเพิ่มได้หากโครงการที่เข้ามาใหญ่มาก ในอนาคตบริษัทก็ยังสามารถสร้างกระแสเงินสด และยังสามารถกู้สถาบันการเงินเพิ่ม และออกหุ้นกู้ หรือหาผู้ร่วมทุนได้
โดยเงินเพิ่มทุนที่จะเข้ามาเดือนก.ย.นี้ จะนำไปจ่ายค่าซื้อหุ้นในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I ในสหรัฐฯ มีมูลค่าการลงทุนรวม 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นเงินลงทุนของ BPP ตามสัดส่วนการลงทุน 215 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ส่วนเงินจากออกหุ้นกู้นำไปจ่ายคืนหนี้เดิม
ทั้งนี้ กลุ่ม BANPU ยังคงเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าภายในปี 68 จะเพิ่มเป็น 6,100 เมกะวัตต์ (MW) จากสิ้นปีนี้อยู่ที่ 4,317 เมกะวัตต์
สำหรับธุรกิจถ่านหินปีนี้ก็คาดว่าจะมีปริมาณการขายถ่านหินเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 41.9 ล้านตัน มาจากปริมาณการขายถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย 22.6 ล้านตัน, ประเทศออสเตรเลีย 12.6 ล้านตัน และประเทศจีน 6.7 ล้านตัน
ส่วนธุรกิจก๊าซคาดราคาก๊าซครึ่งปีหลังปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 4 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู จากครึ่งปีแรกเฉลี่ย 2.4 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู และเฉลี่ย 2 เหรียญสหรัฐ ในปีก่อน
"ผลการดำเนินในปีนี้คาดเป็นปีที่ดี เพราะธุรกิจหลักถ่านหินก็ดี ธุรกิจก๊าซ ราคาก๊าซก็ปรับสูงขึ้น ทำให้บริษัทมีกำไรและกระแสเงินสดจากเหมืองเข้ามา มีเงินที่จะนำไปลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ซึ่งไม่กระทบต่อการสร้างกำไรและผลการดำเนินงานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน" นางสมฤดี กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายการมี EBITDA จากธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานในสัดส่วนมากกว่า 50% ภายในปี 68
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย