PTTEP: กำไรปกติในอนาคตยังคงแข็งแกร่ง
เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 ของ PTTEP จะอยู่ที่ 1.83 หมื่นลบ. (กำไรต่อหุ้น (EPS): 4.62 บาท) ลดลง 24% YoY และ 13% QoQ การปรับลดลงทั้ง YoY และ QoQ คาดมีสาเหตุหลักมาจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของกำไรปกติและการพลิกจากมีรายได้พิเศษเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษในไตรมาส 3/2566 ทั้งนี้ จากประมาณการดังกล่าว กำไร 9 เดือนแรกของปี 2566 จะอยู่ที่ 5.86 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 6% YoY คิดเป็น 79% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 7.38 หมื่นลบ.
หากไม่รวมรายการพิเศษ เราคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 3/2566 ของ PTTEP จะอยู่ที่ 2.04 หมื่นลบ. ลดลง 14% YoY แต่เกือบจะทรงตัว QoQ สอดคล้องกับราคาก๊าซในประเทศและน้ำมันดิบที่ลดลง ในขณะที่ปริมาณการขายก็ลดลง 2% เหลือ 467 KBD อันเป็นผลสืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงระบบสัมปทานของโครงการ G1 และ G2 ในทางกลับกัน กำไรปกติเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% QoQ
เราคาดรายการพิเศษที่ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาส 3/2565 และ 25 ล้านดอลลาร์ฯ ในไตรมาส 2/2566 จะเปลี่ยนเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษที่ 60 ล้านดอลลาร์ฯ ในไตรมาส 3/2566 ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายพิเศษดังกล่าวประกอบด้วย การขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 10 ล้านดอลลาร์ฯ การขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงน้ำมัน 20 ล้านดอลลาร์ฯ และค่าใช้จ่าภาษีพิเศษ 30 ล้านดอลลาร์ฯ จากการปรับปรุงภาษีเงินได้รอตัดบัญชีของโครงการผลิตก๊าซในมาเลเซีย
ในไตรมาส 4/2566 เราคาดว่ากำไรปกติของ PTTEP จะเพิ่มขึ้น QoQ จาก ASP และปริมาณการขายที่อาจสูงขึ้น โดยเราคาดว่า ASP ของ PTTEP จะเพิ่มขึ้น 4% QoQ จากราคาขายก๊าซที่สูงขึ้นของโครงการ JDA และ Contract 4 (ปรับทุก ๆ 2 ปี)
เราคาดว่าค่าใช้จ่ายพิเศษในไตรมาส 4/2566 จะเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนและการป้องกันความเสี่ยงน้ำมันที่ลดลง อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายภาษีพิเศษอีกต่อไป โดยเราคาดว่าPTTEP อาจมีการบันทึกค่าใช้จ่ายด้อยค่าสินทรัพย์ที่ประมาณ 100-120 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากความล่าช้าของโครงการโมซัมบิกที่อาจรับรู้ในไตรมาส 4/2566 ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายด้อยค่าดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ตรวจสอบบัญชี
แนะนำ “ซื้อ” และ TP ที่ 180.00 บาท ในมุมมองของเรา ความคืบหน้าของคดีโครงการ แอชตัน อโศก ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการลงทุนของ ANAN เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลงอย่างมากถึง 10% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าได้รวมพัฒนาการที่ไม่คาดคิดล่าสุดส่วนใหญ่ไว้แล้ว