ฝรั่งทิ้งหุ้นไทย 3 ปีซ้อน ลุ้น63 รีเทิร์น
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยปี 62 กว่า 4.3 หมื่นล้านบาท ทิ้งติดต่อกัน 3 ปี รวมหุ้นและตราสารหนี้ขายกว่า 1.1 แสนล้านบาท โบรกฯมั่นใจปีหน้ากลับมาซื้อใหม่ หวังรัฐบาลเรียกเชื่อมั่น
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า มูลค่าซื้อขายสะสมของนักลงทุนต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม-24 ธันวาคม 2562 อยู่ในสถานะขายสุทธิที่ 43,457.86 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขายสุทธิลดลงจากสิ้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 287,696 ล้านบาท โดยคล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค หลังจากที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยถูกผลกระทบจากทั้งเศรษฐกิจ สงครามการค้าสหรัฐฯกับจีน และการเมืองในประเทศ
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัสฯ ระบุว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยปีนี้ถูกขายสุทธิอีกประมาณ 43,000 ล้านบาท หรือ 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นการขายสุทธิมากสุดในภูมิภาค สวนทางตลาดหุ้นหลายๆ ประเทศยังเป็นการซื้อสุทธิเกือบทั้งสิ้น นับตั้งแต่ไต้หวัน 9,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, เกาหลีใต้ 929 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และอินโดนีเซีย 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยกเว้นตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่ถูกขายสุทธิ 227 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ยังน้อยกว่าไทยมาก
นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติยังขายตราสารหนี้ไทยอีก 69,000 ล้านบาท รวมเงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นและตราสารหนี้อยู่ที่ 110,000 ล้านบาท ส่วนค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นมาเร็วและแรงสุดในภูมิภาคกว่า 7.23% ทำให้ต่างชาติได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX Gain) ซึ่งน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นตัวเร่งให้เกิดแรงขายทำกำไรในตราสารการเงินผลักดันกระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดการเงินของไทย
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์ เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ เปิดเผยว่า ภาพรวมเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติในปีนี้ยังเป็นการขายสุทธิต่อจากปีก่อน โดยมองว่ามาตรการของภาครัฐไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้ ซึ่งทิศทางในปี 2563 คาดว่าแนวโน้มจะดีขึ้นจากปีนี้ หากมีอะไรที่ชัดเจน โดยเฉพาะการเมืองไทยที่อาจจะมีเสถียรภาพมากขึ้นจากคะแนนเสียงที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม มองว่าในปี 2563 เงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติมีความพร้อมที่จะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลังจากสถานการณ์ในต่างประเทศเริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งสงครามการค้าสหรัฐฯกับจีนที่จะมีการลงนามในข้อตกลงร่วมกันเฟสแรก การออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (เบร็กซิท) ที่ส่อแววโนดีล แต่ตอนนี้คาดว่าจะดีลได้ตามกำหนดคือวันที่ 31 มกราคม 2563 และเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว สะท้อนจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2563 อยู่ที่ 3.4% สูงกว่าปี 2562 ที่อยู่ที่ 3%
นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทยฯ (มหาชน) กล่าวว่า กระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติน่าจะเห็นชัดในครึ่งหลังปี 2563 ส่วนครึ่งปีแรกคงหวังยาก ยกเว้นว่าสถาบันจัดอันดับเรตติ้งจะมีการอัพเกรดเครดิตประเทศไทย ตลาดหุ้นก็อาจมีความหวังบ้าง เพราะต่างชาติมองว่าประเทศไทยมีปัญหาใน 2 เรื่องคือ คนเริ่มแก่ตัวมากขึ้น และเรื่องการเมือง แต่แน่นอนว่าถ้ากำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ออกมาดี ดัชนีหุ้นไทยก็สามารถขยับขึ้นได้
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า เงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติคาดจะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยปี 2563 ประมาณ 100,000 ล้านบาท จากการโยกเงินจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ให้ผลตอบแทนดีในปีนี้ มายังตลาดหุ้นไทย ซึ่งในปีนี้นักลงทุนมองที่ปัจจัยระยะสั้นอย่างความเสี่ยงระหว่างประเทศ และเศรษฐกิจภายในมากกว่ามองปัจจัยพื้นฐาน จึงทำให้ตลาดหุ้นไทยไม่น่าสนใจ
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก