โดย dave
เผยแพร่ : 
482 viewsเปิดคาดการณ์ 10 บริษัทใหญ่ในตลาดหุ้นไทย
ปีนี้ใครจะจ่ายปันผลเท่าไหร่บ้าง?
.
กำลังจะหมดปี 2566 กันแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่นักลงทุนต่างเฝ้ารอ คือ เงินปันผลประจำปี 2566 ที่แต่ละบริษัทจะมีการประกาศในช่วงต้นปี 2567 ดังนั้นในครั้งนี้จึงได้รวบรวมคาดการณ์เงินปันผลงวดปี 2566 ของหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปสูงสุด 10 อันดับในตลาดหุ้นไทยมาฝากนักลงทุน โดยจะมีความน่าสนใจแค่ไหน Wealthy Thai หาคำตอบมาให้แล้ว
.
หุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปสูงสุด 10 อันดับแรก (ไม่รวม AOT เพราะรอบงบไม่เหมือนกับหุ้นอื่น) อ้างอิงข้อมูลวันที่ 7 พ.ย.66 เริ่มจาก DELTA บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในตลาดหุ้นไทย อยู่ที่ 1,050,919 ล้านบาท
.
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินปันผล DELTA งวดปี 66 คาดที่ 0.5 บาท พร้อมกับคาดกำไรหลักปี 2566 ที่ 1.81 หมื่นล้านบาท เติบโต 24% จากปีก่อน แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” เป้าหมายพื้นฐาน 84 บาท
.
ถัดมา PTT นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินปันผลรอบผลประกอบการปี 66 ที่ 2 บาท พร้อมทั้งยังคงคำแนะนำ ซื้อ PTT ราคาเป้าหมาย 40 บาท เชื่อว่าราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากคาดผลประกอบการที่น่าจะดีขึ้นในไตรมาส 3/66 และคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงถึง 5.9% ในปี 2566-2567
.
ต่อด้วย ADVANC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินปันผลปี 66 ที่ 8.5 บาท พร้อมยังแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายมาอยู่ที่ 270 บาท จากพื้นฐานแนวโน้มผลประกอบการที่ดีและมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ โดยมี EV/EBITDA เพียง 7.7 เท่า และปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 2566 ขึ้น 2% มาอยู่ที่ 29,078 บาท เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน
.
ขณะที่ PTTEP นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินปันผลปี 66 ที่ 8.8 บาท แนะนำ ซื้อ เป้าหมายพื้นฐาน 200 บาท โดยมองไตรมาส 4/66 จะเป็นดีที่สุดของปี 2566 กำไรที่แข็งแกร่งจะหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้น
.
นอกจากนี้ มูลค่าปัจจุบันยังน่าสนใจโดยซื้อขายที่ P/BV ปี 2566 อยู่ที่ 1.3 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 2 เท่าอยู่ 0.7 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีในปี 2566 ที่ 5.2% (เทียบกับ 3% โดยเฉลี่ยสำหรับตลาดหลักทรัพย์)
.
ส่วน GULF นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินเงินปันผลปี 66 ที่ 0.69 บาท เบื้องต้นคาดกำไรปกติไตรมาส 4/66 ที่ระดับ 4,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน และทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสได้ จากการ COD โรงไฟฟ้า GPD หน่วยที่ 2 และปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าลมในประเทศและโรงไฟฟ้า Jackson คงคำแนะนำ “TRADING” ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 47.50 บาท
.
ต่อกันที่ CPALL บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินปันผลปี 66 ที่ 0.93 บาท พร้อมคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 80 บาท โดยคาดไตรมาส 4/66 เห็นการเติบโตจากไตรมาสก่อน เพราะ high season ของธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก และสำหรับ CVS เองที่ปรับตัวดีขึ้นจากหมดฤดูฝน ทำให้ store traffic ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง
.
ขณะที่ BDMS นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินปันผลปี 66 ที่ 0.65 บาท แนะนำ ซื้อ คงมูลค่าพื้นฐาน 35บาท โดยคาดกำไรงวดไตรมาส 4/66 มีแนวโน้มทรงตัวจากไตรมาส 3/66 จากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เติบโตต่อเนื่อง เป็นผลให้คาดกำไรทั้งปี 66 จะเติบโตราว 9.6%
.
ส่วน SCC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินปันผลปี 66 ที่ 5.25 บาท คงคำแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 360 บาท
.
คาดแนวโน้มกำไรครึ่งหลังปี 66 ที่ลดลงจากครึ่งปีแรก และเป็นการลดลงต่อเนื่องในไตรมาส 3-4/66 สามารถรอดูการฟื้นของ spread ปิโตรเคมีและแผนการ COD โครงการ LSP ในช่วงไตรมาส 4/66-1/67 ค่อยเก็งกำไรการฟื้นตัวของปี 67-68 ที่การ oversupply ของปิโตรเคมีลดน้อยลงและ LSP ผลิตเพิ่มขึ้นตามการฟื้นของ demand
.
ต่อด้วย SCB นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินปันผลปี 66 ที่ 6 บาท โดยแนะนำ ซื้อ ปรับเป้าหมายใหม่ที่ 115 บาท นอกจากนี้ยัง คาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลมากกว่า 6% ในปี 2567 พร้อมกับคาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 8.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อและ NIM เพิ่มขึ้น
.
ปิดท้ายที่ KBANK นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินปันผลปี 66 ที่ 4.82 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 155 บาท เพราะภาพรวม KBANK มองว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ KBANK ดูดีขึ้น การทำธุรกิจร่วมทุน JK AMC ทำให้ KBANK มี Balance Sheet ที่แข็งแกร่งขึ้น
.
อีกทั้งเป็นหนึ่งในธนาคารที่ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีมากขึ้น และเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนา Digital Banking เพื่อต่อยอดธุรกิจหลัก รวมถึงการเพิ่มช่องทางการเติบโตใหม่ต่อเนื่อง
