ห้องเม่าปีกเหล็ก

10 อันดับบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงสุด

โดย ROE
เผยแพร่ :
127 views

10 อันดับบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงสุด

ไม่น่าแปลกใจที่หุ้นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีมีราคาปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยบริษัทเหล่านี้ได้ผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคโดยอาศัยการพัฒนานวัตกรรมที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นกลุ่มนี้อย่างเป็นกอบเป็นกำ บทความนี้จึงได้รวบรวม 10 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลกที่สร้างมูลค่าสูงสุดว่ามีบริษัทใดบ้าง ไปดูกัน!!!

  1. APPLE (AAPL) : ในทศวรรษนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก Steve Jobs ผู้ก่อตั้ง Brand ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกอย่าง APPLE โดยเขาได้เริ่มก่อสร้างบริษัทร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนได้แก่ Steve Wozniak และ Ronald Wayne ในวันที่ 1 เมษายน 1976 หรือเมื่อเขาอายุเพียง 30 ปีเท่านั้น โดย Steve Jobs ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับวงการเทคโนโลยี โดยการเริ่มต้นจากการพัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้สำเร็จ แล้วจึงตามไปด้วยการพัฒนาโทรศัพท์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย อย่าง iPhone ปัจจุบันบริษัทได้บริหารโดย CEO อย่าง Tim Cook ด้วยมูลค่าตลาดกว่า $875.3 พันล้าน โดยมีอัตราการเติบโตถึง 770% ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา
  2. Amazon (AMZN) : ยักษ์ใหญ่แห่งด้านการซื้อขายออนไลน์อย่าง Amazon ได้เริ่มต้นธุรกิจจากภายในโรงรถในช่วงกลางปี 90 Jeff Bezos ซึ่งอดีตเคยเป็น VP ของบริษัทใน Wall Street ก่อนที่จะหันมาทำธุรกิจซื้อขายผ่านระบบ Internet หลังจากที่เห็นโอกาสช่วง Internet Online กำลังบูม จากนั้นเขาจึงนำเทคโนโลยี AI หรือ Artificial Intelligence มาประยุกต์ใช้กับการระบบการซื้อขายสินค้าผ่านระบบ Online รวมไปถึงระบบบริการต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วย ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานมากถึง 566,000 คน มีมูลค่าตลาดถึง $719.1 พันล้าน และมีอัตราการเติบโตถึง 2020% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
  3. Facebook (FB) : ถ้าอยากจะรู้ที่มาของ Facebook หละก็ ลองเข้าไปหาหนังเรื่อง “The Social Network” ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อตั้งเครือข่ายสังคมที่มหาวิทยาลัย Harvard เพื่อทำความรู้จักกันระหว่างหมู่นักศึกษา รวมไปถึงการรวบรวมข้อมูลและคุณสมบัติของผู้ใช้งานในรูปแบบของ Social Media อีกด้วย โดยผู้ก่อตั้ง Facebook คือ Mark Zuckerberg ร่วมกับเพื่อนอีก 4 คนได้แก่ Eduardo Saverin, Andrew McCollum, Dustin Moskovitzand Chris Hughes เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2004 ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าตลาด $520 พันล้าน และสามารถเติบโตได้ 483% ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
  4. Alphabet (GOOG) : หากต้องการค้นหาข้อมูลอย่างใดอย่างหนึ่ง หลายคนคงนึกถึง Google ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ค้นหาในระบบ Online โดย Google ซึ่งถูกก่อตั้งโดย Larry Page and Sergey Brin ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานถึง 72,053 คน โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Mountain View รัฐ California มีมูลค่าตลาด $784.2 พันล้าน และมีอัตราการเติบโต 411% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
  5. Microsoft (MSFT) : บริษัทได้ถูกก่อตั้งตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษปี 07 ใน Albuquerque ที่ New Mexico โดยต้องใช้เวลากว่า 10 ปี ที่จะสามารถเสนอขายหุ้นให้กับสาธารณะชน (IPO) ได้ โดยได้เงินมากถึง $61 ล้าน ณ เวลานั้น จากการระดมทุนในครั้งนั้น ทำให้เกิดมหาเศรษฐีซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกอย่าง Bill Gates โดย Microsoft เป็นบริษัทที่ลงทุนในด้านเทคโนโลยี Software รวมถึงเทคโนโลยี Video Games ที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ปัจจุบัน CEO ของบริษัทคือ Satya Nadella มีพนักงานบริษัทมากถึง 124,000 คน และมีมูลค่าตามตลาด $724.2 พันล้าน โดยมีการเติบโตช่วง 10 ปีที่ผ่านมาถึง 231%
  6. Twitter (TWTR) : อีกหนึ่ง Social Media ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายก็คือ Twitter ซึ่งบางครั้งได้ถูกเรียกว่า Friendstalker หรือ Application ที่ใช้ค่อยติดตามเพื่อนๆ หรือคนที่มีชื่อเสียงต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่า แม้แต่ประธานาธิบดีของสหรัฐอย่าง Donald Trump ยังใช้พื้นที่ของ Twitter เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารกับผู้ติดตามของเขา ปัจจุบัน Twitter ถูกบริหารด้วย CEO อย่าง Jack Dorsey มีพนักงานเพียง 3,583 คน โดยมีสำนักงานใหญ่ที่ San Francisco รัฐ California และมีมูลค่าทางตลาด $24.15 พันล้าน ด้วยการเติบโตติดลบ 28% ในช่วง 10ปีที่ผ่านมา
  7. ALIBABA (BABA) : หากพูดถึงนักธุรกิจจีนที่ประสบความสำเร็จ และเป็นที่รู้จักในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา หลายคนคงนึกถึง Jack Ma ผู้ก่อตั้ง ALIBABA ร่วมกับ Peng Lei เมื่อเดือนเมษายน 1999 โดย ALIBABA บริษัทที่มีเชื้อสายจีน และถือได้ว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของ Amazon โดยบริษัทสามารถระดมทุนจากสาธารณะหรือ IPO ได้มากถึง $21.8 พันล้าน ซึ่งถือว่าเป็นการระดมทุนด้วยมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ ปัจจุบันบริษัทบริหารโดย CEO อย่าง Daniel Zhang โดยมีมูลค่าตามตลาด $496 พันล้าน และมีการเติบโต 108% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
  8. NETFLIX (NFLX) : เมื่อหลาย 10 ปีก่อน หากจะดูหนังแต่ละทีคงต้องไปเช่าหาหนังตามร้านเช่น CD/DVD ต่างๆ หรือต้อง Download หนังหลายชั่วโมง กว่าจะได้ดูแต่ละเรื่อง ปัจจุบันคงไม่ต้องทำอย่างนั้นแล้ว ตั้งแต่มีระบบบริการดูหนังผ่าน Streaming ซึ่งได้รวบรวมหนังหรือรายการโทรทัศน์ที่น่าสนใจเอาไว้ เพียงแค่ให้ผู้บริโภคชำระค่าบริการเป็นรายเดือน ปัจจุบัน Netflix ยังลงทุนเพื่อผลิตหนังหรือรายการแสดงต่างๆ เพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทุกวัย ปัจจุบัน CEO ของบริษัทคือ Reed Hasting มีมูลค่าการซื้อขายตามตลาด $124.1 พันล้าน และมีการเติบโตมากถึง 6259% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
  9. PAYPAL (PYPL) : บริษัทที่ให้บริการระบบการจ่ายเงินออนไลน์ที่สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ากรณีที่ซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ โดยจะเห็นได้จากการซื้อของอย่างเช่นใน eBay นอกจากนั้น บริษัทยังเคยได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 10 ไอเดียธุรกิจที่มีค่าของปี 1999 บริษัทได้ก่อตั้งตั้งแต่เดือนธันวาคม 1998 ปัจจุบัน Daniel Schulman เป็น CEO มีการมูลค่าตลาด $95.6 พันล้าน และมีการเติบโต 129% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
  10. TESLA (TSLA) : หากนึกถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นที่นิยม คงหนีไม่พ้นบริษัทผู้ผลิตยักษ์ใหญ่อย่าง TESLA ที่มี CEO อย่าง Elon Musk เป็นผู้บริหาร โดยบริษัทเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ รวมไปถึงพลังงานหมุนเวียน นอกจากนั้น ยังมีโครงการที่ทั่วโลกให้การติดตามอย่าง The Model X อีกด้วย ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าการตลาด $59.5 พันล้าน และมีการเติบโตถึง 1728% ในช่วง 10 ปีทีผ่านมา

ที่มา https://trendingstock.today


ROE